เอสซี แอสเสท เผยแผนปี 2551 เดินหน้าพัฒนา 13 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม คลอบคลุมทำเลศักยภาพย่านกลางเมืองและปริมณฑล ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมเผยโฉมบ้านแบบใหม่แกะกล่อง “New Series Home 2008” หวังสร้างความต่างของจุดขายที่ชัดเจน และมูลค่าเพิ่มของชุมชนที่ดีให้กับลูกบ้าน
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงทิศทางและแผนการดำเนินงานในปี 2551 ว่า บริษัทฯมีแผนงานที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 8 โครงการ และมีโครงการที่ขายต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จำนวน 5 โครงการ รวมเป็น 13 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท โดยจะเน้นการพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงควบคู่กันไป ซึ่งจะกระจายออกไปในหลายๆ ทำเลที่มีศักยภาพ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง โดยระดับราคาในส่วนของบ้านเดี่ยวจะเริ่มต้นที่ 4-12 ล้านบาท และสำหรับโครงการทาวน์โฮมจะเริ่มต้นที่ 1.7 ล้านบาท ส่วนโครงการประเภทคอนโดมิเนียมจะเริ่มต้นที่ราคา 1.9 ล้านบาทขึ้นไป แบ่งสัดส่วนโครงการเพื่อขายและเพี่อเช่าในสัดส่วนร้อยละ 75 : 25 ตามลำดับ โดยการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตขยายตัวในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20 %
อย่างไรก็ดีจนถึงปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวบางกอก บูเลอวาร์ด, โครงการคอนโดมิเนียม เซ็นทริค ซีน และ โครงการทาวน์โฮมวิสต้า ปาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ในหลายๆ ทำเลศักยภาพ โดยพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และสร้างความแตกต่างของจุดขายที่ชัดเจน ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มของชุมชนที่ดีให้กับลูกบ้าน พร้อมทั้งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับผู้พักอาศัยในโครงการ (CRM) ให้มากขึ้น ภายใต้สแกน “ ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เพื่อวันนี้และวันข้างหน้า” หรือ “Completed Living for Today & Tomorrow” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการสื่อสารภาพรวมขององค์กร
สำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปีนี้จะพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Series Home 2008” ที่สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของเอสซี แอสเสทฯ หลังจากการรีแบรนด์องค์กรใหม่ ทั้งในส่วนของคอนเซ็ปต์และแบบบ้าน ที่คุ้มค่าอย่างมีรสนิยม รวมถึงพัฒนาสังคมที่ดีให้กับลูกบ้าน โดยสอดรับกับ 5 จุดขาย (Selling Points) ซึ่งจะครอบคลุมในทุกโครงการที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์เอสซี แอสเสท ประกอบด้วย 1.Practical Design ที่คำนึงถึงหลักในการปรับเปลี่ยนอย่างลงตัว ในทุกช่วงของชีวิต 2.Accessible Location โดดเด่นเรื่องทำเล คือ เข้าออกง่ายทุกเส้นทางกลางทำเลศักยภาพ 3.Lively Neighborhood มีความสุขกับสังคมคุณภาพด้วยมิตรภาพที่อบอุ่น 4.Security Care พร้อมมั่นใจในความปลอดภัย 5.Intelligent Home ที่ยังตอบโจทย์เรื่องเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อชีวิตที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
โดยแบบบ้านของโครงการทั้งหมดที่จะพัฒนาในปีนี้เป็น “New Series Home 2008” ซึ่งมีการพัฒนาในด้านดีไซน์ที่เน้นสไตล์โมเดิร์น รีสอร์ท ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ซึ่งในส่วนของทาวน์โฮม ได้มีการพัฒนาทาวน์โฮม 2 ชั้น โดยขยายกลุ่มลูกค้าไปยังระดับกลางมากยิ่งขึ้น แต่รูปแบบยังคงทันสมัย และ ฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยว นอกจากนี้ยังเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ในรูปแบบ “New Community” อีกด้วย
ในปี 2551 นี้บริษัทได้นำที่ดินที่มีอยู่แล้วในหลายๆทำเลมาพัฒนาโครงการใหม่ และ มีงบลงทุนเพื่อซื้อที่ดินใหม่อีกจำนวน 1,000 ล้านบาท โดยในในครึ่งปีแรก บริษัทมีแผนงานที่จะเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ คือ 1) โครงการเซ็นทริค ซีน รัชวิภา คอนโดมิเนียมสูง 2 อาคาร จำนวน 700 ยูนิต บนเนื้อที่ 6 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท และ 2) โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รัชดา – รามอินทรา บ้านเดี่ยว จำนวน 92 ยูนิต บนเนื้อที่ 26 ไร่ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และ นอกจาก 2 โครงการที่จะเปิดใหม่ บริษัทมีโครงการขายต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,800 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว 3 โครงการ ได้แก่ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา, บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ -พระราม 5, บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ, โครงการทาวน์โฮม วิสต้า ปาร์ค อเวนิว วัชรพล ทาวน์โฮม 2 ชั้น และ โครงการคอนโดมิเนียม เซ็นทริค ซีน สุขุมวิท 64
สำหรับในครึ่งปีหลังบริษัทวางแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่อีกจำนวน 6 โครงการ โดยหนึ่งในโครงการดังกล่าว จะเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ ในรูปแบบ “New Community” บนถนนเพชรเกษม 81 บนเนื้อที่ 72 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาโครงการที่มีการจัดโซนและผังโครงการออกเป็น 3 ส่วน มีทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยวรูปแบบใหม่ ,ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น และ อาคารพาณิชย์ พร้อมสวนสาธารณะ และ คลับเฮ้าส์ นอกจากนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำการพัฒนาโครงการตามแนวคิดหลัก “Completed Living for Today & Tomorrow” ภายในโครงการยังพัฒนาพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็น “Community Mall” โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความแตกต่างให้กับเอสซียิ่งขึ้นไป
“ภายหลังจากที่เอสซี แอสเสทฯ ได้มีการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ ตั้งแต่ต้นปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค โดยในปี 2550 บริษัท สามารถปิดการขายรวม 5 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 1 โครงการทาวน์โฮม 3 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ บริษัททำยอดขายเติบโตสูงขึ้นทุกไตรมาส มียอดขายรวมทั้งปีประมาณ 2,600 ล้านบาท เติบโตจากปี 2549 ประมาณ 60 % ถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งภายใน และ ภายนอกประเทศ รวมถึงภาวการณ์แข่งขันที่สูงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มองแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมปี 2551 น่าจะเติบโตไม่มากนัก แต่เอสซี แอสเสท ยังเชื่อมั่น และพร้อมรุกอย่างเต็มที่เพื่อทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20%” นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว
