ศุภาลัย โชว์กำไรครึ่งปี 1,228 ล้านบาท ผลตอบแทนสูงสุดและเติบโตเป็นประวัติการณ์

ศุภาลัย เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก ปี 2552 ทำกำไรสุทธิครึ่งปีสูงกว่าปีที่แล้วทั้งปี ทำยอดรับรู้รายได้ 2,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2551 พร้อมลุยเปิดตัวโครงการใหม่อีก 9 โครงการในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 กลุ่มบริษัทศุภาลัย สามารถทำยอดรับรู้รายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จำนวน 2,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ทำได้ 2,094 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 ที่ทำได้ 2,213 ล้านบาท

ศุภาลัย ได้รับการตอบรับที่ดีมากสำหรับโครงการบ้านจัดสรรทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่เปิดขายใหม่ เพราะมีนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และเป็นบ้านประหยัดพลังงาน ประกอบกับมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ ศุภาลัย ปาร์ค ศรีนครินทร์ และศุภาลัย ริเวอร์ เพลส รวมทั้งมีการควบคุมต้นทุนค่าที่ดิน การก่อสร้างและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บวกกับการมีธรรมาภิบาลที่ดี ทำให้สามารถทำอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 26% ของรายได้ ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทจดทะเบียนที่สามารถบริหารผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้สูงที่สุดในประเภทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายการขายและบริหารลดลงเหลือเพียง 6% ของรายได้

จากผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีแรก ทำให้ศุภาลัยสามารถทำกำไรได้สูงถึง 1,228 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.77 บาท ซึ่งสูงกว่าผลกำไรสุทธิทั้งปี 2551 ซึ่งมีกำไร 1,069 ล้านบาท ถึง 15% อีกทั้งบริษัทฯ มียอดทำสัญญาที่รอโอนและรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 13,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2552 นี้ไปจนถึงปลายปี 2554 ทำให้นักลงทุนสามารถเห็นภาพการเจริญเติบโตทางรายได้ของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากนโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยครบทุกประเภททั้งแนวราบและแนวสูงต่อเนื่องมาหลายปี ซึ่งได้ผลดีทั้งเพิ่มศักยภาพการเติบโตและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้บริษัทอื่น ๆ หันมาทำตามในภายหลัง

บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 9 โครงการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท และยังได้ทำการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องไว้แล้วสำหรับการเปิดโครงการเพิ่มเติมในปี 2553 เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการภายในเดือนสิงหาคมนี้ ได้แก่ ศุภาลัย วิลล์ ราชพฤกษ์-เพชรเกษม 48, ศุภาลัย พาร์ควิลล์ รามอินทรา 23 และศุภาลัย คาซา ริวา วิสต้า 2 เพียงครึ่งเดือนแรกที่เปิดจอง ทั้ง 3 โครงการขายได้รวมกันแล้วประมาณ 400 ล้านบาท เพราะลูกค้าพึงพอใจในรูปแบบบ้านและความคุ้มค่าของราคา ตลอดจนเชื่อใจในความเป็น “บ้านที่ดี” ของ “ศุภาลัย”

จากผลประกอบการที่ดีดังกล่าวข้างต้น อีกทั้งบริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทมีมติที่จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นจำนวน 0.25 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2552 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์โดยปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 สิงหาคม 2552 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 4 กันยายน 2552