กสิกรไทย ขยายเครือข่ายลุยเปิดสาขาเพิ่ม 60 แห่ง เน้นเจาะตามความต้องการของลูกค้า พร้อมเปิดสาขาที่ OZONO เจาะลูกค้าไฮโซ คาดสิ้นปีมีเอทีเอ็มทะลุ 3,100 เครื่อง พร้อมใช้งบ 2,000 ล้านปรับโฉมสาขาให้ไฮเทค ไฮทัช ทุกสาขาภายใน 2 ปี
นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารช่องทางบริการและการขาย ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารมีแผนเปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 60 สาขา ซึ่งจะเป็นปีที่เปิดสาขามากที่สุด นับตั้งแต่ประเทศไทยประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจในปี 2538 เป็นต้นมา สาขาที่เปิดจะเป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 20 สาขา และสาขาในต่างจังหวัดอีกประมาณ 40 สาขา ซึ่งจะเน้นตอบสนองทางด้านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยจะเป็นสาขาย่อยที่มีอี-ล็อปปี้ เพื่อให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบครัน และส่วนใหญ่ประมาณ 20-30% เป็นสาขาในห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์สโตร์ นอกจากนั้นจะเป็นสาขาในนิคมอุตสาหกรรม ย่านธุรกิจสำคัญในจังหวัดต่างๆและ แหล่งท่องเที่ยว
นอกจากนั้นธนาคารยังจะเปิดสาขาย่อยโอโซโน่ สุขุมวิท 39 เป็นสาขาพิเศษที่เน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่รักสัตว์ มีการตกแต่งด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น แนว Contemporary Japanese Style เนื่องจากย่านดังกล่าวเป็นแหล่งพักอาศัยของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น และลูกค้าที่มีรายได้สูงที่นิยมเลี้ยงสัตว์ เมื่อลูกค้านำสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นใน Dog Park ก็จะสามารถแวะทำธุรกรรมทางการเงินที่สาขาของธนาคารต่อทันที ซึ่งสาขาจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00-19.00 น.ทุกวัน โดยไม่มีวันหยุด
ทั้งนี้การเปิดสาขาย่อยที่มุ่งเจาะลูกค้าที่มีศักยภาพสูงเฉพาะกลุ่มนี้ จะเป็นแนวทางหนึ่งในการเปิดสาขา ซึ่งหากสาขาโอโซโน่ สุขุมวิท 39 ประสบความสำเร็จ ธนาคารก็อาจจะพิจารณาเปิดสาขาที่มุ่งเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มอื่นๆ ต่อไป
นายวีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารฯ ยังมีโครงการที่จะปรับปรุงรูปแบบสาขาทั่วประเทศให้เป็นสาขาในรูปแบบที่เน้นบรรยากาศภายในสาขาให้มีความโปร่งสบาย มีการใช้ระบบบัตรคิว รวมทั้งการจัดตั้งเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยจะปรับปรุงให้แล้วเสร็จทุกสาขา ภายใน 2 ปี ด้วยในการดำเนินงานงบประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของธนาคารที่มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีพร้อมความใส่ใจ
ทั้งนี้ภายในสิ้นปีนี้ธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายสาขาพร้อมให้บริการทั้งสิ้นประมาณ 555 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มประมาณ 3,125 เครื่อง จากปัจจุบันที่มี 2,545 เครื่อง