บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) นักพัฒนาคอนโดมิเนียมชั้นนำของประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัว รายงานการวิจัยภายใต้ชื่อ Why Invest…Pattaya ซึ่งเป็นรายงานการวิจัยเชิงลึกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตพัทยาและพื้นที่โดยรอบ
รายงานการวิจัยฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนในคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับสูงทั้งราคาขายต่อและอัตราการปล่อยเช่า ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของเศรษฐกิจในพัทยาและพื้นที่โดยรอบ รวมถึงการขยายตัวของนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม
มร.ไนเจิล คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รายงานวิจัยฉบับนี้ประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้ที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยามีความรู้ในสภาพตลาดมากขึ้น
“พัทยานับเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว รวมทั้งเป็นที่พักตากอากาศที่เต็มไปด้วยกิจกรรมอันหลากหลายที่เหมาะสำหรับวันพักผ่อน”
จากรายงานการวิจัย Why Invest…Pattaya ได้ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาต่างได้รับผลตอบแทนในระดับสูง ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ซื้อโครงการนอร์ทชอร์ของไรมอน แลนด์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 187 ยูนิตที่เปิดตัวไปในปี 2547 ได้รับผลกำไรสูงถึง 30% ในปี 2548 และราคาขายต่อได้ถีบตัวสูงขึ้นถึง 40 – 50% ในปี 2549
“รายงานการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าราคาของคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในพัทยามีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากจำนวนห้องชุดระดับพรีเมียมที่จำหน่ายในตลาดยังมีอยู่ในระดับต่ำ โดยมีกลุ่มลูกค้าประจำได้แก่ อังกฤษ อเมริกา และสแกนดิเนเวีย นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่กำลังให้ความสนใจจากประเทศแถบยุโรปตะวันออกรวมถึงรัสเซียด้วย” มร.คอร์นิคกล่าว
จากข้อมูลของ Why Invest…Pattaya ราคาขายโดยเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพัทยาเพิ่มขึ้น 52% จากราคาขายโดยเฉลี่ยในปี 2547 ที่ 59,000 บาทต่อตารางเมตร ไปอยู่ที่ 89,842 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2550 นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังแสดงให้เห็นว่าการซื้อคอนโดมิเนียมในพัทยาเพื่อการลงทุนระยะยาวซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและยังให้ผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 9 – 12% ซึ่งเป็นอัตราตอบแทนที่ห้องชุดใน โครงการนอร์ทชอร์ พัทยา ของไรมอน แลนด์ ได้รับ
รายงาน Why Invest…Pattaya ยังได้ศึกษาถึงปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาด้วย หนึ่งในปัจจัยสำคัญนั้นคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 6.1 ล้านคนในปี 2549 เป็น 6.85 ล้านคนในปี 2550 ซึ่งส่งผลให้พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดในประเทศไทย
พัทยายังมีที่ตั้งอยู่ใจกลางเขตเศรษฐกิจสำคัญที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ทั้งนี้ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีและระยอง รวมถึงเขตนิคมอุตสาหกรรมตะวันออก อยู่ที่ 12% ในช่วงปี 2549 – 2550
มร.ไซมอน เดอร์วิลเล่ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของไรมอน แลนด์ กล่าวว่า รายงานฉบับนี้จะชี้ให้เห็นโอกาสการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่พัทยา ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนที่กำลังสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ด
“รายงานการวิจัย Why Invest…Pattaya ได้รวบรวมข้อมูลที่ผ่านการค้นคว้ามาเป็นอย่างดี ที่จะชี้ให้เห็นถึงโอกาสสำหรับการเข้าไปลงทุนในพัทยา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ นักธุรกิจ หรือผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศอยู่ก็ตาม” มร. เดอร์วิลเล่ กล่าวปิดท้าย
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดรายงานวิจัย Why Invest…Pattaya ได้ที่เวบไซต์ www.raimonland.com
