เปิดตัว “พิวรรธนา” บริษัทในเครือกลุ่มแสนสิริ ขยายฐานตลาดที่อยู่อาศัยครบวงจร เดินหน้าส่งแบรนด์ที่อยู่อาศัยน้องใหม่ “ฮาบิเทีย” รุกตลาดบ้านระดับ 3 – 5 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านเดี่ยวตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ บนพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยย่าน
ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ชูจุดขายบ้านแนวคิดใหม่สไตล์ Modern ขนาด 50 – 130 ตร.ว. พื้นที่ 136 – 172 ตร.ม. วางแนวทางบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี Precast มาใช้ในการก่อสร้าง เตรียมจัด Pre-Sale Day เปิดการขายอย่างเป็นทางการ วันที่ 28 ก.พ. – 1 มี.ค. นี้
นายสุริยะ วรรณบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พิวรรธนา จำกัด บริษัทในเครือของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังจะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ล่าสุด ในแบรนด์สินค้าที่ชื่อว่า “ฮาบิเทีย” ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในระดับราคา 3 -5 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการแรกในชื่อโครงการ ฮาบิเทีย ราชพฤกษ์ จำนวน 364 ยูนิต มูลค่าโครงการขาย 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ในวันที่ 28 ก.พ. – 1 มี.ค. นี้ จะมี การจัดงาน Pre – Sale Day เพื่อเปิดตัวการขายอย่างเป็นทางการ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านเดี่ยวที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
“แนวคิดของชื่อ ฮาบิเทีย เป็นแนวคิดใหม่ในการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัย ที่มุ่งเน้นจับตลาดคนรุ่นใหม่กลุ่ม Younger Modern มีแนวคิดและมีสไตล์ในการใช้ชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและชื่นชอบการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดี จากแนวคิดดังกล่าว จึงมีการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ครบทุก Function สามารถใช้สอยทุกส่วนของพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างแบบ Precast สร้างความสวยงามในการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ของบ้านในโครงการได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีความคงทนแข็งแรง ช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้าง และยังสามารถควบคุมต้นทุนการบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีการก่อสร้างที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุดวิธีหนึ่ง ” นายสุริยะ กล่าว
โครงการฮาบิเทีย ราชพฤกษ์ พัฒนาโดยบริษัท พิวรรธนา จำกัด ถือหุ้นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์โดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 77 ไร่ บนถนนสะพานนนทบุรี – บางบัวทอง (345) แนวคิดการออกแบบ
โครงการทุกพื้นที่อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตสมัยใหม่ โดยเฉพาะตัวบ้านในแบบ Modern Style
ที่เน้นรูปลักษณ์ทันสมัยสะท้อนผ่านโทนสีอบอุ่น มีแบบบ้านให้เลือกถึง 3 ขนาดพื้นที่ใช้สอย อาทิ แบบ H1 มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 136 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบ H2 มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 152 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และแบบ H3 มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 172 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ทุกยูนิตมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยทุกตารางเมตรให้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในระดับราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 3.15 ล้านบาท
โครงการฮาบิเทีย ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยสาธารณูปโภคต่างๆ ครบครัน อาทิ ถนนทางเข้าหลักกว้าง 20 เมตร ที่เชื่อมต่อบ้านในโครงการทั้งเฟสเข้าด้วยกัน ทางเข้าโครงการมีเอกลักษณ์โดดเด่นสวยงาม ในสไตล์โมเดิร์น เพิ่มความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ตลอดแนวถนนทางเข้าโครงการด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ทั้งสองฝั่งถนน จัดสรรพื้นที่เพื่อการพักผ่อนด้วยสโมสร สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 2 แห่งในโครงการที่เชื่อมกันด้วย Strip Park ที่ออกแบบอย่างผสมผสานกลมกลืนระหว่างความทันสมัยของวัสดุตกแต่งและพรรณไม้ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณทาง
เข้า – ออก โครงการ
สำหรับทำเลที่ตั้งของ ฮาบิเทีย ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในย่านการอยู่อาศัยที่มีการคมนาคมที่สะดวก เป็นโครงการติดถนนใหญ่ เพียง 1.8 กิโลเมตรจากถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสายใหม่ที่สะดวกสบายต่อการเดินทางที่เชื่อมต่อกับถนนตากสิน – เพชรเกษม และถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก เดินทางสู่ใจกลางย่านธุรกิจทั้งสาธร สีลม และสุรวงศ์ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนชัยพฤกษ์ผ่านสะพานพระราม 4 เดินทางเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ และย่านธุรกิจงามวงศ์วาน รวมถึงย่านธุรกิจโซนเหนือของกรุงเทพฯ อาทิ รัชโยธิน – รัชดา นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีสมานและทางด่วนแจ้งวัฒนะ รวมทั้งแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ศูนย์การค้าใหญ่แห่งใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัว อย่างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทาวน์ รัตนาธิเบศร์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, บิ๊กซี, คาร์ฟูร์, โรงพยาบาลนนทเวช และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เป็นต้น
“ การเปิดตัวโครงการฮาบิเทีย นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การรุกขยายฐานธุรกิจในปี 2552 ที่เน้นการขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับกลางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีดีมานต์ค่อนข้างสูง และมีโอกาสในการขยายฐานได้ดี ทั้งนี้ค่อนข้างเชื่อมั่นว่า ฮาบิเทีย จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และสามารถขยายสู่ตลาดระดับเดียวกันนี้ในทำเลอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย” นายสุริยะกล่าว