เอเชีย ซิเคียวริตี้ฯ ในกลุ่มล็อกซเล่ย์ เดินเครื่องรุกธุรกิจรักษาความปลอดภัยสนามบินและอากาศยาน

เอเชีย ซิเคียวริตี้ฯ บริษัทชั้นนำด้านรักษาความปลอดภัยในกลุ่มล็อกซเล่ย์ เผยแผนปี 51 เดินเครื่องเต็มสูบ มุ่งสู่มาตรฐานสากล ISO 9002 หวังสร้างความเชื่อมั่นการบริการมาตรฐานโลก เตรียมขยายฐานลูกค้าจากสนามบินสู่สายการบินมากขึ้น ชูกลยุทธ์สร้างความต่างการให้บริการแบบมืออาชีพ เดินหน้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง หวังเจาะกลุ่มลูกค้านอกสนามบิน ประกาศ 3-5 ปี ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจ OUTSOURCE แบบครบวงจร

ดร.สมภพ เจริญกุล กรรมการบริหารและกรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กำกับดูแลกลุ่มธุรกิจบริการทางด้านการศึกษา บันเทิง และการรักษาความปลอดภัย ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ ASM เปิดเผยว่า งานบริการรักษาความปลอดภัยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จุดประสงค์ในการเปิดตัวบริษัท ASM ในครั้งนี้ จึงเป็นการประกาศความพร้อมที่จะมุ่งสู่การเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ด้วยคุณภาพการให้บริการ บุคลากรมืออาชีพ และเทคโนโลยีชั้นสูง

ดร.สมภพ กล่าวอีกว่า เนื่องจากล็อกซเล่ย์ เป็นผู้นำธุรกิจชั้นนำของประเทศไทยที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 69 ปี และมีธุรกิจในเครือที่หลากหลาย ทำให้สามารถร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มล็อกซเล่ย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ บริษัท ลอว์ เอ็นฟอร์ซเม้นท์ เทคโนโลยี โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ LET Solutions ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร มีศูนย์เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. และพร้อมให้การสนับสนุนอุปกรณ์ตรวจร่องรอยสารวัตถุระเบิดและยาเสพติด ที่มีทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบพกพา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริษัท แอล-แทค เทคโนโลยี จำกัด ที่มีความพร้อมในด้านอุปกรณ์ระบบควบคุมการเข้า-ออก (Access Control) ที่นำเอาเทคโนโลยีการอ่านลายนิ้วมือและรีโมทคอนโทรลแบบไร้สายเข้าไว้ด้วยกัน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานแบบต่างๆได้หลากหลาย เช่น การเปิดปิดประตูเข้าออกในอาคาร หรือรถยนต์

ขณะเดียวกัน ASM ยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูงด้านการรักษาความปลอดภัยอากาศยานจาก ไอซีทีเอส ยุโรป โฮลดิ้งส์ บี.วี. ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในการให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยธุรกิจการบินที่ใหญ่เป็นลำดับต้นๆของโลก โดยให้บริการมากกว่า 45 สนามบิน ใน 20 ประเทศของทวีปยุโรป นอกจากนี้ ASM ยังเป็นบริษัทผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่ใช้ Simulator Software ที่ทันสมัยในการฝึกอบรมและทดสอบพนักงาน ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า พนักงานของ ASM ทุกคนได้ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นในระดับมาตรฐานโลก

นายกาญจน์ ทองใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยสนามบินและอากาศยานระดับมาตรฐานสากล ในกลุ่มบริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ เปิดเผยว่า ASM เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งปัจจุบันได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปีครึ่งแล้ว ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อรุกธุรกิจด้านรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบ ในฐานะผู้ให้บริการเอาท์ซอร์ส (Outsource) ด้านบุคลากรรักษาความปลอดภัยสนามบินและอากาศยานระดับมาตรฐานสากล ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ถือหุ้นโดยบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และไอซีทีเอส ยุโรป โฮลดิ้งส์ บี.วี. ส่งผลให้ ASM มีความพร้อมทั้งทางด้านเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยระดับสูงมาตรฐานเดียวกับยุโรป และมีบุคลากรที่พร้อมให้บริการมากกว่า 2,200 คน

ทั้งนี้ ASM ให้บริการงานรักษาความปลอดภัยครอบคลุม 2 ส่วน คือ 1.บริการรักษาความปลอดภัยอากาศยาน (Aviation Security) ประกอบด้วย พนักงานวินิจฉัยภาพ พนักงานตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ พนักงานตรวจตราจุดต่าง ๆ ในท่าอากาศยานและลานบิน 2.บุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัย (Security Personnel) เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานศูนย์ควบคุม 24 ชั่วโมง พนักงานอำนวยความสะดวกด้านจราจร พนักงานเก็บกู้วัตถุระเบิด และสุนัขตรวจค้น (K-9) เป็นต้น

ที่ผ่านมารายได้หลักของ ASM มาจากการให้บริการรักษาความปลอดภัยในสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่เป็นสายการบิน เช่น สายการบิน Scandinavian Airlines (SAS) และ FINNAIR ส่วนในปีนี้ ASM มีแผนจะขยายฐานลูกค้าจากสนามบินไปสู่สายการบินให้มากขึ้น รวมทั้งขยายฐานลูกค้าไปสู่ภายนอกสนามบิน เพื่อให้คลอบคลุมลูกค้าในหลายๆ กลุ่มธุรกิจ เช่น รถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โรงแรม อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ธนาคารและโรงงานขนาดใหญ่ เป็นต้น

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ASM กล่าวถึงทิศทางของบริษัทในอนาคตว่า บริษัทฯ มุ่งหวังที่จะสร้างระบบการรักษาความปลอดภัยที่สามารถ รวมเอาเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มาปฏิบัติงานร่วมกัน และทำงานในเวลาเดียวกันได้ โดยมีชื่อโครงการนี้ว่า e-guard จุดประสงค์เพื่อเสริมศักยภาพในการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความชำนาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ดังนั้นจึงมีเป้าหมายที่จะขยายการให้บริการด้านบุคลากรตามความต้องการของลูกค้า เช่น พนักงานขนถ่ายสัมภาระ พนักงานผู้ช่วยฝ่ายการโดยสาร พนักงานเดินเอกสาร พนักงานขับรถ ฯลฯ

“ASM จะใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างในเรื่องการให้บริการแบบมืออาชีพ และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแผนพัฒนามาตรฐานระบบบริการไปสู่ ISO 9002 ให้สำเร็จภายในปีนี้อีกด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล โดยตั้งเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้านี้ ASM จะก้าวสู่การเป็นบริษัทเอาท์ซอร์ส (Outsource) ให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยสนามบิน อากาศยาน และบุคลากรด้านรักษาความปลอดภัย รวมถึงบุคลากรต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจการบินอย่างครบวงจรในระดับมาตรฐานสากล” นายกาญจน์ กล่าว