บริษัทเอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้มียอดขายคอมพิวเตอร์เป็นอันดับ 1 ในเมืองไทยและครองอันดับ 1 ตลาดผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คกว่า 12 ไตรมาสติดต่อกัน (2546-ปัจจุบัน) และผู้นำด้านดีไซน์ ประกาศรุกตลาดคอมพิวเตอร์ หวังครองอันดับ 1 ต่อเนื่องทั้งผลิตภัณฑ์พีซีโน้ตบุ๊คและพีซีภายในสิ้นปีนี้ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 25 เปอร์เซ็นต์ (รวมผลิตภัณฑ์พีซีและโน้ตบุ๊ค) พร้อมพลิกโฉมวงการพีซีครั้งยิ่งใหญ่ ประกาศเปิดตัวพีซีใหม่ “MaxMini” 4 รุ่น ด้วยแนวคิดเพิ่มศักยภาพในการทำงานเต็มพิกัดและคุ้มค่าการลงทุนพร้อมขนาดที่สนองวิถีชีวิตที่ทันสมัย ค่าใช้จ่ายในการลงทุนและดูแลรักษา ดีไซน์เก๋ เล็กกะทัดรัด ประสิทธิภาพเยี่ยม เน้นประหยัดพื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะทำงานหรือพื้นที่โฮมเธียเตอร์ พร้อมสนับสนุนการทำงานด้วยเทคโนโลยี อินเทล คอร์ ทู ดูโอ “คอนโร”
“จากพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคมีแนวโน้มในการเลือกใช้โน้ตบุ๊คมากขึ้นสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ในด้านพื้นฐาน และเลือกใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่นกราฟฟิก การเล่นเกมส์ หรือด้านความบันเทิง เอเซอร์ให้ความสำคัญพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงจึงได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้บริโภค อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการออกแบบรูปลักษณ์ให้ทันสมัย” นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าว
“ความต้องการในการใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันคือต้องการเครื่องที่มีสมรรถะในการทำงานสูงที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ให้เหมาะกับรูปลักษณ์ของสำนักงานที่โมเดิร์นและกระชับ ดังนั้นเอเซอร์ จึงได้พัฒนาพีซีใหม่ ในแนวคิด “MaxMini” คือให้ประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นส์ในการทำงานหลากหลายสูงสุด ทั้งการทำงานและความบันเทิง คุ้มค่าการลงทุน สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ประหยัดพลังงาน ประหยัดพื้นที่จัดวางและการตกแต่ง ระดับเสียงเพียง 26 เดซิเบลในขณะที่เครื่องทำงาน ซึ่งเงียบมาก และยังมีขนาดความจุเพียง 3 ลิตรเท่านั้น ซึ่งคอนเซ็ปต์เหล่านี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันได้อย่างลงตัว โดยเอเซอร์เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้จะทำให้เอเซอร์ประสบความสำเร็จและครองตำแหน่งผู้มียอดขายคอมพิวเตอร์เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องภายในสิ้นปีนี้” นายนิธิพัทธ์ กล่าวเพิ่มเติม
“โดยพีซี “MaxMini” ทั้งหมดที่เปิดตัววันนี้มี 4 รุ่นคือ แบ่งเป็น Veriton 1000 และ Power 2000เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กรและธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMB) โดยมีคุณสมบัติเด่นคือ ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีอินเทล VPro รวมทั้งรองรับ CPU core 2 dual ส่วน Aspire L310 และ Aspire L350 มุ่งเจาะกลุ่มตลาดโฮมยูส ได้พกพาประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟฟิกดีเยี่ยม จัดเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการสร้างสรรค์ความสามารถเกี่ยวกับสื่อมัลติมีเดีย พร้อมทั้งยังประกอบด้วยเทคโนโลยีอินเทล Viiv ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ด้านโฮม เอนเตอร์เทนเม้นท์อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย” นายบุญชัย ดำรงวงศ์สกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าว
“นอกเหนือจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ “MaxMini” ที่มีขนาดเล็กแล้ว ยังพกพาประสิทธิภาพการทำงานที่เต็มเปี่ยม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังได้ผนวก Acer Empowering Technology ช่วยในการทำงานให้ง่าย สะดวกสบายยิ่งขึ้นประกอบด้วย Acer eAcoustics Management ช่วยควบคุมความเร็วในการหมุนของพัดลมระบายอากาศภายในเครื่องให้เหมาะสม ทำให้เกิดมลภาวะทางเสียงน้อยลงขณะที่เครื่องทำงาน Acer eDataSecurity Management ช่วยจัดการระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ Acer eLock Management ช่วยตรวจสอบการการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Optical drive, floppy disk drive , USB port , Bluetooth และ port เป็นต้น โดยมีการตั้งรหัสผ่าน Acer eRecovery Management ช่วยในการจัดเก็บและกู้คืนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และง่ายต่อการใช้งาน Acer eSettings Management ช่วยตรวจสอบอุปกรณ์และระบบในเครื่อง รวมถึงการควบคุมค่าการตั้งค่าในระบบได้ง่ายขึ้นและ Acer ePerformance Management ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้เร็วขึ้น” นายบุญชัย กล่าวเพิ่มเติม
กำหนดวางจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ Acer “MaxMini” ทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ Veriton 1000, Power 2000, Aspire L310 และ Aspire L350 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท (ยังไม่รวมจอภาพ) ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเอเซอร์ทั่วประเทศ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกรุณาติดต่อ เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4311 หรือคลิกไปที่ www.acer.co.th
*ราคาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%*
ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์
เอเซอร์ คือบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ติดอันดับ 4 ของโลก โดยมุ่งเน้นการออกแบบและนำเสนอโซลูชั่นด้านไอทีที่ง่ายและน่าเชื่อถือซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายและเพิ่มศักยภาพของการดำเนินชีวิต ในปี พ.ศ. 2543 เอเซอร์ได้แบ่ง แยกธุรกิจด้านการผลิต เพื่อโฟกัสด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับแบรนด์เนมในตลาดต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ทอป โน้ตบุ๊ค เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล จอภาพ อุปกรณ์ต่อพ่วง และโซลูชั่น e-business สำหรับองค์กรธุรกิจ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา และผู้ใช้ตามบ้าน บริษัทฯ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2519 มีพนักงานราว 5,600 คนทั่วโลก ซึ่งให้การสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ในกว่า 100 ประเทศ
ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Outstanding Brand Performance จาก The Reader’s Digest ถึง 7 ปี เอเซอร์ ยังได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊คอันดับ 1 กว่า 12 ไตรมาสติดต่อกัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 – ปัจจุบัน รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th
