พฤกษา โชว์ผลประกอบการปี 2551 สวยงาม ด้วยการทำกำไรสุทธิ 2,373 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82%

บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานในรอบปี 2551 เติบโตเพิ่มขึ้นทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ โดยเฉพาะกำไรสุทธิที่สะท้อนผลการดำเนินงานที่มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กำไรพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 2,373 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 82% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 1,302 ล้านบาท

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในรอบปี 2551 ว่า “ในปี 2551 ที่ผ่านมา แม้จะเกิดผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม โดยทำรายได้รวมตลอดทั้งปีสูงถึง 13,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับรายได้ปี 2550 ที่มีรายได้ 9,093 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงมาจากทาวน์เฮาส์ 58% ที่เหลือคือบ้านเดี่ยว 38% และมีรายได้จากคอนโดมิเนียมเข้ามาอีก 4%”

“จากการดำเนินธุรกิจด้วยการวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบและรัดกุม มีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์แวดล้อมอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการในรอบปี 2551 โดดเด่นเป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯ ทำรายได้เพิ่มสูงขึ้นและมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2,373 ล้านบาท บริษัทฯ จึงกำหนดที่จะจ่ายเงินปันผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.33 บาท ซึ่งสูงกว่าปี 2550 ที่จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30% ของกำไรสุทธินับตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน” นายทองมา กล่าวเสริม

ด้าน นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ของปี 2551 ว่า “จากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลกขยายตัวลดลง ส่งผลให้ยอดขายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ลดลงด้วย แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการวางแผนปรับกลยุทธ์ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบดังกล่าวเพียงเล็กน้อย โดยบริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 16,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มียอดขายที่ 13,646 ล้านบาท และสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าได้มากถึง 8,913 ยูนิต เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับยอดโอนของปี 2550 ที่มีจำนวน 7,074 ยูนิต นอกจากนี้ ในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ จำนวน 38 โครงการ แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 21 โครงการ บ้านเดี่ยว 11 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ซึ่งทุกโครงการได้รับการตอบรับจากลูกค้าทุกกลุ่มเป็นอย่างดี”

“สำหรับในปีที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะลดลง แต่บริษัทฯ ยังสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากขึ้น โดยบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดของทาวน์เฮาส์สูงถึง 51% เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งการตลาดทาวน์เฮาส์ในรอบปี 2550 ที่ผ่านมา และสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดของบ้านเดี่ยวได้ถึง 11.5% เพิ่มขึ้น 3% จากส่วนแบ่งการของตลาดบ้านเดี่ยวปี 2550 เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับ Port สินค้าอย่างต่อเนื่อง และมีการจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า จึงทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ” นายประเสริฐ กล่าว