งานมหกรรมอาชีพ ครั้งที่ 2 กำลังจะจัดขึ้นอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน 2552 นี้ มีความร่วมมือระหว่างองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อเปิดโลกอาชีพไร้ขีดจำกัด ที่ร่วมกันสร้างสรรค์โอกาสใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้เพิ่ม กว่า 70 อาชีพ
หลังจากความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมอาชีพครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าชมงานที่สนใจในเรื่องการหาซื้ออุปกรณ์เพื่อประกอบอาชีพ และเข้าร่วมการอบรมอาชีพ กว่า 4 หมื่นคน ทำให้การจัดงานของปีนี้ จัดขึ้นมาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 โดยมีกิจการที่น่าสนใจแตกต่างจากเดิมเพิ่มขึ้น ด้วยความร่วมมือผนึกกำลัง ระหว่างสถาบันสร้างอาชีพต่างๆ ได้แก่ โรงเรียนการอาหารนานาชาติ สวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนดุสิต ,วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี,สถาบันพัฒนาความฉลาด และเสริมสร้างทักษะสมอง ควอลิตี้คิดส์,บริษัทแฟรนไชส์ โฟกัส,และบริษัท ซายน์ เอ รามา ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นสถาบันเกี่ยวกับการทำงานป้าย และงานพิมพ์ครบวงจร และศูนย์ฝึกอาชีพ ระยะสั้น
โดยแต่ละองค์กร ได้นำกิจกรรม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน เช่น โรงเรียนการอาหารนานาชาติ สวนดุสิต มีการอบรมการทำอาหารในเมนูยอดฮิตที่นำไปประกอบอาชีพได้ เช่น การทำซูชิ, ทำขนมไทยมงคล,ใส้กรอก โฮมเมด,หมูสเต๊ะ, ขนมจีบ, พิซซ่าณี่ปุ่น, เกี้ยวซ่า, สเต๊ก,ข้าวเกรียบปากหม้อ, เป็นต้น
วิทยาลัยการแพทย์ แผนไทย ก็มีการ เปิดอบรมอาชีพด้าน สุขภาพ ความงาม และสปา เช่น การทำเจลล้างมือ,ครีมล้างหน้ามะขาม, ยาหม่องตะไคร้หอม,น้ำมันไพร เป็นต้น
ส่วน สถาบันพัฒนาความฉลาด เสริมสร้างทักษะสมอง ควอลิตี้คิดส์ ก็เปิดโซน แคมป์อาชีพ หนูน้อย โดยจำลองอาชีพ นักสืบ,สถาปนิก,วิศวกร,นักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ เพื่อให้เด็กมาเล่นเกมส์ที่ส่งเสริมศักยภาพที่โดดเด่นของเด็กแต่ละคน และเป็นกิจกรรมใหม่ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก
บริษัท แฟรนไชส์ โฟกัส ผู้จัดงาน ได้รวบรวม องค์กรต่างๆ มาสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกัน
บริษัท ซายน์ เอ รามา ซึ่งเป็นกิจการที่ให้บริการงานป้ายอย่างครบวงจร ที่มีเครือข่ายระหว่างประเทศ ก็มีการเปิดสอนอาชีพ ให้กับผู้ที่สนใจประกอบอาชีพงานป้าย และมีการออกบูทแนะนำสินค้าที่ทันสมัย สำหรับงานอาชีพนี้
ศูนย์ฝึกวิชาชีพระยะสั้น มีการอบรมอาชีพ ประเภทงานช่าง ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น การชุบทอง การทำตรายาง การทำกุญแจ และอาชีพอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้แล้วยังมีบริษัทเอกชนอื่นๆ ที่เข้าร่วมให้ความรู้ ฝึกอบรมด้านอาชีพอย่างหลากหลายทั้งสิ้นกว่า 70 อาชีพ โดยแบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้คือ
กลุ่มอาชีพอาหาร เช่น การทำพาสต้า ราเมง และอาหารญี่ปุ่น พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ และอื่นๆอีกมากมาย
กลุ่มเครื่องดื่ม เช่น กาทำเมนูกาแฟ ค็อกเทล สมูทตี้ เครื่องดื่มชา เป็นต้น
กลุ่มเบเกอรี่ เช่น การทำปาท่องโก๋ โดนัท ซาลาเปา ขนมถ้วยฟู เป็นต้น
กลุ่มอาชีพด้านความงาม เช่นการเพ้นท์ร่างกาย การแต่งหน้า และเซ็ทผม
กลุ่มอาชีพงานช่าง เช่นการชุปทอง ทำกุญแจ ทำของพรีเมี่ยม
กลุ่มงานป้ายและงานพิมพ์ เช่น ป้ายแบรนด์เนอร์ ป้ายตกแต่งหน้าร้าน ป้านบอกราคาสินค้า ป้ายนอกอาคาร งานพิมพ์เสื้อ งานพิมพ์ลงบนวัสดุ เป็นต้น
กลุ่มอาชีพงานเกษตร คือ ปลูกผักไร้ดิน การผสมดินเกษตรจำหน่าย การทำปุ๋ยชีวภาพ ฯลฯ
กลุ่มเคมป์เด็ก การทำอาหาร งานประดิษฐ์ชิ้นงาน การทำงานศิลปะ และการเคมป์วัดแววอาชีพเด็ก เป็นต้น
กลุ่มอาชีพบันเทิง เช่น มายากล เป็นต้น
นางสาว สมจิตร ลิขิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัทแฟรนไชส์ โฟกัส กล่าวว่า “ไฮไลท์ ของงานครั้งนี้ อยู่ที่การเพิ่มอาชีพที่อบรม จากเดิม 50 อาชีพ เพิ่มเป็น 70 อาชีพ โดยเป็นอาชีพที่เหมาะกับการนำไปใช้ทำมาหากินทั้งสิ้น เป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้มากยิ่งขึ้น และบางอาชีพก็เป็นอาชีพใหม่ๆ ที่คาดว่าจะได้รับความนิยม เช่น การทำชาสมูตตี้โซดา, อาชีพมายากล การแต่งหน้าสไตล์เกาหลี เป็นต้น”
“นอกจากนี้แล้ว การจัดงานนี้ มีความแตกต่างจากการอบรมอาชีพ ทั่วไป คือ มีการรวบรวมบูทจำหน่ายสินค้า เพื่อการประกอบอาชีพ เพราะผู้ที่เรียนอาชีพทั่วไปมักจะมีปัญหาว่า แล้วจะหาซื้อวัตถุดิบ-อุปกรณ์ได้จากที่ไหน ในงานมหกรรมอาชีพ จึงตอบสนองความต้องการอย่างครบวงจร ด้วยการมีบูทสินค้าเพื่อการประกอบอาชีพจำหน่ายในราคาพิเศษ เช่น อุปกรณ์สำหรับเปิดร้านกาแฟ ,อุปกรณ์สำหรับงานป้าย , งานพิมพ์ , และการทำสินค้าของพรีเมี่ยม , แป้งสำหรับทำแกอรี่ , และอุปกรณ์ วัตถุดิบสำหรับทำร้านก๋วยเตี๋ยวอย่างครบครัน ตู้จำหน่ายน้ำ , และสินค้าหยอดเหรียญ เป็นต้น”
“และที่น่าสนใจ ที่สุดสำหรับครั้งนี้ก็ คือการจัดโซนอาชีพสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นการเล่นจำลองอาชีพ ที่ให้ประโยชน์และความสนุกสนานแก่เด็กๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมใหม่ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน”
“สำหรับผู้ที่เข้าชมงานครั้งนี้ จะมีกิจกรรมให้โชคก็คือ การร่วมโหวต อาชีพที่คุณอยากทำมากที่สุด ซึ่งจะเป็นการเก็บข้อมูลความสนใจต่ออาชีพของประชาชน เพื่อนำมาปรับปรุงในการจัดงานครั้งต่อไป พร้อมกันนี้ ก็จะมีการจับรางวัล มอบ รถเข็นจำหน่ายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นนำชัย, ซุ้มจำหน่ายกาแฟจากโคโคโร่ , เครื่องเติมเงินออนไลน์ 3 Top , เครื่องพิมพ์ภาพบนผ้า , และเครื่องเข้าเล่ม สันกาว 3 รางวัล รวมทั้งสิ้น 7 รางวัล”
นอกจาก มีการสัมมนาเกี่ยวกับ การประกอบอาชีพอาหาร และการทำงานป้าย ฟรี ภายในงานอีกด้วย
ในการเข้าชมงานแสดงบูท และการเข้าฟังสัมมนาอาชีพ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนการอบรมอาชีพ จะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยสำหรับค่าวัตถุดิบต่างๆ เพียง 399 บาท ต่อ การเรียน 1 วัน พร้อมรับซีดีข้อมูลการประกอบอาชีพ 70 เรื่อง ซึ่งผู้สนใจเรียนสามารถลงทะเบียนเรียนล่วงหน้า ผ่านเวป WWW.franchisefocus.co.th หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 02 321-7701-4
การจัดงานครั้งนี้ มุ่งหวังว่า ประชาชนจะได้อาชีพใหม่ๆ ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นราย และสามารถประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้จริง รวมถึงพัฒนาเป็นธุรกิจที่มั่นคงของประเทศได้ในอนาคต และจะสามารถสร้างความร่วมมือจากองค์กร สถาบันที่เกี่ยวข้องอาชีพทั้งภาครัฐและเอกชนได้มากยิ่งขึ้นในครั้งต่อไป เพื่อที่จะเพิ่มช่องทางสร้างอาชีพสร้างรายได้สูงสุดอย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ