บลจ.ไอเอ็นจี ชูผลตอบแทนกองทุน LTF ตั้งแต่ต้นปีสูงกว่า 40% ชนะตลาดฉลุย แถมมีกองทุนที่หลากหลายตอบสนองครบทุกความต้องการ พร้อมงัดโปรโมชั่นของแจกเพียบ หวังดันสินทรัพย์กองทุน LTF สิ้นปีเพิ่ม เผยเป้าหมายสิ้นปี’51 คาดขนาดสินทรัพย์โตอีกเท่าตัว
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีเช่นนี้ จะพบว่า การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จะมีความคึกคักอย่างมาก ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เรื่องของผลตอบแทนของกองทุน LTF และ RMF นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน
ซึ่งในส่วนของ บลจ.ไอเอ็นจีนั้น ที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลังนับจากวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 จนถึงตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 42.24 % ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 13.37 % ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 23.55 % และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนสูงถึง 30.18 %
“ที่ผ่านมากองทุนบรรษัทภิบาลได้รับการตอบรับจากนักลงทุนมากที่สุด เพราะมีผลการดำเนินงานที่ดีมาก และการลงทุนในกองทุน LTF ก็เป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้น การเลือกลงทุนในบริษัทที่มีบรรษัทภิบาลที่ดี นอกจากจะเป็นการเน้นย้ำคุณภาพที่ดี และการเติบโตในอนาคตแล้ว ยังนับเป็นนโยบายลงทุนที่สอดคล้องและเหมาะสมอย่างยิ่งกับกองทุน LTF”จุมพลกล่าว
สำหรับกองทุน LTF อื่นๆ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี ต่างก็มีผลตอบแทนย้อนหลังที่น่าพอใจไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผลหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าตลาด (มาร์เก็ตแค๊ป) สูงกว่า 2% โดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลังในช่วงเดียวกันตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 40.73% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 11.61% ย้อนหลัง 6 เดือนให้ผลตอบแทน 20.60% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 25.28%
กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (Value Stock) มีลักษณะเด่นที่ผลประกอบการดี มีประวัติการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถสร้างผลตอบแทน 3 เดือนอยู่ที่ 10.85% หรือนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (26 มิ.ย. 50) อยู่ที่ 16.62%
รวมถึง กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น โดยการแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ลงทุนในหุ้น ในสัดส่วนประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และเงินฝาก ในสัดส่วนประมาณ 30% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของหุ้น ซึ่งจะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.33% หรือนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (26 มิ.ย. 50) อยู่ที่ 11.19%
ในส่วนของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน LTF ของ บลจ.ไอเอ็นจี ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เติบโตถึง 70% เมื่อเทียบจากปลายปี 2549 และคาดว่าจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2550 มูลค่าสินทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่นักลงทุนนิยมซื้อ LTF ช่วงเดือนธันวาคม ทั้งนี้เชื่อว่าในปี 2551 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิจะเติบโตเท่าตัวกว่า 100%
“เราเชื่อว่ากองทุน LTF ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 15% ของรายได้หรือไม่เกิน 3 แสนบาทต่อปี ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน” นายจุมพลกล่าว
โดยในช่วงสิ้นปีนี้ เชื่อว่า แต่ละ บลจ.คงจะมีแคมเปญ หรือโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่งในส่วนของ บลจ.ไอเอ็นจี นอกจากการขยายฐาน หรือช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีบัตรกำนัลพิเศษของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล (Central Gift Voucher) เมื่อนักลงทุนซื้อกองทุน LTF ทุกกองทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี ทุกๆ 50,000 บาท จะได้รับ Central Gift Voucher มูลค่า 300 บาท หรือ 500 บาท เพื่อนำไปเลือกซื้อสินค้าหรือช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ 10,000-49,999 บาท จะได้รับ ING Shopping Bag 1 ใบ
สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถไปพบกับไอเอ็นจีได้ที่งาน “มหกรรมลดภาษี นาทีสุดท้าย ด้วย RMF-LTF ในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ที่ศูนย์การค้า Esplanade ถนนรัชดา และวันที่ 22-23 ธันวาคม 2550 ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี โทร. (02) 688-7777 กด 2 หรือ www.ingfunds.co.th