ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ เติบโตเกินเป้า ปี 51

บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต (SCNYL) สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง เติบโตเกินความคาดหมาย เผยเบี้ยใหม่ปี 2550 เพิ่มขึ้น 21% เตรียมเดินหน้าเพิ่มความแกร่ง เร่งเสริมทัพฝ่ายขายทั้งแบงก์แอสชัวรันส์ และนอนแบงก์ พร้อมพัฒนาระบบไอที ยกระดับการบริการลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด

นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ในปี 2550 บริษัทมีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยทุกช่องทางการขายเติบโตเกินความคาดหมาย มีเบี้ยปีแรกทั้งสิ้น 6.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21% และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 15% เบี้ยปีต่อไปขยายตัว 22% เป็น 6.8 พันล้านบาท และมีเบี้ยรับรวม 12.2 พันล้านบาท เติบโต 22% ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดด้านเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% จาก 5.8% ในปีก่อน และยังครองอันดับ 5 ของตลาดรวม

“ความสำเร็จนี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทาง และการทุ่มเท ผลักดันการขยายธุรกิจใหม่ผ่านช่องทางนอนแบงก์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนที่เติบโตสูงที่สุดในรอบ 32 ปีของบริษัท มีตัวแทนใหม่ 2,378 คน เพิ่มขึ้น 28% และมีตัวแทนทำงานเพิ่มเป็น 45% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของธุรกิจ ด้านเทเลมาร์เกตติ้งก็ขยายตัวโดดเด่น และเป็นปีแรกที่ช่องทางนอนแบงก์มีอัตราเติบโตสูงกว่าแบงก์แอสชัวรันส์” นายโดนอลด์ กล่าว

ในปีที่ผ่านมา สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์แอสชัวรันส์ที่บริษัทครองความเป็นผู้นำตลาด ทำยอดขายได้เหนือความคาดหมาย ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งรายใหม่ๆ ผลิตเบี้ยปีแรกได้ 4.98 พันล้านบาท เติบโต 18% ส่วนสายงานตัวแทน เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 33% ด้วยเบี้ยปีแรก 634 ล้านบาท ด้านสายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วย การตลาดองค์กร เทเลมาร์เกตติ้ง เครดิตไลฟ์ และประกันกลุ่ม มีเบี้ยปีแรกรวม 540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39%”

กลยุทธ์ในปี 2551 นั้น นายโดนอลด์ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทาง (Multi distribution channels) ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้บริษัทมาตลอด ความท้าทายในปีนี้ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทุกช่องทางให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพธุรกิจ การพัฒนาช่องทางการขายใหม่ๆ และเพิ่มจำนวนฝ่ายขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสูงสุด และบรรลุเป้าหมายองค์กรที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในช่องทางนอนแบงก์ให้เทียบเท่าแบงก์แอสชัวรันส์ในปี 2555

ในปีนี้ SCNYL ตั้งเป้าเบี้ยปีแรกจะเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2550 เป็น 6.75 พันล้านบาท และคาดว่าเบี้ยรับรวมจะเติบโต 20% เป็น 14.6 พันล้านบาท แผนงานที่สำคัญ คือ การมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ และบริการระดับเวิลด์คลาส เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งบริษัทมองว่ายังมีแนวโน้มที่ดี และจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างการเติบโตให้ธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมอีกด้วย ขณะเดียวกัน จะผลักดันช่องทางตัวแทนให้เป็นหัวหอกในการเพิ่มยอดขายให้บริษัท ซึ่งตั้งเป้าเติบโตอย่างต่ำ 30% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า และเพิ่มจำนวนฝ่ายขายในช่องทางเทเลมาร์เกตติ้ง และการตลาดองค์กร

นอกจากนี้ SCNYL ยังได้ลงทุนพัฒนาระบบไอทีให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพระบบการปฎิบัติการประกันชีวิตเพื่อสนับสนุนการทำงานของทุกช่องทางให้รวดเร็วขึ้น ภายใต้โครงการ iVision เพื่อยกระดับการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ในกลางปีนี้

ด้านนายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2551 จะร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์พัฒนากิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ ในโอกาสที่ SCB Life+ ดำเนินการมาครบ 5 ปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการบริการเป็นเลิศ และยังวางแผนเพิ่มจำนวนนักขาย และพัฒนาคุณภาพธุรกิจให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าธนาคารให้ดีที่สุด โดยจะเพิ่มบริการติดตามเบี้ยประกันชีวิตผ่านระบบโทรศัพท์และ SMS รวมถึงการพัฒนาคุณภาพการบริการต่างๆ จากเจ้าหน้าที่บริษัทฯ และ Call Center ซึ่งบริษัทได้เริ่มใช้ระบบโทรศัพท์แบบ Intelligent Call Management ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เมื่อปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มความยั่งยืนกรมธรรม์ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น

ส่วน นายรุ่งโรจน์ กิติยานุภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทน เปิดเผยว่า จะใช้กลยุทธ์ GOLDEN RAT มารุกขยายตลาด โดย GOLDEN หมายถึง การใช้ระบบ GOLD SYSTEM ของนิวยอร์คไลฟ์เป็นแม่แบบในการปฏิบัติงานและให้ความสำคัญกับ Recruit – Active Agent – Training โดยตั้งเป้าสรรหาตัวแทนคุณภาพรายใหม่ 3,000 คน ตัวแทนทำงาน 2,551 คน ผ่านกิจกรรม The Great SCNYL และเน้นการอบรมพัฒนาตัวแทนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะเริ่มโครงการ Automate Agent ซึ่งเป็นโปรแกรมการบริหารกิจกรรม และผลงานผ่านอินทราเน็ต ซึ่งจะเชื่อมโยงการสื่อสารของตัวแทน ผู้บริหารหน่วย และผู้ดูแลโครงการ ช่วยพัฒนาตัวแทนให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น