ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุมีผู้สนใจเสนอเป็นผู้จัดตั้งและบริหารกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ 5 ราย โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลการคัดเลือกทีมที่จะมาทำหน้าที่บริหารกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ได้ภายในสัปดาห์ที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์นี้
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ในประเทศไทยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งข้อเสนอการจัดตั้งกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ให้สมาชิกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนและสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ โดยเปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนที่สนใจ นำส่งข้อเสนอในนามของทีมภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2549 นั้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับข้อเสนอทั้งหมด 5 ทีม ซึ่งได้มานำเสนอแนวทางในการจัดตั้งกองทุนแก่คณะทำงานเฉพาะกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ ทีมที่จะจัดตั้งกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ จะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดเลือกทีมจัดตั้งและบริหารกองทุนอีทีเอฟที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดไว้ภายใต้ข้อ 8 ในเอกสารข้อเสนอ (Request for Proposals) อาทิ เครือข่ายสายสัมพันธ์กับผู้ลงทุนสถาบันและรายบุคคล กลยุทธ์และแผนการตลาด ความสามารถในการดำรงสภาพคล่องของอีทีเอฟ กลยุทธ์การลงทุน ฐานเงินทุนและอัตราการเติบโตที่คาดหวัง ค่าธรรมเนียม และการเปิดตัวกองทุนได้ตามกำหนด เป็นต้น โดยผู้สนใจรายละเอียดเกณฑ์การคัดเลือกสามารถดูได้จาก
http://www.set.or.th/setresearch/files/etf/20061102-ETF-RFP.pdf
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศผลการคัดเลือกผู้บริหารกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ได้ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะเตรียมระบบงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประสานงานกับผู้ที่ได้รับคัดเลือก เพื่อร่วมกันทำความเข้าใจแก่ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับการออกกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ในไตรมาส 2 ของปี 2550 นี้ ตามที่ได้วางแผนไว้” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าว
กองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ กองแรกนี้จะอ้างอิงดัชนี SET50 หรือดัชนีอื่นที่เสนอโดยทีมงานผู้บริหารกองทุน (consortium) และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งจะต้องมีผู้ดูแลสภาพคล่อง (market maker) อย่างน้อยหนึ่งราย โดยขนาดของกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ มีมูลค่า IPO ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนเงินทุนในการจัดตั้งจำนวน100 ล้านบาท เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ กองแรกในประเทศไทย เป็นไปตามเป้าหมายของการเน้นเพิ่มตราสารประเภทใหม่ ๆ ในตลาดทุนตามแผน กลยุทธ์ที่ 1 ด้านการมีสินค้าที่ครบถ้วนหลากหลาย ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีสิทธิที่จะทยอยขายหน่วยลงทุน อีทีเอฟได้ หลังจากผ่านวันแรกของการเสนอขาย (IPO) ไปแล้ว 6 เดือน
“หลังจากกำหนดปิดรับข้อเสนอ พบว่ามีบริษัทจัดการกองทุนส่งข้อเสนอมาทั้งหมด 5 ทีม แต่ละทีมได้จัดทำรายละเอียดในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกฝ่ายด้วย” ดร. เศรษฐพุฒิกล่าว
ทั้งนี้ การคัดเลือกทีมงานผู้บริหารกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ดำเนินการโดยคณะทำงานเฉพาะกิจที่แต่งตั้งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง 9 หน่วยงาน ได้แก่ 1) สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ 2) สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ 3) ฝ่ายการตลาดผู้ลงทุน 4) ส่วนพัฒนาบริษัทจดทะเบียน ฝ่ายพัฒนาบริษัท จดทะเบียน 5) ส่วนระบบซื้อขายหลักทรัพย์ ฝ่ายกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ 6) ส่วนพัฒนาบริการสมาชิก ฝ่ายกำกับบริษัทสมาชิก 7) ส่วนบริการบัญชีสมาชิก ฝ่ายรับฝากหลักทรัพย์ 8) ส่วนชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ฝ่ายสำนักหักบัญชี และ9) ส่วนกฎหมายและข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ ฝ่ายกฎหมาย โดยได้มีการประชุมไปแล้วเมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2550