โฟร์พัฒนาเปิด 4 กลยุทธ์หลักเร่งสร้างมาตรฐานงานรับสร้างบ้าน

โฟร์พัฒนาฯ เปิดแผนกลยุทธ์ปี 2551 ดึงคอนเซ็ปต์ The Year of 4 รุกพัฒนา 4 ด้าน ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ที่ปรับทั้งรูปแบบบ้าน และการรุกเข้าสู่โครงการจัดสรร ด้านมาตรฐานรุกชูรูปแบบมาตรฐาน เหนือมาตรฐานด้านงานก่อสร้าง ด้านการบริการเน้นรูปแบบการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ออกแบบยันก่อสร้างและตกแต่ง และด้านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เตรียมพร้อมจับมือกลุ่มวัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ พัฒนาสินค้าเจาะใจลูกค้า เผยตั้งเป้ายอดขาย 505 ล้านบาท

นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 คาดการณ์ว่าภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากปัจจัยทางด้านการเมืองภายในประเทศมีความชัดเจนซึ่งคาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจที่จะปลูกสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของบริษัทฯเอง ก็ได้มีการวางแผนงานเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งในปี 2551 มีการวางคอนเซ็ปต์ภายใต้ชื่อ “The Year of 4” หรือปีของเลข 4 โดยการกำหนดกลยุทธ์หลัก ๆ ออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ประกอบด้วยด้านผลิตภัณฑ์ (Products) ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มธุรกิจหลัก ๆ คือ กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน กลุ่มธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน กลุ่มธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มธุรกิจออกแบบงานโฆษณา อีเว้นต์ และสิ่งพิมพ์ ในส่วนของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน ในปี 2551 จะมุ่งเน้นการพัฒนาแบบบ้านรุ่นใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และมุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่ง และการให้บริการหลังการขาย โดยบริษัทฯมีแบบบ้านให้เลือกมากกว่า 50 แบบ แบ่งตามระดับราคาตั้งแต่ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด ราคา 5-10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด ขณะที่การออกแบบและตกแต่งภายใน จะดำเนินการโดย บริษัท โฟร์พัฒนา อินทีเรีย จำกัด ซึ่งในปี 2551 จะมีการพัฒนาบ้านที่ตกแต่งภายในเรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่ได้ทันทีออกมาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากการพัฒนาในส่วนของงานรับสร้างบ้านแล้ว ในปี 2551 บริษัทฯ จะรุกเข้าทำโครงการบ้านจัดสรรโครงการที่ 2 ต่อจากโครงการบ้านชื่นรัชดา ภายใต้ชื่อ โครงการบ้านบุษบา ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนติวานนท์ บนพื้นที่รวมกว่า 8 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ขนาด 50-70 ตารางวา จำนวน 50 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 200 ล้านบาท โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นลักษณะการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน เหมือนกับการลงทุนในโครงการแรกของบริษัทฯ สำหรับโครงการดังกล่าวปัจจุบันอยู่ระหว่างการแบ่งผังโครงการและดำเนินการสร้างบ้านตัวอย่างคาดว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 ส่วนกลุ่มธุรกิจการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างทั้งโครงหลังคาเหล็กไร้สนิม อีซี่ ทรัส และ การจัดจำหน่ายวัสดุกันซึม และพื้นสนามเทนนิส ของบริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด ก็จะเน้นการขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของโครงหลังคา อี่ซี่ ทรัส ซึ่งปัจจุบันสามารถรุกเข้าไปในโครงการบ้านจัดสรรแล้วหลายโครงการ

ด้านมาตรฐาน (Standard) บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นคอนเซ็ปต์ มาตรฐานเหนือมาตรฐาน ด้วยจุดเด่น 2 ด้านหลัก ๆ คือ ด้านฝีมือแรงงานซึ่งไม่ใช้ผู้รับเหมาช่วงทำให้สามารถควบคุม และบริหารงานก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของมาตรฐานในด้านวัสดุก่อสร้าง โดยปัจจุบันได้มีการวางรูปแบบของวัสดุก่อสร้างในแบบ เกรด A และ Premium สำหรับบ้านทุกหลังที่ทำการก่อสร้าง

ด้านการให้บริการ (Service) ในส่วนนี้จะมุ่งเน้นการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร พร้อม การดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง บ้านทุกหลังที่สร้างโดยบริษัทฯ จะมีการรับประกันโครงสร้างทั่วไปเป็นเวลา 1 ปี รับประกันโครงสร้าง 3 ปี รับประกันการรั่วซึมของหลังคา 5 ปี และรับประกันการเกิดปลวกอีก 3 ปี นอกจากนี้ยังเน้นในเรื่องการติดตามและให้บริการหลังการขายให้กับลูกค้าที่สร้างบ้านรียบร้อยแล้วอีกด้วย

ด้านความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจ (Partners) ในปี 2551 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างในการศึกษาและทำตลาดร่วมกัน เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ อาทิ กลุ่มผู้ผลิตสระว่ายน้ำ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

“ปีนี้เราวางแผนงานหลัก ๆ ไว้ 4 ด้าน ตามคอนเซ็ปต์ The Year of 4 ซึ่งจะมีการดำเนินการและพัฒนาไปพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน คาดว่าจะสามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของโฟร์พัฒนาฯเองให้เป็นที่ยอมรับเพิ่มมากขึ้น” นายปราโมทย์ กล่าว

นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเป้าหมายด้านการขายของบริษัทในปี 2551 นั้น ตั้งไว้ที่ประมาณ 505 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ 458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10.2 % โดย แบ่งออกเป็น กลุ่มบ้านระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท รวม 75 ล้านบาท , บ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท 240 ล้านบาท , บ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป 80 ล้านบาท,งานออกแบบและตกแต่งภายใน 50 ล้านบาท, งานออกแบบ ตกแต่ง แลนด์สเคป 10 ล้านบาท, การจำหน่ายวัสดุกันซึม สนามเทนนิส และโครงหลังคาเหล็ก ไร้สนิม อีซี่ ทรัส 35 ล้านบาท และ งานออกแบบโฆษณา และ อีเว้นต์ 15 ล้านบาท โดยในส่วนของไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 บริษัทฯ มีแผนงานที่จะกระตุ้นตลาดในช่วงแรกร่วมกับสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยการเข้าร่วมออกงาน NEWS Home Builder 3 ในระหว่างวันที่ 7-9 มีนาคม 2551 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว โดยในงานบริษัทฯ จะนำบ้านรูปแบบใหม่ พร้อมด้วยโปรโมชันพิเศษ ๆ ไปนำเสนอภายในงานดังกล่าวนี้ด้วย