ไมโครซอฟท์เปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7

กรุงเทพฯ – 22 ตุลาคม 2552 – ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 แล้ววันนี้ทั่วโลก โดยระบบปฏิบัติการล่าสุดจากไมโครซอฟท์นี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานพีซีได้ง่ายกว่าเดิมด้วย ยูสเซอร์อินเทอร์เฟซที่ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานสะดวกกว่าที่เคย นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าผู้ใช้งานจะใช้คอมพิวเตอร์ในรูปแบบใดหรือขนาดใด

นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้วินโดวส์ 7 มาถึงแล้วและจะเป็นช่วงเวลาที่ดียิ่งกว่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนของคอมพิวเตอร์ เราตื่นเต้นมากๆ เช่นเดียวกับบรรดาลูกค้าและคู่ค้าของเรา ซึ่งเหตุผลง่ายๆ ก็คือ การที่วินโดวส์ 7 จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ชีวิตประจำวันง่ายยิ่งขึ้น สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วินโดวส์ 7 นับเป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดทั้งสำหรับการทำงานและใช้งานส่วนตัว ด้วย Windows 7 Professional ที่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ วินโดวส์ 7 พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยมากขึ้น มีการควบคุมในการลดความเสี่ยง จัดการการใช้งานให้ง่ายยิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

การพัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 นับเป็นการร่วมมือกันตั้งแต่แรกเริ่มระหว่างวิศวกรของไมโครซอฟท์และนักออกแบบ รวมทั้ง ลูกค้าและคู่ค้าของไมโครซอฟท์ ในการสร้างสรรค์วินโดวส์ 7 ให้เป็นระบบปฏิบัติการในฝันที่จะช่วยให้การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีง่ายกว่าที่เคย

“ในขณะที่เรากำลังพัฒนาวินโดวส์ 7 เราได้ศึกษาข้อมูลและรับฟังความต้องการจากผู้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา ผลตอบรับและข้อมูลต่างๆ ได้ถูกเก็บรวบรวมจากผู้ใช้งานพีซีนับล้านคนในกว่า 200 ประเทศทุกภูมิภาคทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ใช้งานวินโดวส์กว่า 16,000 คน เพื่อช่วยให้เราสามารถจำแนก ตรวจสอบ และ ใช้งานแผนงานและฟีเจอร์ต่างๆ ที่เรากำลังพัฒนา นอกจากนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักทดสอบ และ บล็อกเกอร์ชาวไทยจำนวน 50 คน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาวินโดวส์ 7 และทำให้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานของนักออกแบบชาวไทยที่ชื่อว่า ‘Pomme Chan’ ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นวอลเปเปอร์อย่างเป็นทางการของวินโดวส์ 7” นางสาวปฐมา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ผู้บริโภคกว่า 8 ล้านคนทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย ยังได้มีส่วนร่วมในการดาวน์โหลด Windows 7 beta ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการใช้งานและแนวโน้มการใช้งานของวินโดวส์ 7

คู่ค้าให้การตอบรับต่อวินโดวส์ 7 อย่างท่วมท้น
นอกเหนือไปจากการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคแล้ว คู่ค้าของไมโครซอฟท์ยังมีบทบาทสำคัญในการวางวิสัยทัศน์และวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าในการพัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ส่งผลให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับเครื่องพีซี เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยมกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในระบบนิเวศน์อุตสาหกรรมของวินโดวส์ บริษัทผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์กว่า 16,000 บริษัท ได้พัฒนาโซลูชั่นสำหรับทำงานบนวินโดวส์ 7 นอกจากนี้ นักพัฒนากว่า 44,000 คน ยังได้เข้าร่วมในโปรแกรม Windows Ecosystem Readiness Program ซึ่งด้วยความร่วมมือกันดังกล่าว คู่ค้าต่างๆ ได้พัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ที่จะเข้าถึงผู้ใช้งานเครื่องพีซีกว่าพันล้านคนทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทย ไมโครซอฟท์ ได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าตั้งแต่แรกเริ่มอย่างใกล้ชิด ทั้งกับคู่ค้าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าระบบนิเวศน์อุตสาหกรรมของประเทศไทยพร้อมที่จะนำเสนอวินโดวส์ 7 รวมทั้งโซลูชั่นทางด้านไอทีอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันในราคาที่เหมาะสม

“เราโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่มีเครือข่ายของคู่ค้าที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ซึ่งเราได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าเราได้ร่วมกันนำเสนอโซลูชั่นทางด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพต่อผู้บริโภคชาวไทย น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นคู่ค้าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จำนวนมากได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจที่รองรับการใช้งาน วินโดวส์ 7 นอกจากนี้ คู่ค้าของเรายังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึง “ความเรียบง่าย คุณค่า และทางเลือก” ได้อย่างชัดเจน ผู้บริโภคจึงมีทางเลือกมากกว่าที่เคยในการค้นพบประสบการณ์การใช้งานพีซีที่ เหนือชั้น”

ในความเป็นจริงแล้ว ความร่วมมือกับคู่ค้านับเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความคาดหวังต่อวินโดวส์ 7 ในการช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมไอทีของแต่ละประเทศทั่วโลก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นปัจจุบัน รัฐบาลของประเทศส่วนใหญ่ต่างก็แสวงหาแนวทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของตน ซึ่งสำหรับวินโดวส์ 7 แล้วจะส่งผลในภาพรวมยิ่งกว่าผลที่เกิดขึ้นกับไมโครซอฟท์เอง โดยจะช่วยขับเคลื่อนรายได้และการเติบโตของบริษัท ไอทีทั่วโลกซึ่งจำหน่ายฮาร์ดแวร์ พัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่น ให้บริการทางด้านไอที หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าด้านไอที การเติบโตดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก้าวข้ามสถานการณ์วิกฤติในปัจจุบันไปได้

นางสาวปฐมา กล่าวต่อว่า “การเปิดตัววินโดวส์ 7 ถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อไมโครซอฟท์ประเทศไทย และเราหวังว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมไอทีไทยโดยรวมเช่นกัน ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้า ซึ่งได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับวินโดวส์ 7 นอกจากนี้ เรายังเชื่อมั่นว่าจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของไทย จากการที่ผู้บริโภค ภาคธุรกิจ รวมทั้งนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ในประเทศได้มีโอกาสสัมผัสการใช้งานวินโดวส์ 7 ด้วยตัวเอง”

การจำหน่ายวินโดวส์ 7 ในประเทศไทย
ถัดจากการแถลงข่าวและการเปิดตัววินโดวส์ 7 ในระดับโลกในวันนี้ จะมีการเปิดตัววินโดวส์ 7 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 2552 ณ แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ทั้งนี้ ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้คนเป็นจำนวนมากในประเทศไทยได้ให้การตอบรับต่อกิจกรรมการประกวดต่างๆ ตลอดจนโปรโมชั่นของวินโดวส์ 7 อย่างท่วมท้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคก็ยังคงมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมในกิจกรรมที่จะยังคงจัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสิทธิ์ในการซื้อวินโดวส์ 7 ในราคาพิเศษที่งานเปิดตัว ซึ่งจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย รวม ไปถึงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ ของวินโดวส์ 7 ในประเทศไทยได้ทาง www.windows7thailand.com และ www.facebook.com/windows7thaifan

ชีวิตง่ายได้อีก
กว่า 18 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบรับจากผู้บริโภคที่ได้ลงทะเบียนไว้และผู้ทดลองใช้งานวินโดวส์ 7 เวอร์ชั่นเบต้ากว่า 8 ล้านคน ได้ช่วยเติมเต็มการศึกษาของไมโครซอฟท์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์ระบบปฏิบัติการที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายกว่าที่เคย ฟีเจอร์ดังต่อไปนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ง่ายขึ้นด้วยวินโดวส์ 7

ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น
ทาสก์บาร์: เครื่องมือเพียงหนึ่งเดียวในการเปิดโปรแกรมต่างๆ และสลับเปลี่ยนหน้าต่างที่ต้องการ ทาสก์บาร์รูปแบบใหม่ได้รับการออกแบบมาให้ช่วยผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความยุ่งยากและทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างทัมบ์เนลสำหรับพรีวิวหน้าเว็บ เอกสาร หรือแม้กระทั่งวีดีโอที่กำลังเปิดอยู่

โฮมกรุ๊ป: แชร์ไฟล์หรือเครื่องพิมพ์ง่ายๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้วินโดวส์ 7 เครื่องอื่นๆ ภายในบ้าน

DeviceStage: แสดงสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ อาทิ กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งยัง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อและจัดการอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย

รูปภาพและวีดีโอ: Windows Live Photo Gallery และ Windows Live Movie Maker เป็นอีกทางเลือกเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขรูปภาพ หรือ วีดีโอได้ง่ายๆ ทั้งยังสามารถแชร์รูปและวีดีโอกับเพื่อนๆ ได้เช่นกัน

Snap: ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนของหน้าต่างที่ต้องการได้โดยการลากหน้าต่างดังกล่าวไปยังขอบด้านข้าง โดยสามารถลากหน้าต่างหนึ่งไปยังด้านขวา และอีกหน้าต่างหนึ่งมายังด้านซ้ายเพื่อเปรียบเทียบระหว่างสองหน้าต่างได้ด้วย

Shake: คลิกที่แถบหน้าต่างและเขย่าเมาส์ไปมาเพื่อลดขนาดหน้าต่างๆ อื่นที่ไม่ต้องการ เขย่าหน้าต่างอีกครั้งเพื่อขยายขนาดของหน้าต่างอื่นๆ ให้มีขนาดเท่าเดิม

Internet Explorer 8: นับเป็นบราวเซอร์ที่ทำงานได้รวดเร็ว ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยที่สุด โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น เช่น Instant Search, Accelerators และ Web Slices

ทำงานในแบบที่คุณต้องการ
ทำงานได้รวดเร็วและเชื่อถือได้ยิ่งขึ้น: ผู้ใช้งานวินโดวส์ 7 ทุกคนจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น การเปิดเครื่องและปิดเครื่องที่ใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม รวมทั้งสามารถจัดการการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ: ปกป้องข้อมูลในเครื่องพีซีได้ง่ายกว่าเดิมด้วยความสามารถในการสำรองข้อมูลขั้นสูง สำหรับปกป้องคอมพิวเตอร์จาก ไวรัส สปายแวร์ และซอฟต์แวร์ที่น่าสงสัยอื่นๆ

ทำงานได้อย่างยืดหยุ่น: ผู้ใช้งานสามารถรันโปรแกรมสำหรับวินโดวส์ เอ็กซ์พีได้ใน Windows XP Mode ของวินโดวส์ 7 นอกจากนี้ วินโดวส์ 7 ยังได้รับการปรับปรุงให้มีการแจ้งเตือนจากระบบต่างๆน้อยลง ผู้ใช้งานจึงสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวน

ค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ
Windows Touch: ทำงานร่วมกับเครื่องพีซีที่มีหน้าจอระบบสัมผัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงใช้นิ้วสัมผัส ทั้งยังสามารถรองรับการทำงานแบบสัมผัสแบบพร้อมกันได้หลายจุด

PlayTo: เปิดเพลง วีดีโอ หรือ รูปถ่าย ของเครื่องพีซีอื่นๆรวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้ อย่าง Xbox 360 ซึ่งเชื่อมต่อกับโทรทัศน์

Internet TV: คอนเทนท์โพรไวเดอร์แบบใหม่และอินเทอร์เฟซรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ชมโทรทัศน์ผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

แสดงผลเกมส์และภาพกราฟฟิกได้เป็นเลิศ: วินโดวส์ 7 ผนวกประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นเลิศในการแสดงผลเกมส์และสื่อบันเทิงอื่นๆ ด้วยเทคโนโลยี 64 บิท และกราฟฟิคจาก DirectX11

เลือกเครื่องพิมพ์ได้อย่างถูกต้อง: วินโดวส์ 7 สามารถเลือกเครื่องพิมพ์ที่ถูกต้องได้ไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน

เสียงตอบรับจากคู่ค้าที่มีต่อระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7
นายอลัน เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเซอร์คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การวางตลาดของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 จะสร้างความตื่นเต้นแก่ตลาดและผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เอเซอร์ได้เตรียมผลิตภัณฑ์ที่รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ไว้ครบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้ง โน้ตบุ๊ก, จอแอลซีดี และออล อิน วัน เดสก์ท๊อป ที่มากับเทคโนโลยี “มัลติ ทัช สกรีน” พร้อมกับแนะนำโน้ตบุ๊ก 3D เครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอ 3 มิติ เพื่อการเข้าถึงอรรถรสแห่งจินตนาการได้อย่างสมจริง ที่คุณสามารถดูหนังแผ่น 3 มิติ ได้อย่างสบาย โดยสามารถดูผ่านแว่นตาที่จัดมาพร้อมกับตัวเครื่อง

นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากได้ทดลองใช้มาระยะหนึ่งแล้ว ผมถือว่า วินโดวส์ 7 เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่มีลูกเล่นที่น่าทึ่งมาก ทั้งการใช้งานที่ง่ายขึ้น รองรับการใช้งานได้ทั้งมัลติมีเดียและการทำงานที่หลากหลายรูปแบบ นอกจากนั้น ยังสามารถรองรับเทคโนโลยีเฉพาะของอัสซุสได้เป็นอย่างดี และเรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีการทำงานสอดคล้องกับวินโดวส์แพลตฟอร์ม ที่สำคัญอัสซุสกับไมโครซอฟท์เป็นคู่ค้ากันมายาวนาน ในเร็ว ๆ นี้ โน้ตบุ๊คอัสซุสในตระกูล UL Series จะเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่พร้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับวินโดวส์ 7 อย่างแน่นอน ”

นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ลูกค้าหลายๆ รายกลัวว่าการย้ายระบบไปยังระบบปฏิบัติการตัวใหม่จะเป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลา แต่เดลล์กำลังช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึงผลประโยชน์ที่แท้จริงที่จะได้รับจากการอัพเกรดมาใช้ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 จากการร่วมมือกับไมโครซอฟท์อย่างแน่นแฟ้นในการรวมระบบ เราได้ใช้เวลาในการดำเนินงานด้านวิศวกรรมนับหลายพันชั่วโมงในการพัฒนาและทดสอบการใช้วินโดวส์บนแพล็ตฟอร์มของเดลล์ ซึ่งหน้าที่ของเดลล์ก็คือ การทำให้กระบวนการในการย้ายระบบดำเนินไปอย่างง่ายดายที่สุดสำหรับลูกค้า เพื่อช่วยลูกค้าให้ย้ายระบบได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องคิดเองว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง”

“ความร่วมมือระหว่างอินเทลและไมโครซอฟท์ในการเปิดตัววินโดวส์ 7 ในวันนี้ จะทำให้ผู้บริโภคทั่วไปและลูกค้าองค์กรได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้น ที่มาพร้อมความลงตัวของประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่โดดเด่นจากโปรเซสเซอร์อินเทล” นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) กล่าว “อินเทล ได้มีส่วนร่วมกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาวินโดวส์ 7 ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การนำวิศวกรกว่าร้อยคนช่วยพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อมอบประสบการณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งประโยชน์ที่ได้รับจากหลากหลายรูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

นายเคน นากาเตะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า “เครื่องคอมพิวเตอร์โซนี่ ไวโอ ได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ในขณะที่รูปลักษณ์ของฮาร์ดแวร์ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ระบบปฏิบัติการสำหรับพีซีก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันที่จะทำให้ผู้ใช้งานได้แสดงออกถึงตัวตนของเขามากที่สุด เราเชื่อว่าเมื่อลูกค้าของโซนี่ ไวโอได้มีโอกาสทดลองใช้งานวินโดวส์ 7 พวกเขาจะต้องได้รับประโยชน์อย่างเต็มเปี่ยมที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ และยูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายที่จะทำให้ผู้ใช้งานพีซีได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าที่เคยเป็นมา”