ฟุตบอลโลก2006 : บราซิล-อังกฤษ ครองใจคนกรุงฯ

ในช่วงนี้มหกรรมฟุตบอลโลกกำลังทวีความเข้มข้นขึ้น โดยกำลังจะจบการแข่งขันในรอบแรก ซึ่งทำให้เริ่มเห็นแล้วว่าในรอบสองนี้ทีมใดจะต้องเจอกับทีมใดบ้าง โดยทีมที่เป็นตัวเต็งหรือทีมที่คนไทยชื่นชอบนั้นก็ยังอยู่อย่างครบครัน ทำให้คาดหมายว่าบรรดาแฟนฟุตบอลก็ยังจะติดตามมหกรรมฟุตบอลโลกอย่างต่อเนื่อง และคาดหมายว่าการติดตามจะเป็นไปเกือบทุกแมตช์การแข่งขัน เนื่องจากตั้งแต่นี้ต่อไปการแข่งขันจะเพิ่มความสนุกสนานเร้าใจ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ทำการสำรวจ “คนกรุงเทพฯกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006” ใน ระหว่างวันที่ 1-15 พฤษภาคม และวันที่ 1-16 มิถุนายน 2549 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 2,160 ชุด เน้นเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างตามเขตต่างๆในกรุงเทพฯ และกระจายตามอายุและอาชีพ เนื่องจากทั้งสองตัวแปรนี้มีผลทำให้ความสนใจในกีฬาฟุตบอลแตกต่างกัน มีประเด็นสำคัญดังนี้

-บราซิล…ทีมฟุตบอลในดวงใจ ทีมฟุตบอลในดวงใจของคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง 5 อันดับแรกคือ บราซิลร้อยละ 30.6 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด อังกฤษร้อยละ 29.3 อิตาลีร้อยละ 5.7 อาร์เจนตินาร์ร้อยละ 5.5 และเนเธอร์แลนด์ร้อยละ 5.1 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 23.8 จะเลือกทีมฟุตบอลในดวงใจหลากหลายทีม เช่น สเปน ฝรั่งเศส โปรตุเกส เป็นต้น จะเห็นได้ว่าคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างชื่นชอบบราซิลเนื่องจากสไตล์การเล่นและการสร้างสรรเกมของผู้เล่นแต่ละคนที่มีฝีมือระดับชั้นนำของโลก ส่วนทีมชาติอังกฤษนั้นเป็นที่รู้จักอย่างดีของบรรดาแฟนฟุตบอลในเมืองไทย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บรรดาแฟนฟุตบอลในเมืองไทยนั้นจะเทคะแนนให้กับทีมชาติบราซิลและอังกฤษค่อนข้างใกล้เคียงกัน

-บราซิล…ทีมที่คาดว่าจะได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2549 ทีมที่คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างคาดว่าจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนี้คือ บราซิล โดยมีกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 50.0 ที่คาดว่าบราซิลจะได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2549 เนื่องจากมีฐานะเป็นทั้งแชมป์เก่า สามารถครองแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 5 ครั้ง รวมทั้งลีลาการเล่นที่น่าประทับใจผู้ชม รองลงมาคือ อังกฤษร้อยละ 17.7 เยอรมนีร้อยละ 6.7 อิตาลีร้อยละ 5.8 และอาร์เจนตินาร์ร้อยละ 5.6 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 14.2 นั้นคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างระบุทีมที่คาดหมายจะเป็นแชมป์ในครั้งนี้หลากหลาย เช่น สเปน เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามบรรดาแฟนฟุตบอลของทีมต่างๆในยุโรปต่างตั้งความหวังไว้ว่าทีมจากยุโรปอาจจะมีโอกาสในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้โดยทีมเต็งในดวงใจคือ อังกฤษ เยอรมนี และอิตาลี

-นักฟุตบอลในดวงใจ ในการสำรวจครั้งนี้เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างเป็นแฟนฟุตบอลจึงได้มีการแยกนักฟุตบอลในดวงใจตามตำแหน่งของนักฟุตบอลด้วย ซึ่งนักฟุตบอลในดวงใจของคนกรุงเทพฯนั้นจากการสำรวจมีการระบุชื่อเข้ามาหลากหลายมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติบราซิลและอังกฤษ โดยกลุ่มตัวอย่างระบุว่าสาเหตุที่ชื่นชอบนั้นพิจารณาที่ฝีมือและสไตล์การเล่นมากกว่าหน้าตา

กองหน้าในดวงใจ 5 อันดับแรกคือ โรนัลโด้ร้อยละ 13.9 ของกลุ่มตัวอย่าง รองลงมาคือ เวย์น รูนีย์ร้อยละ 13.4 เธียร์รี่ อองรีร้อยละ 12.6 ไมเคิล โอเว่นร้อยละ 12.4 และมิชาเอล บัลลัคร้อยละ 9.0

กองกลางในดวงใจ 5 อันดับแรกคือ เดวิด แบ็คแฮมร้อยละ 16.9 ของกลุ่มตัวอย่าง รองลงมาคือโรนัลดินโญ่ร้อยละ 13.7 สตีเว่น เจอร์ราร์ดร้อยละ 12.2 ริคาร์โด้ กาก้าร้อยละ 9.6 และซีเนอดีน ซีดานร้อยละ 9.0

กองหลังในดวงใจ 5 อันดับแรกคือ โรแบร์โต้ คาร์ลอสร้อยละ 21.6 ของกลุ่มตัวอย่าง รองลงมาคือริโอ เฟอร์ดินานด์ร้อยละ 11.7 มาร์คอส คาฟูร้อยละ 11.3 อเลสซานโดร เนสตาร้อยละ 9.5 และฟาบิโอ คันนาวาโร่ร้อยละ 3.7

ส่วนผู้รักษาประตูในดวงใจ 5 อันดับแรกคือ โอลิเวอร์ คานส์ร้อยละ 23.8 ของกลุ่มตัวอย่าง รองลงมาคือดีด้าร้อยละ 12.9 ปีเตอร์ เช็กร้อยละ 12.0 ฟาเบียง บาร์กเตชร้อยละ 12.0 และเอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ร้อยละ 5.6

-อังกฤษ-บราซิล…คู่ฟุตบอลที่คนกรุงเทพฯอยากติดตามชม แม้ว่าบรรดาแฟนฟุตบอลจะระบุว่าจะติดตามชมการแข่งขันในคู่ชิงชนะเลิศอย่างแน่นอน แต่คู่ชิงชนะเลิศที่อยากดูที่สุดหรืออยากให้มีการโคจรมาพบกันมากที่สุดคือ อังกฤษกับบราซิล รองลงมาคือ สเปนกับบราซิล และเยอรมนีกับบราซิล

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจที่ยังไม่มีการกล่าวถึงกันมานักในมหกรรมฟุตบอลโลก 2006 คือผลดีผลเสียของมหกรรมฟุตบอลโลก2006 ต่อประเทศไทย ซึ่งบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจพบว่า

-ผลดี คนกรุงเทพฯร้อยละ 64.1ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างระบุถึงผลดีของมหกรรมฟุตบอลโลก 2006 คือ การพัฒนาด้านการกีฬาของประเทศไทย โดยเฉพาะฟุตบอล ซึ่งมหกรรมฟุตบอลโลกนี้มีส่วนกระตุ้นความสนใจกีฬาฟุตบอลของบรรดาเยาวชนไทย ส่วนอีกร้อยละ 35.9 มีความเห็นว่ามหกรรมฟุตบอลโลก2006 ก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่ม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจจำหน่ายของที่ระลึก ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา เป็นต้น

อย่างไรก็ตามคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเกือบร้อยละ 70.0 ระบุว่าทีมชาติไทยต้องใช้เวลามากกว่า 20 ปีในการพัฒนาทีมฟุตบอลให้มีโอกาสก้าวเข้าไปแข่งขันในฟุตบอลโลก สำหรับโอกาสของไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้น ร้อยละ 60.3 คิดว่าไทยคงไม่มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเลย ขณะที่ร้อยละ 39.7 คิดว่าไทยยังมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก

หากเปรียบเทียบทีมไทยกับทีมเกาหลีใต้ ซาอุดีอาระเบีย ญี่ปุ่น และอิหร่านที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้แล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดว่าการพัฒนากีฬาฟุตบอลของไทยให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศคงต้องใช้เวลาอีกนาน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ทีมไทยพัฒนาช้ากว่าทีมดังกล่าวข้างต้นนั้น ร้อยละ 35.9 คิดว่าสาเหตุมาจากการขาดการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเพียงพอ ร้อยละ 20.0 คิดว่านักฟุตบอลไทยขาดการฝึกฝนและฝึกซ้อมที่ดี ร้อยละ 7.6 คิดว่ามาจากการขาดผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี ร้อยละ 7.1 คิดว่านักฟุตบอลไทยขาดทักษะในการเล่นที่ดี ร้อยละ 6.2 คิดว่าเป็นเพราะไม่มีนักฟุตบอลที่มีความสามารถ ร้อยละ 4.7 คิดว่าเป็นเพราะนักฟุตบอลไทยตัวเล็ก และที่เหลืออีกร้อยละ 18.5 คิดว่าน่าจะมาจากสาเหตุอื่นๆเช่นนักกีฬาขาดระเบียบวินัย ขาดความสามัคคี และไม่ทุ่มเทให้กับการแข่งขันอย่างจริงจัง เป็นต้น

-ผลเสีย ผลของมหกรรมฟุตบอลโลก2006ในด้านที่ไม่ดีนั้น คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.2 ระบุว่ามหกรรมฟุตบอลโลกมีส่วนส่งเสริมหรือชักจูงให้มีการเล่นการพนันมากขึ้น ซึ่งประเด็นในเรื่องการเล่นการพนันฟุตบอลนี้เป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากเม็ดเงินในการเล่นพนันนั้นอยู่ในเกณฑ์สูง แม้ว่าจะมีการปราบปรามกันอย่างเข้มงวดก็ตาม ส่วนผลเสียอันดับรองลงมาคือ ร้อยละ 17.9 ระบุว่าทำให้เกิดปัญหาครอบครัว ร้อยละ 11.9 มีโอกาสที่จะเกิดอาชญากรรม/โจรกรรมมากขึ้น ร้อยละ 7.5 เกิดปัญหาในการเรียน/การทำงาน และอีกร้อยละ 1.5 ระบุว่ามหกรรมฟุตบอลโลก2006 นั้นก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ เช่น การทะเลาะวิวาท เป็นต้น

มหกรรมฟุตบอลโลก2006 ใกล้จะจบการแข่งขันรอบแรกลงแล้ว บรรดาแฟนฟุตบอลในกรุงเทพฯยังเทใจเชียร์บราซิลและอังกฤษ ซึ่งเป็นทีมเต็งในการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องจากลีลาการเล่นที่ประทับใจ และผู้เล่นเป็นที่รู้จักของบรรดาแฟนฟุตบอลคนไทย ซึ่งมหกรรมฟุตบอลโลก2006 นี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นความสนใจกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนไทย ซึ่งน่าจะมีการต่อยอดเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาทีมฟุตบอลของไทยต่อไปในอนาคต ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสสำหรับการก้าวเข้าไปแข่งขันในมหกรรมฟุตบอลโลกของทีมชาติไทย ส่วนผลเสียของฟุตบอลโลกโดยเฉพาะในเรื่องการชักจูงให้มีการเล่นการพนันนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องมีการปราบปรามกันอย่างจริงจัง ส่วนผลเสียด้านอื่นๆนั้นก็ต้องมีการติดตามเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาการก่ออาชญากรรม/โจรกรรม ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติงานสอดส่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งในช่วงระหว่างการแข่งขัน และภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว เพราะอาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่เสียพนันฟุตบอลจนเป็นหนี้สินมากมาย อาจจะใช้วิธีก่อคดีอาชญากรรม/โจรกรรมที่ส่งผลเสียหายแก่ผู้บริสุทธิ์ได้