มูลนิธิจีเอ็มตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและรักษาโรคที่เป็นภัยคุกคามสุขภาพประชากรโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในถิ่นทุรกันดารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงประกาศความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) อย่างเป็นทางการ เนื่องในวันอนามัยโลก (7 เมษายน) โดยให้ความสนับสนุนยานพาหนะ เพื่อขนส่งอุปกรณ์ที่จำเป็น บุคลากร และเครื่องมือทางการแพทย์ ไปยังพื้นที่ห่างไกลที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการแพทย์อย่างเร่งด่วน โดยมูลนิธิจีเอ็มและซีดีซีจะนำรถยนต์อเนกประสงค์ และกระบะขนาดกลาง ไปใช้ใน 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ไทย เคนย่า แองโกล่า แทนซาเนีย อูกานดา แอฟริกาใต้ และลาว
ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการด้านสุขภาพ นายแพทย์สตีเว่น เบล้าท์ กล่าวว่า “ความสะดวกรวดเร็วในการขนส่งบุคลากร อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ในการควบคุมโรคระบาด การรักษาดูแลอย่างทันท่วงที และการติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพของจีเอ็ม จะช่วยให้ซีดีซีและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมมือกัน สามารถส่งคนและอุปกรณ์ไปยังสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ ค้นหาและระงับการแพร่ระบาดของโรคที่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ เช่น โรคเอดส์และไข้หวัดนก ได้อย่างทันท่วงที”
ปัจจุบัน ซีดีซี กำลังทำงานอย่างแข็งขัน โดยร่วมมือกับหน่วยงานสุขภาพต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อเข้าแก้ไขปัญหาภัยสุขภาพที่ท้าทาย จัดทีมงานและตั้งหน่วยงานในภาคสนาม ดำเนินงานและจัดกิจกรรมด้านสาธารณสุขใน 43 ประเทศ ภายใต้ความร่วมมือ และการสร้างพันธมิตรร่วมกับภาคราชการและหน่วยงานบริการสุขภาพกับประเทศเจ้าบ้าน ทำให้แพทย์ และนักวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ของ ซีดีซี ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบุคลากรต่าง ๆ ในพื้นที่ นำเอาความรู้ วิทยาการด้าน การเฝ้าระวังโรค วิทยาการระบาดวิทยา การวิเคราะห์วิจัยทางห้องปฎิบัติการและการปฎิบัติการควบคุมโรคที่รวดเร็ว ณ จุดที่เกิดปัญหา
มร. ร็อด กิลลัม รองประธานฝ่ายบริหารและจััดการองค์กร เจนเนอรัล มอเตอร์ส และ ประธาน มูลนิธิจีเอ็ม กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนยานพาหนะให้แก่ซีดีซี แม้ว่ามูลนิธิจีเอ็มจะไม่ได้เข้าไปรักษาโรคภัยที่ทำลายสุขภาพของประชากรโลกโดยตรง แต่เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนยานพาหนะที่มีคุณภาพในการนำความช่วยเหลือด้านการแพทย์ เพื่อบรรเทาการเจ็บป่วย ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคร้าย และนำสุขภาพอนามัยที่ดี ไปสู่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก”
ทั้งนี้ จีเอ็มและมูลนิธิจีเอ็มจะสนับสนุนรถ จำนวน 16 คัน อาทิ รถกระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด และจัดส่งไปยังศูนย์ของซีดีซี ภายในช่วงปี 2549 ถึง 2550 โดยในปีนี้ ซีดีซี จะมอบรถยนต์จำนวน 9 คันแรก ให้แก่ โครงการต่าง ๆ ในประเทศกัมพูชา เคนย่า และ ประเทศไทย เพื่อใช้ในกิจกรรมในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สนับสนุนการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ และเอดส์ รวมถึงดูแลสุขภาพของประชากรที่อพยพ การค้นหาการระบาด การควบคุมโรค และจัดระบบการเฝ้าระวังโรคในระดับชุมชน
ในส่วนของ ซีดีซี ประเทศไทยนั้น รถยนต์เชฟโรเลตจะเพิ่มศักยภาพในการจัดส่งตัวอย่างทางชีววิทยาและเครื่องมือการปฎิบัติการ ของโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ 20 แห่ง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมโครงการต่าง ๆ และการวิจัยที่เกี่ยวกับ แผนป้องกันและบรรเทาฉุกเฉินเพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ (President’s Emergency Plan for AIDS Relief) เพื่อยับยั้งโรคเอดส์ และโรควัณโรค นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของซีดีซี จะใช้รถยนต์เชฟโรเลตเพื่อเยี่ยมเยียนชุมชนในเขตทุรกันดารของประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์โรคระบาด เช่น โรคไข้หวัดนกและโรคภัยที่คุกคามอื่น ๆ รถยนต์เชฟโรเลต จะมีส่วนช่วยรักษาชีวิตของผู้คนที่ประสบกับโรคภัยดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก
ในประเทศเคนย่า ซีดีซีก็ได้ดำเนินงานตามแผนป้องกันและบรรเทาฉุกเฉินเพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ (President’s Emergency Plan for AIDS Relief) เช่นกัน โดยยานยนต์ของจีเอ็ม จะทำหน้าที่ขนส่งยาต้านไวรัสโรคเอดส์ ไปยังโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ การใช้รถของจีเอ็มในการขนส่ง แทนการใช้รถกระบะที่ไม่มีหลังคา จะช่วยป้องกันยาและเวชภัณฑ์อย่างถูกสุขลักษณะและปลอดภัย ป้องกันความเสียหายจากแดด ฝน และความเสี่ยงจากการถูกขโมยได้
ในประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่ซีดีซีได้ใช้ยานยนต์ของจีเอ็มในการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการวิจัยและวินิจฉัยเชื้อโรค HIV หรือ เอดส์ และกระแพร่ระบาดของเชื้อโรคอื่น ๆ นอกจากนี้ รถยนต์ของจีเอ็มยังช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงขนส่งยาและเสบียง ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
“นับวันสุขภาพของประชากรโลก มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาศักยภาพของซีดีซีในการป้องกันและควบคุมโรค ในประเทศต่าง ๆ จึงนับเป็นภาระกิจที่สำคัญยิ่ง เราเล็งเห็นว่าความร่วมมือของมูลนิธิจีเอ็มในการสนับสนุนยานพาหนะ จะช่วยให้การทำงานของซีดีซีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปกป้องประชากรโลกจากโรคภัยทั้งปวง” มร. ชาส์ล สโตคส์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิซีดีซี กล่าว
มูลนิธิซีดีซี ก่อตั้งขึ้นโดยสภาคองเกรซ สหรัฐอเมริกา มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และประสานความร่วมมือระหว่างซีดีซี กับ ประเทศต่าง ๆ ซึ่งในประเทศไทยได้มี ศูนย์ความร่วมมือไทย -สหรัฐด้านสาธารณสุข (Thai MOPH-US CDC Collaboration) เป็นหน่วยงานประสานงานในประเทศระหว่างบุคคลทั่วไป องค์กรทั่วไป ในการร่วมกันต่อสู้กับภัยที่คุกคามสุขภาพ
ในส่วนของมูลนิธิจีเอ็มนั้น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2519 บนพื้นฐานปรัชญาด้านมนุษยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งในปี 2547 ได้มีการกระจายสาขาของมูลนิธิไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และมีเงินสนุบสนุนในกองทุนทั้งสิ้น 2,720 ล้านบาท (68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งมูลนิธิจีเอ็มได้มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2547 ที่ผ่านมา