อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ปลื้มเบี้ยประกันโตต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ — 28 พฤศจิกายน 2552 — บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต เผยยอดเบี้ยประกัน ตลอด 9 เดือนเติบโตต่อเนื่อง จากกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ภายใต้แนวคิด “อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.จะทาสีบ้านคนไทยทุกหลังเป็นสีน้ำเงิน” ตามวิสัยทัศน์ “อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.จะเป็นปัจจัยหลักแห่งความมั่นคง คุ้มครองทุกครอบครัวไทย” ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ 3 ช่องทางขายหลัก คือ ตัวแทน (Agency) แบงก์แอสชัวรันส์ (Bancassurance) และการตลาดขายตรง พร้อมตั้งเป้าเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วสุดด้านเบี้ยปีแรก

มร.สตีเฟ่น แอปเปิ้ลยาร์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ความสำเร็จของนโยบายมุ่งเน้น 3 ช่องทางขายหลักที่ใช้กลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ภายใต้ 6 เสาหลัก ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2552) มีเบี้ยปีแรกเติบโตถึง 31% หรือเป็นจำนวน 2,951 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยปีแรกจากช่องทาง ตัวแทน 1,734 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 36% จากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ 575 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 26% และจากช่องทางการตลาดขายตรง 569 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 22%

“แม้จะมีความกังวลด้านเศรษฐกิจ แต่ก็ถือว่าปีนี้เรามีการเติบโตที่ต่อเนื่อง ซึ่งปีที่แล้วเราเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดด้านการรีครูต แต่ปีนี้ตั้งเป้าจะเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดด้านเบี้ยปีแรก” มร.สตีเฟ่น กล่าว

“ประเด็นนี้เรามั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องยาก หากพิจารณาจากการเติบโตในทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางหลักอย่างช่องทางตัวแทน ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีผลงานเบี้ยปีแรกอยู่ในอันดับ 3 ของธุรกิจ โดยช่องทางนี้มุ่งไปที่การเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีผลงานสม่ำเสมอ (Active Agent) ให้มากขึ้น แทนการเพิ่มจำนวนตัวแทนใหม่ (New Code) ส่งผลให้ตัวแทนที่มีผลงานสม่ำเสมอเฉลี่ยมีจำนวนถึง 4,897 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนตัวแทนทั้งหมด 28,033 คน เพิ่มขึ้น 27%

ส่วนช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่หันมาเน้นขายเคสที่ใหญ่ขึ้น ควบคู่กับการที่พันธมิตรธนาคารให้ความสำคัญกับการบริหารยอดขายแต่ละสาขามากขึ้น รวมถึงการนำระบบเทคโนโลยีที่ใช้กับช่องทางตัวแทน เช่น ระบบ E-Application และระบบ Quote Express ในการนำเสนอขายมาใช้กับการขายผ่านธนาคาร และหันมาขายสินค้าที่เน้นการออมและคุ้มครอง และมีความง่ายต่อกลุ่มลูกค้าแบงก์ โดยสินค้าเด่นของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ในขณะนี้ คือ แบบสะสมทรัพย์ “กรุงศรี ชัวร์ ไลฟ์ 12/7” ที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ รับประกันผลตอบแทนแน่นอน รวมทั้งแบบ “กรุงศรี แฮปปี้ ไลฟ์ 12/6” ก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ด้านช่องทางการตลาดขายตรง สามารถยืนหยัดอยู่ในอันดับ 1 ของตลาดเวลานี้ โดยได้เน้นที่การออกผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่าย เข้าถึงตลาดได้ในเวลาอันรวดเร็ว และสะดวกต่อการซื้อ ในอัตราเบี้ยประกันที่ถูกเพียง 300 บาทต่อเดือน เพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดจำนวนมากและกว้างได้ง่าย และที่สำคัญต้องถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

นอกจากให้ความสำคัญกับ 3 ช่องทางขายหลักแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งผลักดันกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นสร้างกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ พัฒนาการบริหารงานภายในองค์กร พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และปรับปรุงการให้บริการให้หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ ที่ทาง อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ตามแนวทางของกลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทแม่

มร.สตีเฟ่น กล่าวย้ำว่า ไม่เพียงแต่บริษัทฯ จะเดินหน้ากลยุทธ์ดังกล่าวควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแล้ว บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่คืนกำไรสู่สังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อสานต่อนโยบายด้านซีเอสอาร์ ภายใต้แนวคิด “ปันความรู้ สู่เด็กไทย โดย อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.” หลังประสบความสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ อาทิ โครงการไทยแลนด์ เอนิเมชั่น คอนเทสต์ โครงการพาน้องเที่ยวบางกอก โครงการธรรมบุตร และ อีกหลากหลายโครงการ พร้อมทั้งยังสนับสนุนให้ทุกฝ่ายคิดและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยมุ่งเน้นที่การปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับเยาวชน เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีมีคุณภาพ

“เราหวังว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต สามารถครองใจลูกค้าได้มากขึ้น นำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจว่าจะทาสีบ้านคนไทยทุกหลังให้เป็นสีน้ำเงิน และผลักดันให้เป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้และปีต่อๆ ไปได้” มร. สตีเฟ่น กล่าว