แสนสิริ เปิดตัว “บุราสิริ ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ” สไตล์ Oriental Resort

แสนสิริเพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้ตลาดที่อยู่อาศัยปลายปี 51’ เปิดตัวโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “บุราสิริ ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ” สไตล์ Oriental Resort บนถนนราชพฤกษ์ ทำเลที่อยู่อาศัยสุดฮ็อต รับเปิดใช้ศูนย์ราชการ และศูนย์การค้าแห่งใหม่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยว 52 ตารางวาขึ้นไป ในคอนเซ็ปต์โครงการแบบ The Natural Shelter for The Senses & Soul สัมผัสความงดงามใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ เปิด Pre–Opening ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป

นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยบนถนนราชพฤกษ์ ที่รองรับชีวิตเมืองได้อย่างลงตัว ในรูปแบบโครงการ The Natural Shelter for The Senses & Soul ที่มีจุดเด่นในไตล์ Oriental Resort ขนาดตัวบ้านตั้งอยู่บนแปลงที่ดินตั้งแต่ 52 – 167 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 144 – 267 ตารางเมตร จำนวนทั้งสิ้น 184 ยูนิต มูลค่าโครงการขายรวม 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการเปิดตัวการขาย (Pre-Opening) ในช่วงเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไปซึ่งเชื่อมั่นว่าโครงการ บุราสิริ ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านเดี่ยวที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

“ช่วง 1 – 2 ปี ที่ผ่านมา แสนสิริยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ บุราสิริ เนื่องจากยังไม่มีทำเลที่เหมาะสมกับการพัฒนาโครงการในรูปแบบสไตล์ Oriental Resort นอกจากนี้ในส่วนที่เปิดตัวโครงการใหม่ย่านราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ เนื่องจากก่อนหน้านี้ แสนสิริได้เปิดตัวโครงการสราญสิริ ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและยังคงมีความต้องการของลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้นำแบรนด์บุราสิริมารองรับความต้องการบ้านสไตล์ Oriental Resort ที่มีความเหมาะสมและลงตัวระหว่างรูปแบบโครงการกับทำเลที่ตั้งของพื้นที่โครงการโดยรอบ ซึ่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ซึ่งแบรนด์บุราสิรินี้จะมีความโดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์ที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวของแสนสิริ ในความเป็นบ้าน สไตล์ Oriental Resort ทุกโครงการ และเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะสามารถทำตลาดได้ดีมากอีกกลุ่มหนึ่งของแสนสิริด้วย” นายสมัชชา กล่าว

โครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 52 ไร่ บนถนนราชพฤกษ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่บนเส้นทางคมนาคมสายใหม่ที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์และถนนชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายที่จะเชื่อมโยงกับถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านสะพานพระราม 4 และถนน 345 ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางธุรกิจย่านสีลม, สาทร, สุขุมวิทได้อย่างสะดวก ทั้งจากทางด่วนขั้นที่ 2 หรือ จากถนนราชพฤกษ์ และยังไม่ไกลจากย่านธุรกิจโซนเหนือของกรุงเทพฯ อาทิ ย่านรัชโยธิน – รัชดา หรือย่านถนนพหลโยธิน หรือเชื่อมต่อไปทางนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคของกรุงเทพฯ โซนเหนือ เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่, นวนคร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ศูนย์การค้าใหญ่แห่งใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัว อย่างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ รวมทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลทาวน์ รัตนาธิเบศร์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, บิ๊กซี, คาร์ฟูร์, บางใหญ่ซิตี้ และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ เป็นต้น

สำหรับสถาปัตยกรรมและการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ นำเสนอในรูปแบบ The Natural Shelter for The Senses&Soul ที่มีจุดเด่นของสวนสวยแนวตั้ง หรือ Vertical Greenery ในส่วนทางเข้าด้านหน้าโครงการ ภายในโครงการได้รับการออกแบบโดยเน้นพื้นที่สีเขียวตั้งแต่ทางเข้าจนถึงส่วนท้ายของถนนเมนหลักในโครงการ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายในรูปแบบสไตล์ Oriental Resort มากที่สุด พร้อมคลับเฮาส์สไตล์ทรอปิคอล เอเชียน รีสอร์ท ตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้อารมณ์แบบธรรมชาติทั้งภายนอกและภายใน อันประกอบด้วยโถง Semi out door เปิดโล่ง ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำใหญ่ ขนาด 25×10 เมตร พร้อมสระเด็ก ท่ามกลางความงามของพรรณไม้ ในสวนร่มรื่นอารมร์รีสอร์ทกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว ส่วนบ้านในโครงการได้รับการออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยการนำรูปแบบสถาปัตยกรรม Oriental Style ผสมผสานให้กลมกลืนกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม การใช้สีสันของอาคารเป็นแบบ Two Tone ใน Style Earth Tone เพื่อให้สามารถสัมผัสเสน่ห์ของความเป็นตะวันออกที่งดงาม

“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในย่านราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากความนิยมด้านทำเล ซึ่งตั้งอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่บนเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกสบาย ประกอบกับรูปแบบโครงการ คุณภาพของสินค้า และความมั่นใจในตัวผู้ประกอบการ รวมถึงมาตรการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ทั้งเรื่องการลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์และค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งมีความชัดเจนและส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ยังคงสามารถกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี แม้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองและสถานการณ์เศรษฐกิจจะยังคงไม่ชัดเจน” นายสมัชชา กล่าว