คนไทยส่วนใหญ่เรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนกันมาโดยเฉลี่ย 12 ปี บางคนยังมาเรียนต่ออีกมหาวิทยาลัย หรือไม่ก็ไปเรียนเพิ่มกับสถาบันสอนภาษา … แต่ครั้นถึงเวลาต้องพูดทีไร กลับเกิดอาการ “ใบ้” นะจังงัง ไปเสียทุกที จนเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “เรียนภาษาอังกฤษมาก็เยอะ ทำไมยังพูดกันไม่ได้สักที”
ล่าสุด อาจารย์เจ้าของภาษาอังกฤษตัวจริงเสียงจริงจาก วอลล์สตรีท ได้เชิญนักภาษาศาสตร์ มาช่วยกันไขปริศนาแห่งการฝึกพูดภาษาที่สอง อาทิ ภาษาอังกฤษ ว่า “ทำอย่างไรถึงจะพูดได้ใกล้เคียงประหนึ่งเจ้าของภาษา?” อีกทั้งได้มีการเปิดตัวนักแสดงชื่อดัง 2 ท่านคือ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) และ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ (จิ๊ก) มาเป็นกรณีศึกษา เนื่องจากทั้งคู่ตัดสินใจกลับเข้าสู่ห้องเรียนภาษาอังกฤษอีกครั้ง เพื่อทำความฝันส่วนตัวของแต่ละคนให้เป็นจริง ในงานเปิดตัวแคมเปญ “Guaranteed Results” ของสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท
มร.เบนจามิน ลี ทอมสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจากสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท กล่าวว่า “ ก่อนอื่นผมขอให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อภาษาอังกฤษเสียใหม่ การเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ไม่สามารถอาศัยแค่การท่องจำคำศัพท์ หรือไวยากรณ์ แต่คุณเรียนเพื่อให้สามารถใช้ภาษาได้จริง ๆ เหมือนการสอนเด็กแรกเกิดให้หัดพูด ขั้นแรก เด็กจะต้องฟังก่อน จากนั้นเริ่มพูดซ้ำคำต่าง ๆ ที่พวกเขาได้ยิน และค่อย ๆ พูดประโยคที่ยาวขึ้น แล้วถึงจะไปเรียนรู้กฎต่าง ๆ เป็นเรื่องสุดท้าย เด็ก ๆ จะเรียนรู้ผ่านการสังเกตและฝึกหัด ไม่ใช่การจำคำศัพท์และกฎต่าง ๆ ถ้าคุณอยากเก่งภาคุณต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอราวกับว่าคุณกำลังฝึกหัดเล่นกีฬา หรือทักษะบางอย่าง ไม่ใช่มองภาษาอังกฤษว่าเป็นวิชาเหมือน ประวัติศาสตร์ หรือภูมิศาสตร์”
“การวิจัยด้านภาษาศาสตร์ทั่วโลก ชี้ว่า ระบบการเรียนรู้ที่ได้ผล ควรเลียนแบบการฝึกพูดภาษาพื้นเพของมนุษย์ ไม่ใช่แค่การจดจำคำศัพท์ ประโยค หรือกฎต่าง ๆ แต่ควรฝึกให้สมองของคุณสามารถใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ทุกวันนี้ ได้มีการคิดค้นรูปแบบการเรียนรู้ตามธรรมชาติของคน เรียกว่า “natural acquisition process” หรือ “ขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ” กิจกรรมต่างๆ เช่น การฟัง การทำซ้ำ ช่วยให้คุณพูดคุยประโยคที่ยาวขึ้น ทำให้มีความมั่นใจที่จะพูดมากขึ้น และฝึกสมองของคุณให้ใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่าเป็นทักษะประเภทหนึ่ง” มร. เควิน แอล บอยด์ กล่าวเสริม
โดยได้มีการยกกรณีศึกษา ของ “จิ๊ก-เนาวรัตน์” และ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” ซึ่งทั้งคู่เป็นนักเรียนใหม่ ของ วอลล์สตรีท ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ โดยแม้จะเคยเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ชั้นประถมต้น จนเมื่อเข้าวงการแสดงก็มีการจ้างครูฝรั่งมาสอนตัวต่อตัวถึงที่บ้าน แต่ก็ยังไม่สามารถพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างที่ต้องการ
นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ได้เปิดเผยว่า “ผมฝันอยากทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับท่องเที่ยวทั่วโลก และอยากเปิดการแสดงเป็นภาษาอังกฤษได้ สมัยเด็กครูสอนภาษาอังกฤษดุมาก ผมเลยไม่ชอบวิชานี้ แต่เมื่อมาอยู่ในวงการบันเทิง ต้องไปถ่ายทำรายการในต่างประเทศ และมาได้เป็นทูตของ Habitat ในประเทศไทย ต้องไปประชุมร่วมกับทูตของชาติอื่น ๆ ที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ผมอยากเพิ่มความมั่นใจในการอยู่ในวงสังคม เมื่อเราเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอฝรั่ง ถ้างั้นเราหันกลับมาเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง มาเรียนรู้ในแบบที่ช่วยให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้แบบเป็นธรรมชาติจริง ๆ เพื่อให้ใช้ภาษาได้จริง ๆ แทนที่จะคอยเอาแต่หนีลูกเดียว”
ด้านนางเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ นักแสดงรุ่นใหญ่ ยังได้เล่าแรงบันดาลใจที่ดึงเธอกลับสู่ห้องเรียนอีกครั้ง ว่า “พี่อยากพูดภาษาอังกฤษกับลูก ลูกคนหนึ่งของพี่อยู่อเมริกาพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก จริง ๆ แล้วก็คือเขาชอบที่จะพูดกับพี่เป็นภาษาอังกฤษมากว่า และพี่ก็ฝันว่าวันหนึ่งจะต้องคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษให้ได้ อีกอย่างคือพี่เดินทางต่างประเทศบ่อย ไปถ่ายรายการ ไปในงานแสดง โชว์ตัว หรือท่องเที่ยว อยากมีความมั่นใจมากขึ้นในการคุยกับชาวต่างชาติ ไปเที่ยวที่ไหนก็ถามทางกลับโรงแรมได้ อ่านแผนที่ได้ ซื้อของต่อราคาได้ สามารถมีเพื่อนต่างชาติได้ คนในวัยไล่เลี่ยกับพี่บางคนอาย ไม่กล้ามาเรียน คิดว่าตัวเองอายุมากแล้ว แต่สำหรับพี่ พี่มองว่าอาหารยังมีวันหมดอายุ ..แต่การเรียนไม่มีคำว่า หมดอายุคะ คนทุกวัยเริ่มต้นเรียนใหม่ได้เท่าเทียมกัน”
“การ “รับประกันผลการเรียนภาษาอังกฤษ” ให้กับผู้เรียนทั่วโลกเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ วอลล์สตรีท เนื่องจากเรามีระบบการเรียนภาษาอังกฤษที่สามารถติดตามความก้าวหน้าด้านภาษาอังกฤษ จุดอ่อน และ จุดแข็ง ของผู้เรียนได้แบบเป็นอัตโนมัติ ตลอดเวลา ผู้เรียนจึงสามารถพัฒนาศักยภาพทางการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ วอลล์สตรีท จึงนำ “จุดเด่น”นี้มาสร้างแคมเปญใหม่ “Guaranteed Results” ซึ่งเป็นการรับประกันว่า“ผู้เรียนจะบรรลุเป้าหมายทางการเรียนอย่างแน่นอน” นายอภิชัย ไชยวินิจ ผู้บริหารของสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท หนุ่มไฟแรงผู้ดูแลงานของ วอลล์สตรีท ใน 3 ประเทศแถบเอเชีย กล่าว
“ถึงเวลาที่คนไทยจะเอาชนะความกลัว และหันมาฝึกฝนภาษาอังกฤษในแนวทางที่ส่งเสริมให้เกิดความมั่นใจและกล้าพูด แทนการท่องจำกันเสียที”