บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT โชว์งบปี 51 เติบโตโดดเด่น กำไรเพิ่มกว่า 129.80% แถมใจป้ำจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท เผยครึ่งปีแรกจ่ายแล้ว 1.25 บาท บอร์ดอนุมัติจ่ายครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 1.50 บาท ผู้บริหารมั่นใจธุรกิจแข็งแกร่งเดินหน้ารุกธุรกิจเต็มสูบ เปิดแผนเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศรับการเติบโตในอนาคต
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยถึงผลประกอบการเฉพาะกิจการงวดปี 2551 (มกราคม-ธันวาคม 2551) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 3,324.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,678.27 ล้านบาทหรือ 101.92% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 1,646.59 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 217.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.06 ล้านบาท หรือ 129.80% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 94.81 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมบริษัทฯ ยังมีมติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท ดังนั้น จึงจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2552
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIT กล่าวว่า การที่กำไรสุทธิในงวดปี 2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากงานวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก รวมถึงการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือทั้งของภาครัฐและเอกชน
“ผลประกอบการงวดปี 51 ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ผลที่ออกมาถือว่าน่าพอใจ เพราะทั้งรายได้และกำไรเราดีกว่าปีก่อนค่อนข้างเยอะ ขณะที่บริษัทฯ มีแผนใช้เงินลงทุนปี 52 ค่อนข้างน้อย และไม่มีปัญหาด้านเงินสด จึงมีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ส่วนสาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้นมาจากงานวางระบบที่เพิ่มมากขึ้นในส่วนของภาครัฐ” นายศิริพงษ์กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2552 ถึงแม้มองว่าภาพรวมของเศรษฐกิจจะยังชะลอตัวลงตามทิศทางเศรษฐกิจโลก แต่อุตสาหกรรมไอทีและสื่อสารโทรคมนาคมของไทยในปีนี้ คาดว่า ยังมีการเติบโตและการลงทุนของของลูกค้าค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ประกอบการด้านบริการสื่อสารโทรคมนาคมที่จำเป็นต้องต้องลงทุนเพื่อการให้บริการลูกค้าที่ดีกว่า เร็วกว่า และหลากหลายกว่า ตามเทรนด์ของเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น บริษัทฯมีความพร้อมที่จะเดินหน้ารุกธุรกิจทุกเซ็กเม้นต์อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งการขยายตลาดภายในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังหาช่องทางในการขยายโครงการในฐานลูกค้าภาครัฐที่มีอยู่ปัจจุบันเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมายังมีบางหน่วยงาน ทั้งในส่วนของกระทรวง ทบวง กรม ที่ยังต้องการพัฒนาในเรื่องของระบบไอทีอีกมาก ทั้งนี้เพื่อชดเชยในส่วนที่อาจขาดหายไปตลาดภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยเศรษฐกิจ การรับงานภาครัฐยังช่วยลดปัญหาการเกิดหนี้เสียด้วย
“ปีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่ท้าทายเรามาก เราต้องใช้สติและความระมัดระวังอย่างมากในการทำงาน นอกจากจะจับตลาดให้ถูกแล้ว เรายังต้องบริหารต้นทุนทางการเงินให้ดี ลดความเสี่ยงจากการเกิดหนี้เสีย การทำงานต้องมีประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด นั่นคือแนวทางในการทำงานของเราเพื่อให้บรรลุเป้าหมายปี 52 นี้” ประธานกรรมการบริหาร AIT กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังมีการเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง และสามารถชนะการประมูลโครงการใหญ่ในภาครัฐหลายโครงการ ส่งผลให้ปัจจุบันมูลค่างานในมือ (Backlog) สามารถเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 1,900 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ระดับ 3,300 ล้านบาท
