เอสซีฯ นำโครงการหรูคอนเซ็ปต์ ihome ร่วมงาน “ มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 14”

เอสซี แอสเสทฯ นำ 6 โครงการที่พักอาศัยระดับหรู บ้าน ihome Concept ภายใต้ 3 แบรนด์ บางกอกบูเลอวาร์ด, วิสต้าปาร์ค และเซ็นทริค ซีน ร่วมออกบูธงาน “ มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 14” พร้อมรับโปรโมชั่นมูลค่าสูงสุด 1.3 ล้านบาท คาดจะมียอดขายจากงานนี้กว่า 90 ล้านบาท

นางสาวยุบล โล่ห์จินดารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 14 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริเวณชั้น G Zone C ในระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2549 บริษัทฯ ได้นำโครงการที่พักอาศัยระดับหรู ภายใต้แนวคิด ihome ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม จำนวน 6 โครงการ ร่วมออกบูธ ประกอบด้วย โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด รามอินทรา-วงแหวน–นวมินทร์, โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด พระราม 5 ,โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ, โครงการวิสต้าปาร์ค วัชรพล, โครงการวิสต้าปาร์ค วิภาวดี และ โครงการเซ็นทริค ซีน พหลโยธินซอย 9

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบข้อเสนอและโบนัสพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจโครงการของบริษัทฯ โดยผู้ที่จองโครงการบางกอกบูเลอวาร์ด รามอินทรา จะได้รับส่วนลดแปลงพิเศษหน้าโครงการ มูลค่าสูงสุด 1.3 ล้านบาท และสำหรับผู้ที่จองในงานรับ Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท, โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด พระราม 5 รับโปรโมชั่นพิเศษที่สามารถเลือกได้เองสูงสุดถึง 9 รายการ มูลค่ากว่า 300,000 บาท และรับ Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท เมื่อจองในงาน, โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ ข้อเสนอพิเศษ ดาวน์คุ้มค่า ยิ่งดาวน์มากยิ่งลดมาก สูงสุดถึง 180,000 บาท และรับ Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท เมื่อจองในงาน

สำหรับโครงการ วิสต้าปาร์ค วัชรพล ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และผู้ที่จองในงานรับ Gift Voucher มูลค่า 30,000 บาท (เฉพาะแปลงที่กำหนด), โครงการวิสต้าปาร์ค วิภาวดี รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน ค่าบริการสาธารณะ ค่าจดจำนอง ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าและประปา พร้อมดอกเบี้ย 0% และรับ Gift Voucher มูลค่า 50,000 บาท เมื่อจองในงาน ส่วนโครงการเซ็นทริค ซีน พหลโยธิน ซอย 9 ราคาพิเศษสำหรับชั้น 22-24 เพียง 9 ยูนิต ราคายูนิตละ 3.78 ล้านบาท สำหรับผู้ที่จองในงานรับ Gift Voucher มูลค่า 50,000 บาท

นางสาวยุบล ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากตลาดโดยรวมมีการชะลอตัวจากการได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในแง่ของต้นทุนขนส่ง ต้นทุนการก่อสร้างของผู้รับเหมา และยังพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาราคาขายเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยที่เปิดใหม่มีการปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าน่าจะปรับราคาสูงขึ้นอีก ดังนั้นการซื้อบ้านในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะยังเป็นบ้านล็อตเก่าที่ยังไม่ได้ปรับราคาขึ้น อย่างไรก็ดีคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และจะมียอดขายจากโครงการต่างๆ รวมประมาณ 90 ล้านบาท