เซโรโน่ เปิดเกมส์รุกตลาดยาเมืองไทย ย้ำจุดยืนคิดค้นนวตกรรมไบโอเทคโนโลยี

มร.เฮนรี่ ชิอาโปโค ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เซโรโน่ จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านไบโอเทคโนโลยี จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีเวชภัณฑ์จากไบโอเทคโนโลยีจำหน่ายถึง 8 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ใน 90 ประเทศทั่วโลก เปิดเผยว่า เซโรโน่ ได้ดำเนินการ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยมานานหลายปี โดยมีบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด หรือ DKSH เป็นผู้จัดจำหน่าย และทำตลาดเวชภัณฑ์หลักของบริษัทใน 4 กลุ่มอาการ ได้แก่ ประสาทวิทยา (Neurology) ผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อช่วยวัยเจริญพันธุ์ (Reproductive Health) การเติบโต และกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม (Growth and Metabolism) และกลุ่มโรคผิวหนัง (Dermatology)

ในปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายทั่วโลกสูงถึงกว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 54% ของยอดขายหรือประมาณ 1,350 ล้านบาท มาจากยาในกลุ่มโรคประสาทวิทยา (Neurology) โดยเฉพาะยาสำหรับโรคเอ็มเอส (Multiple Sclerosis) ที่บริษัท เซโรโน่ นับว่าเป็นเจ้าตลาดทั้งระดับโลก และในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 36% ในระดับโลก และมีส่วนแบ่งสูงถึง 90% สำหรับตลาดในเมืองไทย

“สำหรับตลาดในเมืองไทย ในปีที่ผ่านมา บริษัท เซโรโน่ สัดส่วนของยาในกลุ่มโรคประสาทวิทยาเป็นจำนวนที่ไม่สูงนัก แต่ทางบริษัทให้ความสำคัญต่อสินค้ากลุ่มนี้มาก และสำหรับในปีนี้ เราตั้งเป้าที่จะขยายฐานการตลาดที่มีอยู่ และขยายตลาดเพิ่มเติมใหม่ ด้วยการให้ความรู้ไปในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากในปัจจุบันยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับโรคที่พวกเขาเป็นอยู่ โดยไม่ทราบว่ายังมีทางเลือกในการรักษาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพของบริษัทอยู่อีก ทั้งโรคสะเก็ดเงิน หรือฮอร์โมนการเจริญเติบโตผิดปกติ อีกทั้งยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่าตนเองกำลังเผชิญกับโรคร้ายอย่างโรคเอ็มเอส” มร.เฮนรี่ กล่าวเพิ่มเติม

นางพรพิไล มั่นใจอางค์ ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด แผนกเซโรโน่ ผู้ดูแลด้านการตลาด และกิจกรรมการตลาดของเซโรโน่ ในประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา เซโรโน่ เน้นที่การสื่อสารกับแพทย์เป็นหลัก แต่สำหรับปีนี้ ทางบริษัทเริ่มหันมาจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วย และประชาชนทั่วไปมากขึ้น เนื่องจากในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนนี้ ผู้ป่วยหรือบุคคลใกล้ชิดสนใจในการหาข้อมูลเพิ่มเติม และมองหาทางเลือกในการรักษาเพื่อตนเองมากขึ้น อีกทั้งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปที่ควรได้รับความรู้ในเรื่องโรคที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ผ่านมา บริษัทได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมสัมมนา พบปะของกลุ่มผู้ป่วย และชุมชนของผู้ป่วยและแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ และในประเทศมาร่วมให้ความรู้แก่สังคม หรือแม้แต่การจัดทำเว็บไซต์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ อีกด้วย”

“คาดว่าในปีนี้ เราจะเพิ่มการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้มากขึ้นทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมีโอกาสเข้าถึงความรู้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการได้รับโอกาสในการรักษาและมีทางเลือกในการรักษาที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย โดยกิจกรรมที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนกรกฏาคมที่จะถึงนี้คือการสัมมนาของชมรมเอ็มเอสไทย เพื่อผู้ป่วยและญาติได้มีความรู้ ความเข้าใจ รวมไปถึงได้รับการรักษาที่เหมาะสมอีกด้วย” นางพรพิไล กล่าวเพิ่มเติม

“ด้วยความมุ่งมั่น และเป้าหมายของเราในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เซโรโน่ จึงไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นเวชภัณฑ์ใหม่ๆ มาบรรเทาความทุกข์ร้อนจากอาการป่วยของผู้คน โดยขณะนี้ เรามีเวชภัณฑ์อีกถึง 25 โครงการที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง และเตรียมจะเปิดตัวสู่ตลาดได้ในไม่ช้า ซึ่งแม้เวชภัณฑ์ของเราส่วนใหญ่จะเป็นยารักษาโรคเฉพาะทางที่อาจมีจำนวนผู้ป่วยไม่มากนัก แต่เราก็มิได้คำนึงถึงปริมาณลูกค้า แต่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และรอยยิ้มของพวกเขามากกว่า” มร.เฮนรี่สรุป

เกี่ยวกับเซโรโน่
บริษัท เซโรโน่ จำกัด เป็นบริษัทที่มีความโดดเด่น และนับเป็นผู้นำด้านไบโอเทคโนโลยี โดยมีผลิตภัณฑ์ใน 4 กลุ่มอาการ ไม่ว่าจะเป็น ประสาทวิทยา (Neurology) ผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อช่วยวัยเจริญพันธุ์ (Reproductive Health) การเติบโต และกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม (Growth and Metabolism) และกลุ่มโรคผิวหนัง (Dermatology) โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมสูงถึงกว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีพนักงานกว่า 4,900 คนทั่วโลก