บริษัท เวิล์ดเด็กซ์ จีอีซี ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “แนวโน้มตลาดการค้าปลีกผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ 10 อันดับ” โดยมุ่งเน้นที่จะนำเสนอให้เห็นถึงความสำคัญของผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และความนิยมในปัจจุบัน พร้อมทั้งเผยแนวโน้มของตลาดการค้าปลีกและผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในหมู่ผู้บริโภค เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนไทยในธุรกิจสาขานี้
สินค้าจากธรรมชาติ – ความนิยมอย่างต่อเนื่อง
มร. มาร์ค การ์วูด ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการพัฒนาธุรกิจ บริษัท แดรี่ ฟาร์ม จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการร้านสะดวกซื้อและเวชภัณฑ์หลายแห่งทั่วยุโรปและออสเตรเลีย อย่าง การ์เดียน หรือเวลคัม ได้เปิดเผยว่า “ธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาตินั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่ผู้บริโภค ทั้งในเอเชีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรป ทั้งนี้เนื่องมาจากผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจกับความสำคัญของสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น จึงหันมาบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติซึ่งไม่เป็นพิษต่อร่างกาย”
ดังจะเห็นได้จากการทยอยเปิดร้านสะดวกซื้อซึ่งจำหน่ายเฉพาะสินค้าจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ ที่เราจะเห็นได้ในเมืองใหญ่ๆของประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และในแถบยุโรป และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทแดรี่ ฟาร์ม จำกัด ก็เพิ่งเปิดตัวร้านสะดวกซื้อแห่งใหม่ขึ้นที่ประเทศฮ่องกง ชื่อว่า “ทรีซิกส์ตี้” ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษจากธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหมือนเครื่องย้ำความมั่นใจให้เห็นว่าธุรกิจการลงทุนทางด้านผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
นอกจากนี้ มร. การ์วูด ยังกล่าวว่า หากพูดถึงผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีแนวโน้มสูงที่จะเติบโตในตลาดโลก เห็นทีจะหนีไม่พ้น ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ (Functional Food/Organic Food) ทั้งนี้มร. การ์วูด ยังได้เสริมเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่คนหันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นว่า “การที่คนหันมาสนใจให้ความสำคัญและหันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจาก ภาวะความตื่นกลัว ดังเช่นเมื่อเกิดข่าวของโรคไข้หวัดนก รวมทั้งโรคระบาดอื่นๆ คนก็จะเลิกรับประทานไก่ และหันมาซื้อของอย่างอื่นแทน ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดปัญหาคนจึงหันมาสนใจอาหารเพื่อสุขภาพซึ่งกำลังเป็นที่นิยมตามกระแสของตลาดโลก” นอกจากนี้ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภค
ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่งสร้างครอบครัว หรือมีการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยขึ้นไปเป็นกลุ่มใหญ่ที่หันมาให้ความสำคัญกับการเลือกบริโภคที่มาจากธรรมชาติ รวมทั้งกลุ่มครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ก็จะเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่ทางผู้ประกอบการสามารถผลิตสินค้าให้รองรับทิศทางความต้องการได้ นับว่าเป็นตลาดที่เติบโตเร็วและมีพื้นฐานศักยภาพในการเติบโตทีมั่นคงอีกด้วย
ในส่วนของประเทศไทยนั้น ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่โด่งดังอยู่ในตลาดโลกมากที่สุดก็คือ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสปา ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติแวะเวียนมามากมาย และจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวไทยคือ สปาที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อพูดถึงไทย คนก็มักจะนึกถึงสปาเป็นอันดับต้นๆ
ดังนั้นเราจึงน่าจะนำจุดนี้เป็นจุดขายในการเปิดตัวออกสู่ตลาดโลก จากการวิจัยจะเห็นว่าผู้ผลิตในเอเชียส่วนใหญ่นั้นยังคงเน้นในการผลิตเพื่อบริโภคในภูมิภาคมากกว่า และมีการผลิตเพื่อการส่งออกเพียง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และจากที่ มร.มาร์คได้เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์ของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในตลาดโลก ที่มีแนวโน้มเติบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางกลับกันนั้นกลับมีนักลงทุนเพียงจำนวนหนึ่งที่สนใจทำในจุดนี้ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของตลาดโลกในตอนนี้แล้ว จะเห็นว่าธุรกิจผลิตภัณฑ์ธรรมชาตินั้นมีแต่แนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดมีการเปิดร้านสะดวกซื้อเฉพาะทางขึ้นมาตามประเทศสำคัญๆ
ช่องทางใหม่ในการตีตลาดโลกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
เพื่อเป็นการตอบรับความนิยมในสินค้าจากธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับโลกต่างๆ จึงตระหนักถึงจุดนี้ และได้จัดให้มีการแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ธรรมชาติขึ้น ซึ่งมีชื่อว่า “Natural Products Expo” โดยจะมีการจัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปในทวีปต่างๆทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย โดยในปี พ.ศ.2550 นี้จะมีงาน “Natural Products Expo Asia 2007” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศฮ่องกงระหว่างวันที่ 27 – 29 มิถุนายน 2550 โดยภายในงานจะมีการแบ่งส่วนจำแนกผลิตภัณฑ์ต่างๆทั้งในส่วนของอาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ทางด้านสปา วิตามิน ฯลฯ
คุณแอนเดรีย ลี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิวโฮป เนเชอรัล มีเดีย เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดงานในครั้งนี้ เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์หลักของงานว่า “การจัดงานแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติขึ้นมานั้น เราหวังว่าจะให้เป็นเสมือนจุดศูนย์รวมของผู้ผลิตและผู้ค้าจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวและทำการซื้อขายกันที่นี่ เรามิได้หวังถึงผลกำไร แต่เราเล็งเห็นว่าข้อเสียเปรียบของผู้ผลิตคือ ไม่สามารถออกสู่ตลาดโลกได้เต็มที่ ในขณะที่มีสินค้าคุณภาพดีอยู่ในมือ ตรงจุดนี้เราจึงจัดงานขึ้นมาเพื่อเป็นจุดแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากัน ทั้งระหว่างผู้ค้าและผู้ผลิตเองได้โดยตรง อีกทั้งยังเป็นการเปิดตลาดให้แผ่ขยายไม่ใช่แค่เพียงในเอเชีย แต่รวมไปถึงทางยุโรป และอเมริกาด้วย”
จากสถิติการจัดงาน Natural Products Expo Asia 2005 ที่ผ่านมานั้น จะเห็นได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดูได้จากจำนวนของผู้เข้าร่วมงานที่มีมากถึง 7200 คน จาก 41 ประเทศทั่วโลก และมีผู้ตอบรับเข้าร่วมงานในฐานะผู้ออกบูทถึง 210 คน จาก 18 ประเทศทั่วโลก โดยมีบางประเทศที่มารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่และสามารถจัดแสดงเป็น Pavilion ได้ ถึง 7 ประเทศ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย อเมริกา และประเทศไทย
ซึ่งหากพิจารณาจากปัจจัยรอบด้านแล้ว จะพบว่าตลาดของสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพนั้นยังคงมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่าจับตามองว่าประเทศไทยจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหนในตลาดโลกทางด้านผลิตภัณฑ์สินค้าจากธรรมชาติเช่นนี้ ซึ่งข้อได้เปรียบของเรานั้นคือการมีวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ที่ขาดอยู่คือโอกาส และตอนนี้เรามีโอกาสแล้วก็น่าจะลองเสี่ยงที่จะคว้าโอกาสนั้นและวัดดูว่าเราจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหน
เกี่ยวกับ บริษัท เวิล์ดเด็กซ์ จีอีซี จำกัด
บริษัท Worldex Group of Exhibition Company เป็นบริษัทตัวแทนการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นที่รู้จักอย่างดีในฐานะตัวแทนด้านการจัดงานแสดงสินค้า งานโชว์ และงานโปรโมชั่นที่ดีที่สุดในระดับนานาชาติ ที่มีผู้จัดงานแสดงสินค้าให้ความสนใจมากที่สุดและมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
คุณ พัชรรัตน์ วัฒนกุลจรัส
บริษัท เวิล์ดเด็กซ์ จีอีซี จำกัด
โทรศัพท์: 0.2664.6488
อีเมล์: [email protected]