18 พฤศจิกายน 2009; กระแสของ Digital Media ที่หมายรวมถึง Mobile media และ Online Media ที่เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อวงการสื่อสารของไทยเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆให้พวกเราได้สัมผัส หากแต่จะผสมผสานให้กลมกลืนและเกิดประสิทธิภาพได้อย่างไรนั้น คงต้องดูที่ความเหมาะสมและสอดคล้องกับ Character กับสินค้า ที่สำคัญที่สุดคือ ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ที่เรียกกันว่า Gen M-Media in a Live โดยเอไอเอสฟันธงว่า ในปี 2010 การใช้ Digital Media จะเติบโตมากขึ้นถึงกว่า 30% โดย Mobile Media จะกลายมาเป็นสะพานเชื่อมต่อแคมเปญทางการตลาดถึงตัวผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัด
นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการ สำนักการตลาด บริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ด้วยพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนไป Trend ของการใช้ Digital Media เข้ามาเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดจึงมีสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเห็นได้จากสัดส่วนการใช้ Traditional Media ในภาพรวมลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่า 20% ในขณะเดียวกัน New Media ซึ่ง Digital Media เป็น 1 ในกลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 30% ”
ปรากฏการณ์ดังกล่าวเริ่มมีให้เห็นผ่านทางการทำแคมเปญการตลาดของสินค้าแบรนด์ดังที่มักจะใช้ Online Advertising เป็นตัวยืนและใช้ Mobile เข้ามาผสมผสานเป็นช่องทางให้เกิดการมีส่วนร่วม (Interact) กับผู้บริโภค โดยหากต้องการให้เกิด Impact ที่มากขึ้นก็จะผสมผสาน Digital Media เข้ากับ Traditional Media ในลักษณะของ Full IMC
โดยจุดแข็งที่ชัดเจนของ Mobile ในฐานะ Media ประกอบด้วย Personal , Always on , Always with the subscriber , Interactive , Time-specific, Location-specific , Variety of content and Support multiple media channels e.g SMS, MMS, Voice, WAP, Video, IM
“ดังนั้นนับตั้งแต่ปี 2005 เอไอเอสจึงเริ่มพัฒนา Mobile Advertising เพื่อรองรับ Trend ดังกล่าว ด้วย Solutions ที่หลากหลายภายใต้การได้รับอนุญาตจากผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Permission Based) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการทำ Mobile Advertising โดย Solutions Mobile Advertising จากเอไอเอส ประกอบด้วย
1.mADS
2.mLIVE : ผ่านทางรูปแบบของ Cell Broadcast
3.SMS 2.0
4.Free Email
5.Calling Melody Ads (For enterprise)
6.Ads Voice & Location based Push
7.Wap Banner Ads
8.Mobile Internet Map
9.Ad Sponsored Concept Test (เช่น Calling Bonus)
ทั้งนี้ตัวอย่างของแคมเปญที่ถือได้ว่าใช้ Digital Media ผสมผสานเข้ากับ Traditional Media ในลักษณะของ Full IMC คือ การแนะนำ 2 รสชาดใหม่ของมันฝรั่งเลย์ ที่เปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมโดยการโหวต ซึ่งนับว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีมากใน 2 ระดับคือ ได้ทั้งยอดขาย การรับรู้และได้ทำการวิจัยความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงตัวจริงๆ
ดังนั้นจึงถือได้ว่า Mobile Media จะมีส่วนผลักดันให้ Digital Media ในประเทศไทยจะเติบโตเป็นอย่างมากถึงราว 30% ในปี 2010 โดยเริ่มมี Model ของการทำงานร่วมกับ Advertiser อย่างชัดเจน
และ Mobile Advertising ก็จะเป็นอีกหนึ่ง Media ที่เริ่มก่อให้เกิดรายได้กับ Operator อย่างชัดเจน โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนในการเพิ่มขึ้นใน Media campaign ที่กลุ่ม Agency หันมาให้ความสำคัญมากขึ้นเป็นอันดับต้นๆ และเอไอเอสพร้อมที่จะเป็นผู้นำอันดับ 1 ในฐานะ Interactive Wireless Media Provider อย่างแน่นอน