บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (ไทคอน) ประกาศว่า กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Thailand Equity Fund : TEF) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพรายเดียวของบริษัท ที่ถือหุ้นจำนวน 50 ล้านหุ้น ได้ตกลงที่จะแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดเป็นหุ้นสามัญ
“ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทจึงขอให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญของบริษัทในสัดส่วน1 หุ้นบุริมสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้รับหนังสือแจ้งความจำนงจากกองทุนเพื่อการร่วมทุนในการแปลงหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 50,000,000 หุ้น ที่มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการแปลงสภาพหุ้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2549 การแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิของกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนครั้งนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงการสนับสนุนของกองทุนร่วมลงทุนที่มีต่อไทคอน นอกจากนี้ การแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิยังช่วยเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของหุ้นไทคอนด้วย” คุณวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการของไทคอนกล่าว
การที่บริษัทมีมูลค่าตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นนั้น จะช่วยให้นักลงทุนประเภทกองทุนพิจารณาลงทุนในหุ้นไทคอนมากขึ้นเนื่องจากสามารถลงทุนได้ในจำนวนมากขึ้นประกอบกับไทคอนเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย ทั้งนี้ ภายหลังการแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิดังกล่าว ทุนที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัทจะประกอบไปด้วยหุ้นสามัญรวมทั้งสิ้น 537.29 ล้านหุ้น และกรรมการที่เป็นตัวแทนของกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนจะยังคงเป็นกรรมการของไทคอนต่อไป
ปัจจุบันไทคอนบริหารโรงงานให้เช่าทั้งหมด 185 โรงงาน ทั้งนี้ นับรวม 39 โรงงานซึ่งได้ขายให้กับ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TICON Property Fund : TFUND) ในปี 2548 โดยไทคอนมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนโรงงานให้เช่าภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเป็น 290 โรงงาน ภายหลังจากที่โรงงานที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างได้รับการพัฒนาแล้วเสร็จและให้เช่าได้
โดยก่อนหน้านี้ไทคอนยังได้ประกาศถึงการขายโรงงานเพิ่มเติมให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน และกล่าวถึงโครงการพัฒนาสวนการขนส่งและคลังสินค้า (Logistics Park) ซึ่งเป็นสวนการขนส่งและคลังสินค้าขนาดใหญ่โครงการแรกของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
