ดิ เอ็มเพอเร่อร์ฯ ครบรอบ 20 ปี ชูคอนเซ็ปต์ “You Are The Emperor”

ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ครอบรอบ 20 ปี ชูคอนเซ็ปต์ “You Are The Emperor” มุ่งเน้นสร้างความคุ้มค่าให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด เดินหน้าสร้างอัตลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) พร้อมปรับโลโก้ใหม่ด้วยลุคที่ทันสมัยและแข็งแรงขึ้น ตอกย้ำความต่างผู้นำบริษัทรับสร้างระดับพรีเมี่ยม ชู 20 ปีแห่งคุณภาพเหนือมาตรฐาน มั่นใจตลาดสร้างบ้านระดับหรูสดใส คาดตลาดรับสร้างทั้งปีเติบโต15%

นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ผู้นำบริษัทรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม เปิดเผยถึง ทิศทางและแผนการดำเนินงานในปี 2551 ว่า ปีนี้เป็นปีที่บริษัทครบรอบ 20 ปี ของการดำเนินธุรกิจบริษัทรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้าเป้าหมาย และกลุ่มลูกค้าเดิม จึงได้มีการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ด้านการดำเนินงานแบบเชิงรุก เพื่อรักษาฐานเดิมของลูกค้า และขยายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้มีการสร้างเอกลักษณ์องค์กรใหม่ (Corporate Identity) และปรับโลโก้ ให้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความแตกต่าง และการจดจำแบรนด์ของบริษัทรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม ตลอดจนเพื่อยกระดับภาพลักษณ์และสร้างการรับรู้ของบริษัทในเครือเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันและมีความชัดเจนมากขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม โดยใช้คอนเซ็ปต์ “You Are The Emperor” 20 ปีแห่งคุณภาพเหนือมาตรฐาน เพื่อมุ่งเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและลูกค้าเดิมให้มีความรู้สึกเป็นคนพิเศษที่บริษัทต้องการให้บริการในระดับดิ เอ็มเพอเร่อร์

สำหรับองค์ประกอบหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ บริษัทมีจุดประสงค์หลัก 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่ 1การปรับเปลี่ยนโลโก้บริษัทด้วยการใช้สีสันที่ดูทันสมัย และดูแข็งแรงมากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้โลโก้ฉลอง 20 ปี เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีความมั่นใจว่าบริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ และพัฒนาด้านมาตรฐานการก่อสร้าง การบริการ ที่มีผลงานการสร้างบ้านด้วยคุณภาพเหนือมาตรฐานให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นที่ต้องการสร้างอัตลักษณ์องค์กร(Corporate Identity)ของตนเองใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อสร้างจุดยืนรวมของการทำธุรกิจในกลุ่มบริษัทให้มีความเด่นชัดยิ่งขึ้น ส่วนที่ 2 คือการใช้กลยุทธ์ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนร่วมในธุรกิจ(stakeholder)ทุกๆฝ่ายทั้งลูกค้า supplier สื่อโฆษณา สื่อมวลชน ผู้ที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านด้วยกัน ตลอดจนถึงสถาปนิกและวิศวกรทั่วไปให้รับรู้กับการเติบโตขององค์กรบนพื้นฐานของการมุ่งไปสู่การพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านระดับสูงที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับอย่างมืออาชีพมากขึ้น อย่างไรก็ดีการปรับโฉมองค์กรครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการปรับโลโก้ให้ดูมีความคล่องตัวและดูแข็งแรงเท่านั้น แต่บริษัทยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงของบริษัทโดยรวมด้วย ทั้งในส่วนของทิศทาง และกลยุทธ์ ตลอดจนวิธีการดำเนินธุรกิจของทั้งองค์กร โดยนับจากนี้ไปภาพของดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จะเป็นที่รู้จักกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตลาดรับสร้างบ้านโดยรวมมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าการมีภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูทันสมัย และไปในทิศทางเดียวกันจะช่วยให้บริษัทฯ มีแนวทางใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และในส่วนของกลยุทธ์การตลาดและการขายในปีนี้บริษทฯ จะนำตัวเลข 20 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการครบรอบ 20 ปี มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสีสันกิจกรรมการตลาด รวมทั้งในส่วนของการดีไชน์แบบบ้านใหม่ในปีนี้จะนำคอนเซ็ปต์ space utilization oriented มาใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดกับพื้นที่ใช้สอยในทุกๆตารางเมตร นอกจากนี้ยังคงร่วมกิจกรรมการตลาดกับสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี รวมทั้งการจัดกิจกรรมที่จะสามารถพัฒนาความรู้ความสามารถของนิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีภาพลักษณ์ใหม่ของบริษัทจะเริ่มสู่สายตาสาธารณะชนในงาน “NEWS Home Builder 3” ในระหว่างวันที่ 7-9 มีนาคมศกนี้ ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว โดยในงานบริษัทจะนำแบบบ้านใหม่ พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษร่วมงานนี้ด้วย

ในส่วนผลประกอบการในปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 251 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากงานก่อสร้างบ้าน 164 ล้านบาท รายได้จากงานอินทีเรีย 87 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70:30 ตามลำดับ อย่างไรก็ดีในปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ของงานสร้างบ้าน ประมาณ 280 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 10 %

นายสุรัตน์ชัย กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ของตลาดรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม พบว่ายังมีความต้องการในตลาดในระดับที่น่าพอใจ และมีการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดรวม ประกอบกับมีปัจจัยบวกที่ส่งผลให้กลุ่มลูกค้ามีการตัดสินใจสร้างบ้านเองเพื่ออยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันไม่มีผลต่อการตัดสินใจสร้างบ้านระดับสูงของผู้บริโภคมากนัก รวมทั้งแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างที่มีราคาสูงขึ้นมาก และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคตัดสินใจลงทุนเพื่อสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยมากขึ้น ส่วนปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจยังคงเป็นเรื่องของปัจจัยลบต่าง ๆ ทางด้านธุรกิจและการเมือง

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ประเมินสถานการณ์ภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2551 ยังคงมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15 % โดยคิดจากมูลค่ายอดขายรวม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,800 ล้านบาท จากยอดขายประมาณการของปี 2550 ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ 8,500 ล้านบาท ทั้งนี้มูลค่าตลาดรวมที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสนใจในการสร้างบ้านเองกับบริษัทรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้บริโภคได้ให้การยอมรับในคุณภาพและความเป็นมืออาชีพตัวจริง รวมถึงการเข้ามาสู่ตลาดบ้านสร้างเองของผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งในส่วนของบริษัทรับสร้างบ้านเองก็มีการขยายตัวในส่วนของบริษัทในเครือมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น และยังมีการรวมตัวกันเป็นพันธมิตร รวมถึงการสร้างบ้านให้กับโครงการบ้านจัดสรร แต่ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง ดังนั้นผู้ประกอบการเองต้องเน้นคุณภาพและการบริการมากขึ้น ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้านโดยรวม ประกอบด้วย ความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำมันในระยะยาวที่ยังมีการปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย