บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้สำรวจตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณที่พักตากอากาศสำคัญ ได้แก่ หัวหิน ชะอำและปราณบุรี โดยมีขอบเขตการสำรวจเริ่มตั้งแต่หาดเจ้าสำราญลงไปตามถนนเพชรเกษมถึงหัวหิน และปราณบุรี เน้นเฉพาะโครงการที่เปิดขายระหว่างปี 2546-2548 พบว่ามีคอนโดมิเนียมเปิดขายจำนวน 1,513 ยูนิต จาก 16 โครงการ โดยคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบน (ราคาขายเฉลี่ย 40,000- 65,000 บาทต่อตารางเมตร) มีสัดส่วนมากที่สุดในตลาด จำนวน 1,107 ยูนิต จาก 12 โครงการ (คิดเป็น 73.2% จากอุปทานทั้งหมด) ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณชายหาดชะอำ ในขณะที่คอนโดมิเนียมระดับกลาง (ราคาขายเฉลี่ย 30,000- 40,000 บาทต่อตารางเมตร) มีเพียง 1 โครงการ จำนวน 207 ยูนิต หรือ ประมาณ 14% จากจำนวนยูนิตทั้งหมดในตลาด และในส่วนของคอนโดมิเนียมระดับบน (ราคาขายเฉลี่ย 65,000- 120,000 บาทต่อตารางเมตร) มีทั้งหมด 199 ยูนิต หรือ ประมาณ 13% จากจำนวน ยูนิตทั้งหมดในตลาด
ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้วพื้นที่ชะอำมีการพัฒนาคอนโดมากที่สุด ประมาณ 59% ของอุปทานทั้งหมด (892 ยูนิต) เนื่องจากมีชายหาดที่ค่อนข้างยาว ส่วนพื้นที่หัวหินมีคอนโดมิเนียมประมาณ 21% ของอุปทานทั้งหมด หรือ 324 ยูนิต ส่วนที่เหลือตั้งอยู่ในพื้นที่อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริเวณชายหาดหัวหินมีที่ดินเปล่าริมชายหาดจำนวนลดลง และบริเวณชายหาดชะอำมีที่ดินเปล่าริมชายหาดจำนวนจำกัด ในขณะที่พื้นที่ปราณบุรียังคงมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาค่อนข้างมาก ทำให้คาดว่าปราณบุรีจะเป็นพื้นที่ ๆ มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมมากขึ้นในอนาคต
สำหรับยอดขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในไตรมาสสี่ปี 2548 อยู่ที่ 72% เพิ่มขึ้นจาก 68% ในไตรมาสที่สาม ในขณะที่ยอดขายคอนโดในไตรมาสที่สี่ปี 2547 อยู่ที่ 50% ส่วนคอนโดที่ขายดีที่สุด คือ คอนโดระดับกลางถึงบนและคอนโดระดับพรีเมี่ยม ซึ่งมียอดขายเฉลี่ยรวม 65% ในส่วนของคอนโดระดับกลางนั้นมียอดขายเฉลี่ยที่ 97% ซึ่งมีเพียง 1 โครงการและเป็นโครงการที่เปิดขายมานานแล้ว ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายคอนโดขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง มาจากความนิยมในที่พักตากอากาศบริเวณชายหาดด้านอ่าวไทยเพิ่มสูงขึ้นหลังจากเหตุการณ์สึนามิ รวมทั้งระดับราคาที่มีความสมเหตุสมผล ทำเลที่ตั้ง และสาธารณูปโภคที่หลากหลาย ในส่วนของคอนโดระดับบนนั้น มียอดขายเฉลี่ยในไตรมาสที่สี่ปี 2548 ที่ 61% เพิ่มขึ้นจาก 45% ในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ ไนท์แฟรงค์พบว่าปลายปี 2548 กลุ่มผู้ซื้อซึ่งเป็นนักลงทุนชาวต่างชาติได้ทยอยเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงเป็นเศรษฐีชาวกรุงเทพและชาวต่างชาติที่สนใจซื้อคอนโดเพื่อเป็นบ้านพักหลังที่สองหรือเพื่อพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดคอนโดบริเวณหัวหิน ชะอำ และปราณบุรี มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ไนท์แฟรงค์ฯ เชื่อว่าในปี 2549 ตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณเมืองพักผ่อนตากอากาศยังขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะคอนโดระดับกลางถึงบน แต่จะยังไม่เห็นการแข่งขันทางด้านราคา ผู้ประกอบการจะเน้นแข่งขันทางด้านการตลาดมากขึ้น เช่น การออกแบบผังโครงการให้มีความ แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้มีความหลากหลาย เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อมากขึ้น