“อย่าพยายามขายของให้ฉัน แต่ทำให้ฉันสนุก” ผลงานวิจัยจาก เกรย์โกลเบิลกรุ๊ป

ชิลปา สวารูฟ ผู้จัดการใหญ่บริษัทเกรย์ ประเทศไทย

คนไทยอยากได้อะไรที่สุด ? พวกเขาคิดอะไรอยู่…อะไรคือสิ่งท้าทาย? พวกเขามีความคิดต่อสินค้าต่างๆ และสื่อรอบตัวอย่างไร? คริส โบมองต์ ผู้อำนวยการด้านการวางแผนกลยุทธ์ของบริษัทเกรย์โกลเบิลกรุ๊ป ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ได้รายงานผลงานวิจัยล่าสุดในหัวข้อ “จับตาดู…เอเชีย” ซึ่งทำการสำรวจทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทางคณะกรรมการด้านการตลาดจากหอการค้าอเมริกันและบริษัทเกรย์ประเทศไทยได้ร่วมกันจัดขึ้น ณ โรงแรมคอนราด เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นั้น โดยมีผู้บริหารจากบริษัทในประเทศ และบริษัทร่วมทุนต่างชาติเข้าร่วม 75 ราย

“จับตาดู…เอเชีย” เป็นการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างชาวเอเชียจำนวน 4,400 คนใน 12 ประเทศ จัดทำโดยบริษัทเกรย์ และ มิลเวิรด์ บริษัทวิจัยชั้นนำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจว่า ชาวเอเชียที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่มีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับชีวิต ความต้องการ และอนาคตของพวกเขา ; พวกเขาคิดว่าอะไรที่ทำให้สินค้าได้รับความนิยม; พวกเขาต้องการ และไม่ต้องการอะไรจากการโฆษณาและการตลาด ซึ่งการศึกษานี้จะช่วยให้รู้ซึ้ง และเข้าใจแนวโน้มต่างๆ เพื่อช่วยในการวางแผนคิดค้นพัฒนาสินค้า และช่วยกำหนดทิศทางการสื่อสารในวันนี้ และอนาคต

นอกจากนี้ผลการศึกษายังสามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับนักการตลาด ในการสื่อสารกับผู้บริโภคได้ตรงเป้าอีกด้วย

“นี่เป็นปีแรกของการศึกษาวิจัยที่เราวางแผนจะทำทุกๆปี เพื่อเข้าใจความรู้สึกของชาวเอเชียในทุกประเทศ เราคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เข้าใจว่าอะไรคือวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารกับผู้คนในแต่ละระดับ” คริส โบมองต์ ผู้อำนวยการด้านการวางแผนกลยุทธ์ของบริษัทเกรย์โกลเบิลกรุ๊ปและภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเข้าถึงความรู้สึกอย่างลึกซึ้งจนเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะแง่คิด ความเครียด ความกดดัน ทุกอย่างมีการเปลี่ยนตลอดเวลาในช่วงหนึ่งศตวรรษ”

“เมื่อต้องการสร้างแบรนด์ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในภูมิภาค …อย่างไรก็ตามผู้คนจะตอบสนองต่อการตลาด และการโฆษณาต่างกัน อันเนื่องจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ค่านิยม ความเชื่อทางศาสนา และความปรารถนาต่างๆซึ่งยังคงมีอิทธิพลอยู่มาก” คริส โบมองต์กล่าว “นักการตลาดต้องจดจำไว้ว่า ความหมายของการพัฒนานั้น ไม่ใช่การเดินตามแนวทางตะวันตก แต่เป็นการกำหนดทิศทางใหม่ๆ ภายใต้ค่านิยม ความเชื่อในท้องถิ่นนั้นๆ มากกว่า”

ในประเทศไทย เราได้ทำการสัมภาษณ์เชิงปริมาณจำนวน 300 ชุด โดยผู้เข้าร่วมวิจัยชาวไทยอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ใช้ข้อมูลเชิงลึก ข้อมูลการวิเคราะห์หลักทางมนุษยชาติ และข้อมูลการวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อให้ได้คำอธิบายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความปรารถนาของแต่ละบุคคล
ชาวเอเชียส่วนใหญ่ต้องการวิถีชีวิตที่ราบรื่น มีชีวิตที่เรียบง่าย พวกเขาต้องการความชีวิตที่สมบูรณ์กว่าที่เป็นอยู่ -อาทิเช่น มีเงินใช้มากขึ้น มีรถยนต์ดีๆขับ และอีกมากมาย –แต่ความต้องการชีวิตที่ดีได้สร้างความเครียดและกดดัน จนผลักดันไปสู่การใช้ชีวิตในแบบที่เป็นอยู่ พวกเขจึงมองหาทางเลือกใหม่ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น คนกรุงเทพรู้สึกว่า คุณภาพชีวิต และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆของพวกเขาได้ลดลงทีละน้อยๆ

– ผู้คนเห็นแก่ตัว และสนใจแต่ตัวเองกันมากขึ้น
– ผู้คนสนใจแต่เรื่องเงินและกลายเป็นคนวัตถุนิยมกันมากขึ้น
– การขาดความเชื่อใจและความจริงใจมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
– มีความเครียดและความกดดันมากขึ้น โดยหลักๆแล้วเกิดจากการทำงาน
– ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น…98% ของคนทั้งหมดกล่าวว่า ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นความปรารถนาสูงสุดของผู้คนทุกประเทศทั่วภูมิภาค
– ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเกิดจาก ความสมดุลระหว่างชิวิตการงานและชิวิตครอบครัว…96% ของคนไทยที่เข้าร่วมการสำรวจกล่าวว่า พวกเขาอยากมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศญี่ปุ่น ที่มีเพียง 71 % เท่านั้น
– ผู้คนส่วนใหญ่อยากมีชีวิตที่เงียบสงบอยู่กับธรรมชาติแทนการใช้ชีวิตที่หรูหรา รวดเร็วในสังคมเมือง
– ชาวเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ใช้เวลาในเรื่องศาสนามากชึ้น แต่สำหรับประเทศไทย มีคนจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ต้องการใช้เวลาในเรื่องศาสนาให้มากชึ้น
– การใช้ชีวิตผจญภัยและแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆเป็นความปรารถนาอันดับต้นๆของผู้คน สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ต้องการมีเวลาหาความสนุกในทุกรูปแบบให้มากขึ้น (ไม่จำกัดว่าต้องเป็นการผจญภัยเท่านั้น)

ตราสินค้า
คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าสินค้าที่ดี สามารถแก้ปัญหาต่างๆของพวกเขาได้ และยังทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในด้านประโยชน์ใช้สอยและคุณสมบัติต่างๆ ลักษณะต่างๆของตราสินค้าที่ดีที่พวกเขากำหนดไว้มีดังต่อไปนี้
– ใช้วัสดุคุณภาพดี ผลิตอย่างมีคุณภาพ
– ทนทานต่อสภาพการใช้งานจริงต่างๆ
– เป็นตราสินค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีการออกสินค้าใหม่ หรือ มีการพัฒนาผลิตสินค้าให้ดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง
– ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
– คล้ายๆกับคนทั่วโลก ชาวเอเชียเชื่อว่าต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ตราสินค้าเป็นที่นิยมติดระดับโลก…สำหรับคนไทยมีเพียง 71% เท่านั้นที่เชื่อว่าสินค้าในประเทศติดระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่น้อยกว่าระดับมาตรฐานของภูมิภาค
– ชาวเอเชียส่วนใหญ่คิดว่าประเทศของพวกเขาควรมีความคิดริเริ่มให้มากกว่านี้ 96% ของคนไทยเห็นด้วย ซึ่งต่างกับคนญี่ปุ่นซึ่งเห็นด้วยเพียง 82 % ขณะที่คนเกาหลีเห็นด้วย 73 %

การโฆษณา
– คนไทยมองว่า งานโฆษณาที่ดีต้องความสนุกสนาน สร้างความตลก ความสนุกสนานให้กับชีวิตของพวกเขา คลายเครียด หรือมีเนื้อเรื่องหักมุม สิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงความสนใจของพวกเขาได้ หากงานโฆษณาใดไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
– คนจำนวน71% คิดว่านักการตลาดทำงานได้ดีแล้ว โดยทำได้ดีกว่าระดับเฉลี่ยของภูมิภาคทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม คนไทยส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่า ควรมีกฎระเบียบและข้อบังคับในการโฆษณาให้มากขึ้น

“ผลการวิจัยเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดในประเทศไทยเข้าใจ และสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างตรงเป้า
ประเด็นหลักสำหรับเจ้าของสินค้าไทยก็คือ ควรเข้าใจในค่านิยมและวัฒนธรรมท้องถิ่น นำมาปรับใช้ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ตราสินค้าของไทยก้าวไกลระดับโลกได้อย่างแน่นอน” ชิลปา สวารูฟ ผู้จัดการใหญ่บริษัทเกรย์ ประเทศไทยกล่าว