สามารถแรงไม่หยุด แค่ไตรมาสแรก ปี 49 โกยรายได้เพิ่มเกือบ 100 เปอร์เซนต์

บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและระบบสื่อสารข้อมูลครบวงจร โชว์ศักยภาพแกร่ง โตสวนกระแสเศรษฐกิจ สรุปรายได้ไตรมาสแรก ปี 2549 รวม 8,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 99 เปอร์เซนต์ คิดเป็นกำไรสุทธิ 1,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เกือบ 1,000 เปอร์เซนต์ โดยเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจที่บรรลุเป้าหมายของทุกบริษัทในเครือ โดยเฉพาะรายได้ของไอ-โมบายอินเตอร์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีรายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ประกอบด้วย หุ้นทั้งหมดที่มีในบริษัท แคมโบเดีย สามารถ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และหุ้นจำนวน 24.4 เปอร์เซนต์ของบริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) แก่บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย รวมมูลค่า 2,434 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 1,444 ล้านบาท

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ผ่านมา แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย แต่ทุกสายธุรกิจของกลุ่มสามารถก็ยังคงมีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสายธุรกิจ Mobile-media ซึ่งประสบความสำเร็จเกินคาดด้วยรายได้ 5,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119 เปอร์เซนต์ คิดเป็นกำไรสุทธิ 113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซนต์ ผลงานที่โดดเด่นคือการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือไปได้กว่า 650,000 เครื่องในไตรมาสแรก โดยจำหน่ายได้ในต่างประเทศถึง 410,000 เครื่อง ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือหลากหลายรุ่นที่มีไอเดียแตกต่าง เช่น โทรศัพท์มือถือดูทีวีได้เครื่องแรกของไทย ก็ส่งผลให้เฮาส์แบรนด์ไอ-โมบายได้รับการตอบรับและก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 2 ในประเทศ มีส่วนแบ่งการตลาด 20 เปอร์เซนต์ และจากยอดขายที่พุ่งขึ้นอย่างมากในไตรมาสแรก ทำให้ สามารถ ไอ-โมบาย ปรับเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้จากเดิม 15,000 ล้านบาท เป็น 18,000 ล้านบาท ในปี 49

สำหรับผลประกอบการของสายธุรกิจสื่อสารไอทีและโทรคมนาคมครบวงจร (ICT Solutions ) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ คอมเทค จำกัด พบว่ามีรายได้รวมทั้งสิ้น 584 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิ 83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51 เปอร์เซนต์ โดยตั้งแต่ไตรมาสหนึ่งของปี 49 เป็นต้นไป จะเริ่มรับรู้รายได้จากการโครงการ SchoolNet อย่างต่อเนื่องเดือนละ 40 ล้านบาท รวม 60 เดือน

และอีกสายธุรกิจที่น่าจับตามอง คือ สายธุรกิจอื่นๆ (Supporting Solutions ) ซึ่งประกอบด้วยบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ที่ทำธุรกิจด้านเสาอากาศ และจานรับสัญญาณดาวเทียม ทำรายได้ถึง 182 ล้านบาทในไตรมาสหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด ที่ให้บริการศูนย์ประสานงานบริการลูกค้า (Contact Center) ให้แก่องค์กรภาครัฐและเอกชน ก็มีรายได้เติบโตมากขึ้นถึง 53 เปอร์เซนต์ โดยในไตรมาสสองยังสามารถคว้างานติดตั้งและให้บริการ Contact Center มูลค่ากว่า 400 ล้านบาทได้เป็นผลสำเร็จ

นอกจากนี้ สายธุรกิจต่างประเทศ ( International Business ) ที่ครอบคลุมธุรกิจและการลงทุนในต่างประเทศ อาทิ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ก็สามารถทำรายได้ถึง 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12 เปอร์เซนต์ ด้วยการรองรับจำนวนเที่ยวบินสูงสุดถึง 10,400 เที่ยวบินนับตั้งแต่เปิดให้บริการในไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจทางด้านพลังงาน บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับบริษัท ปูนซิเมนต์อุตสาหกรรม จำกัดในการจัดตั้งบริษัท Kampot Power Plant จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าแก่โรงงานกัมปอตซิเมนต์ ที่ประเทศกัมพูชา โดยจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2550 เป็นต้นไป จึงถือเป็นก้าวแรกของสามารถในการก้าวสู่ธุรกิจทางด้านพลังงาน

สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2549 ซึ่งยังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน แต่บริษัทฯก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมาย โดยอาศัยความพร้อมในการเปิดตัวโทรศัพท์มือถืออีกนับสิบรุ่นและแผนการบุกตลาดมือถือในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องของไอ-โมบาย การรุกธุรกิจ Call Center อย่างจริงจังของวันทูวันคอนแทคส์ ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหญ่ๆ ในไตรมาสสอง การเปิดตัวระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน และความคืบหน้าในธุรกิจใหม่ๆ อาทิ โครงการ Interconnecting Charge ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ จากผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ประสบความสำเร็จ บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้าหมายรายได้รวมของปี 2549 จาก 2.2 หมื่นล้าน เป็น 2.5 หมื่นล้าน