การให้ที่ยั่งยืนและยาวนานคือการให้การศึกษา มูลนิธิไทยคม หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการช่วยเหลือและสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม จึงจัดพิธีมอบทุนใน “โครงการต่อทุนหนุนฝัน” แก่นักเรียน นิสิตและนักศึกษาในสถาบันของรัฐทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 400 ทุน แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษา จำนวน 300 ทุน ทุนละ 10,000 บาท ระดับอุดมศึกษา จำนวน 100 ทุน ทุนละ 20,000 บาท รวมมูลค่า 5,000,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและให้โอกาสเยาวชนที่เรียนดี มีความประพฤติดีแต่มีฐานะยากจน ให้ได้มีโอกาสศึกษาต่อ ณ ชั้น 6 ห้องเทพลีลา โรงแรมเอสซี ปาร์ค ท่ามกลางรอยยิ้มแห่งความยินดีของครูอาจารย์และผู้ปกครองที่มาร่วมให้กำลังใจ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม กล่าวว่า “จากตัวเลขผู้สมัครขอรับทุนการศึกษาจากโครงการต่อทุนหนุนฝันกว่า 18,000 ราย คงสะท้อนให้เห็นว่ามีเด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่รอคอยโอกาสทางการศึกษาอยู่ ด้วยแนวนโยบายหลักของมูลนิธิไทยคมที่ต้องการส่งเสริมเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาสให้มีความเสมอภาคทางการศึกษา และได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม และจากข้อมูลที่ได้รับเด็กที่ขอทุนโดยมากจะประสบปัญหาครอบครัวและสุขภาพเป็นหลัก จึงทำให้ขาดทุนทรัพย์ ทั้งๆ ที่มีความฝันและความสามารถ ทางมูลนิธิฯ จึงเข้าไปช่วยเหลือตรงจุดนี้ แม้เงินที่ให้จะเล็กน้อย แต่สามารถต่อการศึกษาของเด็กๆ หลายคนได้ ทุน 10,000 บางคนสามารถเรียนได้ 3-4 เทอม ช่วยพยุงค่าใช้จ่ายและลดความตึงเครียดในครอบครัวได้ เม็ดเงินไม่ใช่สาระหลักเท่ากับความตั้งใจในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กๆ ซึ่งจะเติบโตขึ้นเป็นกำลังที่สำคัญของชาติ คาดว่าปีหน้ามูลนิธิฯ จะสานต่อโครงการต่อทุนหนุนฝันอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าขณะนี้ทางมูลนิธิฯ จะถูกอายัดเงินจำนวน 200 ล้านบาทจาก คตส.ก็ตาม เพราะมูลนิธิฯ ตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นการให้ระยะยาวและยั่งยืน คนเราต้องมีพื้นฐานการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน เมื่อมีการศึกษาเรียนรู้ มีอาชีพที่ดีทำ ก็จะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้”
สำหรับการมอบทุนการศึกษาครั้งนี้ มูลนิธิไทยคมได้ทำการคัดเลือกผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 400 คน แบ่งเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 142 คน ระดับมัธยมศึกษา 112 คน ระดับอุดมศึกษา 30 คน ภาคกลาง 96 คน ระดับมัธยมศึกษา 65 คน ระดับอุดมศึกษา 31 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 85 คน ระดับมัธยมศึกษา 64 คน ระดับอุดมศึกษา 21 คน และภาคใต้ 77 คน ระดับมัธยมศึกษา 59 คน ระดับอุดมศึกษา 18 คน