กำกับโดย ชุง ยุน-ชุล
นำแสดงโดย โช ซัง วู ( The Classic ), คิม มี-ซุก
ประเภท / Drama
วันเข้าฉาย 10 สิงหาคม 2549
เรื่องย่อ
RunningBoy เป็นเรื่องจริงของเด็กหนุ่มที่เป็นโรคออธิสติคซึ่งพยายามแสดงความสามารถของตัวเองให้โลกเห็นการวิ่งมาราธอน โดยผู้ที่มารับบทเด็กหนุ่มโช วอนนี้ ก็คือ โช ซัง วู นักร้องนักแสดงวัย 25 ปี ที่กำลังได้รับนิยมในเกาหลี นอกจากหนังที่ได้แสดงจนเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโงดังมาหลายเรื่องแล้ว
โช วอนในวัยเด็กนั้น ก็เป็นหมือนเด็กผู้ชายธรรมดาทั่วไป เขาชอบกินคุกกี้ช็อกโกแลต และรักม้าลายเป็นชีวิตจิตใจ แต่เมื่อเขาอายุ 5 ขวบ เกียงซุกแม่ของเขาก็ได้พบว่า โชวอนเป็นเด็กออธิสติก ซึ่งจะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับแม่ทุกคนจะยอมรับได้ หลังจากวันนั้นเกียงซุกจึงทุ่มเทเวลา และความรักทั้งหมดให้แก่โชวอน เพื่อให้เขาสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเอง และปรับตัวให้เข้ากับสังคมภายนอกได้
และ 15 ปีต่อมา โชวอนในวัย 20 ปี ซึ่งมีสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กวัยเพียง 5 ขวบ แต่ถ้าดูเผินๆแล้วภายนอก โช วอนก็ดูไม่แตกต่างจากคนทั่วไปเลย หลายๆ ครั้งที่โชวอนได้สร้างปัญหาให้กับแม่ แต่ด้วยความรักที่มีแต่ให้ของคนเป็นแม่ จากการเฝ้าเลี้ยงด้วยความรักอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ทำให้เกียงซุกค้นพบว่าลูกของเธอชอบการวิ่ง เธอจึงทุ่มเทเวลาทั้งหมดนั้นฝึกให้โช วอนวิ่งมาราธอนอย่างหนัก จนเขาสามารถผ่านการวิ่งในรายการมาราธอน ซึ่งใช้เวลาในการวิ่งทั้งหมดไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งในที่สุดแล้วโช วอนสามารถทำได้สำเร็จ จนกลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับการกล่าวขานไปทั่วประเทศ
เกี่ยวกับภาพยนตร์
Running Boy ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตของเกาหลี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของหนุ่มนักวิ่งมาราธอนที่เป็นโรคออธิสติคเรื่องนี้ กำลังเป็นหนังที่ทำรายได้เป็นประวัติการณ์ประจำปี 2005 ไปแล้ว หลังจากที่เปิดตัวในปลายเดือนมกราคม ด้วยอันดับที่ 2 (ผู้ชม 695,000 คน) จนถึงตอนนี้ Running Boy ทำสถิติผู้ชมไปแล้วถึง 4.2 ล้านคน ซึ่งนับเป็นหนังที่มียอดผู้ชมสูงสุดอันดับ 1 ของปี 2005 เลยทีเดียว
Running Boy ไม่ได้เป็นแค่หนังที่พูดถึงแค่ความพยายาม และความสามารถของเด็กออธิสติคเท่านั้น แต่ผู้กำกับได้หยิบเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตในแง่มุมของผู้เป็นแม่ ที่ต้องรับภาระและความกดดันต่างๆ อีกด้วย
ผู้กำกับ ชุง ยุน-ชุล
ผู้กำกับชุง ยุน-ชุลใช้เวลาร่วม 2 ปี ในการติดตามดูชีวิตของเบเฮียงจิน หนุ่มมาราธอนตัวจริงและ ปาร์ค มีเจียงผู้เป็นแม่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแข่งขันมาราธอน และการเดินทางไปตามที่ต่างๆ เพื่อใช้เวลาศึกษาชีวิตของคนที่เป็นออธิสติคอย่างเต็มที่
เมื่อตอนที่ ชุง ยุน-ชุล ไปขออนุญาตเพื่อที่จะนำเรื่องราวของเบเฮียงจินไปสร้างเป็นภาพยนตร์นั้น คุณนายปาร์ค ได้บอกกับเขาว่า “ถ้าเรื่องราวของเฮียงจินเป็นหนัง และทำให้ผู้คนเข้าใจผู้ป่วยออธิสติคได้ดีขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ยินดีมาก ” ส่วนเบเฮียงจินก็ได้กล่าวถึงผู้กำกับชุง ยุน-ชุลว่า “ผมชอบพี่ผู้กำกับฮะ เขาดีกับผมมากจริงๆ” คุณนายปาร์คกล่าวเสริมว่า “จริงๆ แล้วรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การที่เบเฮียงจินเริ่มเปิดใจ และรู้จักที่จะคบหากับผู้คนหน้าใหม่ๆ มากขึ้น มันจะทำให้เขาใกล้ชิดกับโลกภายนอกมากขึ้นอีก ฉันดีใจมากๆ” นอกจากนี้ คุณนายปาร์คได้ฝึกลูกชายให้เล่นกีฬาหลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่นกีฬาว่ายน้ำ และการวิ่งมาตั้งแต่เขาอายุได้ 10 ขวบอีกด้วย