ซาน โฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย – 30 ตุลาคม 2552 — อีเบย์ อิงค์ (หรือมีชื่อในตลาดหลักทรัพย์แนสแดคว่า EBAY) เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2552 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 โดยในไตรมาส 3 ของปีนี้ มีรายได้เท่ากับ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 120.3 ล้านเหรียญสหรัฐ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เพย์พาล สไกพ์ คลาสสิฟายด์ รวมทั้งการประกาศขายสินค้าบนอีเบย์แบบกำหนดราคาตายตัว (Fixed-price Format) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีรายได้สูงขึ้น
เมื่อคำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (GAAP) อีเบย์ อิงค์ มีรายได้สุทธิ 349.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.27 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด ส่วนรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) คิดเป็น 501.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 0.38 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเท่ากับ 738.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) 563.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับกำไรจากการดำเนินงาน เมื่อคำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (GAAP) ในไตรมาส 3/2552 อีเบย์มีกำไรจากการดำเนินงาน 19.8% คิดเป็นอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 24.7% และหากคำนวณโดยไม่ใช้หลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) พบว่า ในไตรมาส 3/2552 อีเบย์มีกำไรจากการดำเนินงาน 28.4% คิดเป็นอัตราที่ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 31.8% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเข้าควบรวมกิจการบิลล์ มี เลเทอร์ (Bill Me Later) และการอ่อนตัวของค่าเงินเหรียญสหรัฐ
มร. จอห์น โดนาโฮ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเบย์ อิงค์ กล่าวว่า “อีเบย์มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/2552 และจะเดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกของเพย์พาล พร้อมสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับธุรกิจหลัก ซึ่งก็คือ อีเบย์ ตลาดออนไลน์ชั้นนำของโลก โดยสานต่อเจตนารมณ์ในการดำเนินงานตามนโยบายอย่างมีวินัย ชาญฉลาดและรวดเร็ว”