โฟร์พัฒนาชี้ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสที่ 1 มีทิศทางที่สดใสหลังพบกำลังซื้อปี 2551-2552 ยังมีต่อเนื่อง แจงลูกค้ากว่า 80% พร้อมปลูกสร้างบ้าน ขณะที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในตัวธุรกิจรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 เข้าเป้าที่ 132 ล้านบาท
นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 กำลังซื้อในตลาดรับสร้างบ้านยังคงมีทิศทางที่ดี โดยจากการสำรวจของบริษัทฯในช่วงการจัดงาน NEWS Home Builder 3 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มผู้บริโภคยังมีแนวโน้มที่จะปลูกสร้างภายในปี 2551-2552 มากถึง 84% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านที่ได้ทำการสำรวจด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ตัวเลขที่สำคัญและถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านก็คือผู้บริโภคส่วนใหญ่พิจารณาปลูกสร้างบ้านจากคุณภาพและผลงาน เป็นหลัก แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในธุรกิจรับสร้างบ้านมากกว่าแต่ก่อน ที่ผู้บริโภคจะมุ่งพิจารณาจากเรื่อง ของราคาเป็นหลัก นอกจากนี้ผลการสำรวจยังระบุว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้นโดยกว่า 90 % มีความตั้งใจที่จะปลูกสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน แทนผู้รับเหมารายย่อย
“ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีสำหรับตลาดรับสร้างบ้าน ทั้งกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้บริโภคสนใจและศึกษาข้อมูลมากขึ้น ที่สำคัญส่วนใหญ่ต้องการให้บริษัทรับสร้างบ้านมีบริการแบบครบวงจร ทั้งรับสร้าง ตกแต่งภายใน จัดสวน และอื่น ๆ ซึ่งในส่วนของบริษัทเองในช่วงไตรมาสแรกก็มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ทั้งในส่วนของโฟร์พัฒนาเอง และกลุ่มบริษัทในเครือ” นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทสามารถทำยอดขายได้รวม 132 ล้านบาท จากเป้าหมายรวมทั้งปีที่ 550 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น การรับสร้างบ้านของบริษัท โฟร์พัฒนา 72 ล้านบาท การรับสร้างบ้านแบบพิเศษราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป 30 ล้านบาท ธุรกิจการออกแบบภูมิสถาปัตย์ 2 ล้านบาท ธุรกิจจำหน่ายวัสดุกันซึม สนามเทนนิส และ โครงหลังคาเหล็กไร้สนิม อีซี่ ทรัส 6.5 ล้านบาท บริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งรับสร้างบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท 13 ล้านบาท บริษัท โฟร์พัฒนา อินทีเรีย จำกัด 6.5 ล้านบาท และ บริษัท โฟร์พัฒนา คัลเลอร์ไลน์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ และพัฒนาเว็บไซต์ 2 ล้านบาท
สำหรับทิศทางตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน มีแนวโน้มที่ดี เห็นได้จากการที่ผู้บริโภคตัดสินใจปลูกสร้างบ้านในช่วงนี้ ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากมีปัจจัยเอื้ออำนวยในหลายเรื่อง ทั้งความชัดเจนทางการเมือง รวมถึงแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเร็วขึ้น นอกจากนี้สถาบันการเงินหลายแห่ง หันมาให้ให้ความสำคัญกับสินเชื่อของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านมากขึ้น ทำให้ มีการพัฒนาข้อเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยกระตุ้น และทำให้ผู้บริโภคสามารถปลูกสร้างบ้านได้สะดวกขึ้น
