จีเอ็ม ผนึกกำลัง เซกเวย์ ปฏิวัติการเดินทางในเมือง – เปิดมิติความคล่องแคล่วใหม่ให้การเดินทาง

จีเอ็ม จับมือ เซกเวย์ เผยโฉมยานยนต์ฉีกกรอบการเดินทางในเมือง ภายใต้โครงการ “พูม่า” พัฒนายานยนต์ 2 ล้อพลังงานไฟฟ้าที่จะช่วยให้การเดินทางคล่องตัว ปลอดภัย ปราศจากมลพิษ ด้วยต้นทุนที่ถูกลง มาพร้อมกับดีไซน์สร้างสรรค์ เอาใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท เซกเวย์ จำกัด ประกาศความร่วมมือ พัฒนาโครงการ “พูม่า” (P.U.M.A. – Personal Urban Mobility and Accessibility) ฉีกกรอบการเดินทางในเมืองที่มหานครนิวยอร์ก “โครงการพูม่า แสดงให้เห็นถึงการสร้างสรรค์มิติใหม่ของการเดินทางในเมืองใหญ่ ซึ่งผู้คนมากกว่าครึ่งของประชากรทั่วโลกอาศัยอยู่” แลร์รี่ เบิร์นส์ รองประธานฝ่ายวิจัย พัฒนา และวางแผนกลยุทธ์

จีเอ็ม คอร์ป กล่าว “ลองจินตนาการถึงยานยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวสูง มีระบบที่จะจับการเคลื่อนไหวของวัตถุอื่น และหลีกเลี่ยงที่จะเคลื่อนเข้าไปหาได้ พร้อมกับสามารถเชื่อมต่อยานยนต์ชนิดนี้เข้ากับระบบที่มีความคล้ายคลึงกับอินเทอร์เน็ต เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางทั่วทั้งเมือง หาที่จอด และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและสังคมได้ด้วย”

ที่ผ่านมา มีแนวโน้มว่าการอาศัยในเมืองใหญ่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ตามมาคือความแออัดบนท้องถนน และการแย่งหาที่จอดรถ เมืองใหญ่ทั่วโลกกำลังมองหาหนทางลดมลพิษ และบรรเทาความหนาแน่นในเมือง ซึ่งโครงการพูม่า สามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงเป้า

โครงการดังกล่าวผนวกเอาเทคโนโลยีอันล้ำหน้าของทั้งจีเอ็ม และเซกเวย์ เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งพลังงานไฟฟ้า การทรงตัวบน 2 ล้อ อัตราเร่ง การบังคับเลี้ยว และการเบรกควบคุมด้วยอิเลกทรอนิคส์ การสื่อสารระหว่างยานยนต์ ความสามารถในการขับขี่และจอดด้วยตนเอง ทั้งหมดทั้งปวงถูกบรรจุอยู่ในโครงการพูม่า เพื่อสร้างสรรค์การขับเคลื่อนที่เป็นอิสระ พร้อมกับความประหยัด ปราศจากมลพิษ เพียบพร้อมความปลอดภัย รวมถึงการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดที่จะช่วยลดภาวะแออัดในเมืองได้มาก

“เรามีความตื่นเต้นมากที่ได้ทำงานร่วมกับจีเอ็ม สรรค์สร้างยานยนต์ที่จะสร้างความแตกต่างให้การเดินทางในเมือง” จิม นอร์รอด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซกเวย์ กล่าว “เมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ของเซกเวย์ จะมีการเชื่อมต่อกันทุกด้าน ยานยนต์ต้นแบบภายใต้โครงการพูม่า เป็นการผสมผสานสุดยอดเทคโนโลยีของเซกเวย์ และจีเอ็ม ที่จะเติมเต็มความสมบูรณ์แบบระหว่างผู้ขับขี่ และกับสิ่งแวดล้อม”

นักออกแบบยานยนต์ในโครงการพูม่า ได้รับโอกาสให้สร้างสีสัน เติมแฟชั่นใส่ลงไปในรถอย่างเต็มที่ โดยมุ่งเน้นที่การตอบสนองต่อความต้องการของผู้คนผ่านทางยานยนต์ของพวกเขา พร้อมกับวางแนวทางตอบสนองลูกค้าในเมืองต่อไปในอนาคต

ยานยนต์ในโครงการพูม่า ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มีการควบคุมพลังงานที่ชาญฉลาด ขับเคลื่อนอย่างมั่นคงด้วยระบบไฟฟ้าบนสองล้อ พร้อมมีช่องเชื่อมต่อเอื้อให้ผู้ขับสามารถควบคุมได้จากภายนอกรถ ผลที่ได้คือ ยานยนต์ที่สุดล้ำหน้า สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุดในปัจจุบัน รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 2 คน ความเร็วสูงสุด 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนได้ระยะทาง 56 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง

นับตั้งแต่การเปิดตัว เซกเวย์ เพอร์ซอนอล ทรานสปอร์เตอร์ (พีที) เซกเวย์ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในยานยนต์ขนาดเล็ก ตอบสนองการใช้งานในพื้นที่แออัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบสนองลูกค้าทุกด้าน ปัจจุบัน เซกเวย์ พร้อมแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน ออกโลดแล่นในตลาดมากกว่า 60,000 เครื่องขณะที่จีเอ็ม เป็นผู้นำในการพัฒนา “ยานยนต์แห่งการเชื่อมต่อ” เทคโนโลยีล้ำยุคอย่างออนสตาร์ ที่เปิดตัวมา

ตั้งแต่ปี 2539 ให้บริการลูกค้าทั้งด้านความปลอดภัย และการป้องกันภัย ในตลาดอเมริกาเหนือมากกว่า 6 ล้านคน จีเอ็ม ยังเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีระบบสื่อสาร “ยานยนต์สู่ยานยนต์” (V2V) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ยานยนต์ขับเคลื่อนได้เองโดยปราศจากคนขับ และไม่เกิดอุบัติเหตุ

“ลองคิดถึงการขับเคลื่อนยานยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ให้ความสนุกในการขับขี่ เปี่ยมด้วยความปลอดภัยทำให้คุณอยากไปทุกที่ที่ต้องการ และยังสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อน และครอบครัวคุณได้ด้วย สำหรับพลังงานทดแทนที่ใช้ก็ปราศจากมลพิษ ทึ่สำคัญคือ ไม่ต้องเครียดจากรถติดด้วย” เบิร์นส์กล่าว “จินตนาการ ถึงค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 ของรถที่คุณใช้ในปัจจุบัน นี่คือโครงการพูม่าของเรา”