อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ปลื้ม เบี้ยประกันรับปีแรก 8 เดือน เพิ่ม 36% มั่นใจโตได้อีก

กรุงเทพฯ – 29 กันยายน 2552 – กลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางของ บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต เริ่มจะเห็นผลเมื่อบริษัทฯ ประกาศผลประกอบการ 8 เดือนแรก ประจำปี พ.ศ. 2552 ว่าเบี้ยประกันรับปีแรก (FYP) เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 36% หรือคิดเป็น 2,578 ล้านบาท เบี้ยประกันต่ออายุเพิ่มขึ้น 8% ส่งผลให้เบี้ยรับรวมเติบโตแตะ 9,599 ล้านบาท ลั่นเดินหน้าต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการเน้น 6 เสาหลักภายใต้กลยุทธ์ “อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. จะทาสีบ้านคนไทยทุกหลังให้เป็นสีน้ำเงิน” พร้อมชูสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า

มร.สตีเฟ่น แอปเปิ้ลยาร์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ผลประกอบการ 8 เดือนแรกของปีนี้ ถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง เบี้ยประกันรับปีแรกจากทุกช่องทางเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 36% คิดเป็น 2,578 ล้านบาท โดยมาจาก 3 ช่องทางหลัก คือ ช่องทางไดเร็กมาร์เก็ตติ้งหรือการตลาดขายตรง ซึ่งบริษัทฯ รั้งอันดับหนึ่งในด้านยอดขายผ่านช่องทางนี้ สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ 510 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26% ส่วนช่องทางตัวแทนที่บริษัทฯ ถูกจัดอยู่ในอันดับสามด้านยอดขายจากธุรกิจใหม่ ทำได้ 1,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% ขณะที่แบงก์แอสชัวรันส์ซึ่งติดอันดับเจ็ดในด้านยอดขายกวาดรายได้ทั้งสิ้น 475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้เชื่อว่าผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นในตัวบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้ใช้กลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric Strategy อย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าและประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 87,666 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ประมาณ 1.3 ล้านราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องที่มีอยู่สูงมาก โดยมีอัตราการจ่ายสินไหมให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ประมาณ 50,000 รายต่อเดือน

“สิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีก็คือ การมีกลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจประกันระดับโลกที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินจากสถาบันชั้นนำให้อยู่ในระดับคงที่ แม้ในยามที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โดย ณ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อลิอันซ์ยังรักษาเรทติ้ง AA จาก S&P และ A+ จาก AM Best รวมถึง Aa3 จาก Moody’s ได้” มร. สตีเฟ่น กล่าว

มร. สตีเฟ่น ยังกล่าวอีกว่า ด้วยความที่เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินมากที่สุดบริษัทหนึ่ง แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะเป็นอย่างไรก็ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ มากนัก ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งเพื่อทาสีบ้านคนไทยทุกหลังให้เป็นสีน้ำเงิน ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ว่า “อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. จะเป็นปัจจัยหลักแห่งความมั่นคงคุ้มครองทุกครอบครัวไทย” โดยใช้กลยุทธ์ที่มี 6 เสาหลัก ซึ่ง 3 เสาแรก มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนา 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ช่องทางตัวแทน ช่องทางขายผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) และช่องทางไดเร็กมาร์เก็ตติ้ง ส่วนอีก 3 เสาหลัก ซึ่งทำให้เกิดความสมดุลในองค์กร ประกอบด้วย

1) ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) เพื่อเน้นการให้บริการที่ดีเยี่ยมสำหรับลูกค้าในแง่ของแบบกรมธรรม์ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงในทุกช่วงเวลาสำคัญของชีวิต มีศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาค และมีกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันกับลูกค้า

2) ในด้านประสิทธิภาพการปฏิบัติการ (Operational Efficiency) การบริหารจัดการต้องดีที่สุด มีการจัดการข้อมูล และกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

3) ในด้านการพัฒนาบุคลากร ยกระดับให้เป็นบริษัทที่ทุกคนอยากร่วมงาน (Employer of Choice) เปิดโอกาสให้พนักงานฝึกอบรมและหาประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งรักษาระดับการจ่ายผลประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ

มร. สตีเฟ่น กล่าวว่า “ในครึ่งปีหลังนี้ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.จะมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาในเรื่องของการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีเยี่ยม ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้สนใจทำประกันชีวิตให้ได้ผลดีที่สุด ก็คือ การออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด ซึ่งเราได้มีการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มีแบบประกันขายดีอย่าง “มายแพลน (My Plan)” ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและ “มายไลฟ์ (My Life)” ซึ่งเป็นแบบประกันชีวิตสำเร็จรูปที่ประกอบด้วย My Safety Pack เมนูเพื่อความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และ My Savings Pack เมนูเพื่อการออมทรัพย์”

“เราเชื่อมั่นว่าทีมงานที่มีคุณภาพของบริษัทฯ การมุ่งเน้นการพัฒนาในทุกๆ ช่องทาง และกลยุทธ์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) จะทำให้อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. สามารถทาสีบ้านคนไทยทุกหลังให้เป็นสีน้ำเงินได้ในไม่ช้า และเชื่อมั่นว่าจะสามารถพลักดันให้เราก้าวไปถึงเป้าหมายในปลายปี 2552 นี้แน่นอน” มร. สตีเฟ่น กล่าวสรุป