เอสซี ปลื้มผลประกอบการปี 50 โชว์รายได้เพิ่ม กำไรโต 90%

เอสซี ปลื้มผลประกอบการปี 2550 โตต่อเนื่องทุกไตรมาส มียอดขายโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 60% รับรู้รายได้รวม 3,504 ล้านบาท โชว์กำไรสุทธิ 632 ล้านบาท เติบโต 90 % ประกาศปี 2551 ตั้งเป้าการเติบโต ไม่ต่ำกว่า 20% เตรียมขออนุมัติจ่ายปันผล 0.65 บาทต่อหุ้น พร้อมขยายการพัฒนาโครงการ ครอบคลุมตลาดทุกระดับราคา

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานสนับสนุน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2550 ว่า บริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการตอบรับจากลูกค้า โดยมียอดขายทั้งปี 2,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,504 ล้านบาท เติบโตจากปี 2549 ประมาณ 76% โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 3,358 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% และมีกำไรสุทธิ 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% จากปี 2549 และคิดเป็นกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 1.97 บาท ณ สิ้นปี 2550 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม เท่ากับ 8,521 ล้านบาท และ 3,379 ล้านบาทตามลำดับ โดยบริษัทฯ จะเสนอขออนุมัติจ่ายเงินปันผลจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท

ทั้งนี้โครงสร้างรายได้ทั้งหมดมาจาก 2 ส่วนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ธุรกิจพัฒนาโครงการที่พักอาศัยเพื่อขาย จำนวน 2,563 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 118% จากปี 2549 และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 73% ของรายได้รวม และ ส่วนที่ 2 ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า จำนวน 775 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 22% ของรายได้รวม หากพิจารณาด้านกำไร พบว่าบริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็น 37% ของรายได้จากการดำเนินงานและเมื่อเทียบกับปี 2549 แล้ว มีกำไรขั้นต้นและกำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้น 54% และ 60% ตามลำดับ ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้สูงขึ้น

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาทในที่ดินที่มีอยู่แล้วและตั้งเป้างบประมาณซื้อที่ดินจำนวน 1,000 ล้านบาท สำหรับโครงการในปี 2552-2553 ส่วนโครงการในปี 2551 แบ่งได้เป็นโครงการใหม่ จำนวน 8 โครงการ

มูลค่ารวม 4,700 ล้านบาท และโครงการที่ขายต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 1,800 ล้านบาท โดยเน้นการพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงควบคู่กันไป ซึ่งจะกระจายออกไปในหลายๆ ทำเลที่มีศักยภาพ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับกลาง-ล่าง ทั้งนี้ มองโครงสร้างรายได้ของโครงการเพื่อขายและการให้เช่าอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 75 : 25 ตามลำดับ และการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตขยายตัวในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20 %

ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการที่เปิดขาย ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา แจ้งวัฒนะ และราชพฤกษ์-พระราม5 และโครงการทาวน์โฮมวิสต้า อเวนิว วัชรพล โดยในช่วงไตรมาสแรกนี้จะมีการเปิดพรีเซลส์โครงการใหม่อีก 2 โครงการ ในวันที่ 1-2 มีนาคม นี้ ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 92 ยูนิต บนเนื้อที่ 26 ไร่ ระดับราคาขาย 6-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และ โครงการคอนโดมิเนียมเซ็นทริค ซีน รัชวิภา ซึ่งเป็นอาคารสูง 21 ชั้น 2 อาคาร รวม 712 ยูนิต ที่ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท นอกจากนี้จะมีงาน Grand Opening โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-พระราม5 และ โครงการวิสต้า อเวนิว วัชรพล ในวันที่ 9 มีนาคมศกนี้ พร้อมกันทั้ง 2 โครงการ