MJD ทำกำไรสุทธิไตรมาสแรก 107.60 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 159 % “สุริยน” เผยผลประกอบการออกมาดี เหตุมีรายได้โอนเพิ่มขึ้นจาก 6 โครงการ “วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาทาวเวอร์เอ และ ทาวเวอร์บี-แมนฮัตตัน ชิดลม-ฟูเลอตัน สุขุมวิท-วินด์ สุขุมวิท 23-วินด์ รัชโยธิน” บวกกับส่วนหนึ่งได้จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาล
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2551 (มกราคม-มีนาคม 2551) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 107.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.47 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 43.13 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 159% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 614.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2550 ที่มีรายได้ 372.50 ล้านบาท
ทั้งนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากบริษัทมีรายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้นประมาณ 240.41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่น่าพอใจ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการรับรู้รายได้โครงการทั้งหมด 6 โครงการ ได้แก่ โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยา ทาวเวอร์เอ จำนวน 309.41 ล้านบาท โครงการวอเตอร์มาร์ค ทาวเวอร์ บี จำนวน 178.90 ล้านบาท, โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม จำนวน 55.33 ล้านบาท, โครงการฟูลเลอตัน สุขุมวิท จำนวน 2.72 ล้านบาท โครงการวินด์ สุขุมวิท 23 จำนวน 36.89 ล้านบาท และโครงการวินด์ รัชโยธิน จำนวน 27.04 ล้านบาท
“ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ MJD ถือว่าเติบโตได้ดี ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะผันผวน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก และสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย บวกกับบริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ รวมถึงกำไรเพิ่มขึ้นยังมาจากการปรับราคาขายขึ้นอีก ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามราคาที่ดินย่านศูนย์กลางทางธุรกิจ (CBD area) อีกด้วย” นายสุริยน กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ซึ่งจะเป็นโครงการที่ 3 ของปีนี้ คือ โครงการรีเฟล็กชั่น หาดจอมเทียน จังหวัดพัทยา ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ บริเวณหาดจอมเทียน 1 สูงกว่า 40 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท
ในส่วนอีก 2 โครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1.โครงการรอยซ์ ไพรเวท เรสซิ เดนท์ส สุขุมวิท 31 เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ สูง 39 ชั้น และ 25 ชั้น มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ระดับราคาขาย 1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัทในเครือ เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสต์เม้นต์ (AIG) ขณะที่โครงการที่ 2 ได้แก่ โครงการ Marrakesh หัวหิน เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น และ 4 ชั้น จำนวน 8-10 อาคาร บนเนื้อที่รวมกว่า 16 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท ระดับราคาขาย 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวอีกว่า ในปีนี้ MJD วางแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการที่เปิดไปก่อนหน้านี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าในประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน โครงการที่กำลังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีการทยอยปรับขึ้นราคาขายอีกประมาณ 10-20% ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมัน และราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น
“คอนโดมิเนียมของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และเราก็นำเอาไอเดียใหม่ๆ และนวัตกรรม เข้ามาใช้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยี โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่มีความต้องการซื้อสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งซื้อเพื่อพักอาศัย และซื้อเพื่อลงทุน โดยเราเชื่อว่าตลาดนี้ยังมีโอกาสสูงอยู่ นอกจากนี้เรายังสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามกำหนดเวลา ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความพึงพอใจแล้วให้ลูกค้าแล้ว ยังทำให้บริหารการเงิน และต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าว
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของคนไทยที่มุ่งเน้นพัฒนาที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โดยเน้นพัฒนาโครงการที่มีจุดขายที่แตกต่างและชัดเจน มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ๆ ในการเพิ่มคุณค่าของโครงการ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับผู้พักอาศัย และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบนเสมอมา โดยยังคงเน้นที่คุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่เป็นจุดเด่นและความเป็นมืออาชีพของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์