TAQA เปิดผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้รถทั่วประเทศ

TAQA เปิดผลสำรวจผู้ใช้รถกว่า 3 พันราย ทั่วประเทศ เตรียมประกาศผลเดือนกันยาฯ นี้ เผยค่ายรถยนต์มีการพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ศูนย์บริการส่วนใหญ่มีมาตรฐานยังไม่คงที่ และอะไหล่ราคาแพง วอนบริษัทรถยนต์เข้ามาดูแล เข้มงวด เรื่องการบริการหลังการขายให้มากขึ้น

รางวัล THAILAND AUTOMOTIVE QUALITY AWARD หรือ TAQA ได้เริ่มดำเนินการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจของผู้ใช้รถจำนวนกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ ที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม 2552 เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3เดือน นั้น ข้อมูลส่วนหนึ่งสามารถนำมาประมวลเพื่อถ่ายทอดเป็นภาพสะท้อนให้บริษัทฯ รถยนต์ได้ใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพและบริการหลังการขาย ต่อไปนี้จะเป็นความคิดเห็นบางส่วนจากผู้ให้ข้อมูลสำรวจความพึงพอใจเพื่อมอบรางวัล TAQA

นายปรารภ เข็มปัญญา รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนึ่งในผู้ให้ข้อมูลกล่าวถึงรางวัล TAQA ว่า “จริงๆ แล้วรางวัล TAQA เป็นรางวัลที่ดีเพราะมาจากการสำรวจผู้ใช้รถอย่างแท้จริงและมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นรางวัลที่รับรองโดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ แต่ที่ผ่านมารางวัลดังกล่าวนี้ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดีทำให้การรับรู้อยู่ในวง จำกัด”

“ยิ่งไปกว่านั้นรางวัล TAQA เป็นรางวัลที่สะท้อนจากความรู้สึกผู้ใช้รถที่แท้จริงโดยไม่จำเป็นต้องปกปิดข้อมูล ทำให้บริษัทรถยนต์ได้มองเห็นตนเองว่าควรนำข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็น คุณภาพรถ ศูนย์บริการ และบริการหลังการขาย อาทิ มาตรฐานศูนย์บริการจากประสบการณ์ตรงที่ใช้รถมาหลายยี่ห้อ พบว่าเมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการฯ ศูนย์แต่ละแห่งมาตรฐานการบริการจะต่างกัน ตรงจุดนี้บริษัทรถยนต์ควรหมั่นตรวจสอบมาตรฐานศูนย์บริการของตนที่มีอยู่ทุกแห่งอย่างเข้มงวดด้วย”

นายปรารภ กล่าวต่อว่า “การเลือกซื้อรถผู้บริโภคควรคำนึงถึงความต้องการหลักๆก่อน อาทิ เรื่องของรูปลักษณ์ ความสวยงาม อัตราการประหยัดน้ำมัน ว่าต้องการเน้นคุณสมบัติใด ก็เลือกแบบนั้น
เนื่องจากรถแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน บางค่ายมีเทคนิคการขายที่ดี มีลูกเล่นพอสมควร แต่เวลาเปลี่ยนอะไหล่ต้องเปลี่ยนยกชุดทำให้เรารู้สึกว่าอะไหล่แพงทั้งๆ ที่ความจริงราคาไม่ได้แพงมากนัก”

ด้านนายเสถียร ศรีมณีเลิศ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่า “เชื่อว่าผลสำรวจที่ได้จากรางวัล TAQA จะช่วยให้ผู้ใช้รถได้ใช้รถยนต์ที่ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทรถยนต์สามารถที่จะนำผลสำรวจวิเคราะห์มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้”

“โดยส่วนตัวมองว่าปัจจุบันค่ายรถต่างๆ มีการพัฒนารถขึ้นมา อาทิ มีการติดตั้งระบบนำทางในรถยนต์ (Car Navigator) ช่วยให้ผู้ใช้รถรับความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนเรื่องการบริการค่อนข้างจะ
แตกต่างกันรถบางยี่ห้อผลิตภัณฑ์ดีแต่บริการไม่ดี ส่วนที่บริการดีแต่ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำก็เคยมีประสบ การณ์ เช่นกัน เป็นต้น

ขณะที่นายแพทย์นพพร วิทยานิติพงษ์ หนึ่งในผู้ให้ข้อมูล กล่าวว่า “โดยส่วนตัวมองว่ารางวัล TAQA มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง เนื่องจากผ่านกระบวนการกลั่นกรองและสำรวจที่ค่อนข้างละเอียดทั้งเรื่องของสเปคเครื่องยนต์ คุณภาพผลิตภัณฑ์ และการบริการหลังการขาย หวังว่ารางวัล TAQA จะเป็นกลไกกระตุ้นบริษัทรถยนต์ให้แข่งขันกันพัฒนาในทุกๆด้าน เพื่อให้ผู้ใช้รถได้รับความสะดวกและความพึงพอใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการบริการหลังการขาย”