ผู้หญิง . . . ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ต่างก็คลั่งไคล้ในสิ่งหนึ่งเหมือนๆ กัน นั่นก็คือ แฟชั่น! แฟชั่น คือภาษาสากลที่เชื่อมโยงสาวๆ ทั่วโลกให้สามารถสื่อสารกันได้แบบ “มองตาก็รู้ใจ” ถึงแม้ว่ารสนิยมหรือสไตล์ของแต่ละคนอาจจะต่างกัน หรือเทรนด์จะพลิกผัน หมุนเปลี่ยนไปมากเท่าใดก็ตาม แต่เมื่อพูดถึงการแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยงามโดดเด่นสำหรับโอกาสพิเศษต่างๆ แล้ว ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยต่างก็เพียรพยายามที่จะ “ดูดีที่สุด” ในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งหลายๆ ครั้งก็หมายถึงการมองหาชุดราตรีสุดหรูสักชุดสำหรับค่ำคืนแสนพิเศษ
ลองนึกดูสิว่า… จะดีสักแค่ไหน ถ้าสามารถหาซื้อปาร์ตี้เดรสสุดเก๋ชนิดไม่ซ้ำใครได้ในราคาสบายกระเป๋า!
ไอเดียนี้เองที่จุดประกายให้ คุณวิทยา อัศวสุวรรณกูล หรือ เรย์ ผันตัวเองจากการซื้อ-ขายโมเดลญี่ปุ่น สู่ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นสตรี เจาะตลาดปาร์ตี้เดรสสำหรับสาวมั่น ส่งตรงถึงมือลูกค้าทั่วทุกมุมโลกเมื่อสั่งซื้อผ่านตลาดออนไลน์อีเบย์
เรย์ได้ทำธุรกิจบนอีเบย์มานานราว 12 ปี จนกลายเป็นนักขายมือทองของอีเบย์ในวันนี้ ก้าวแรกของเรย์บนอีเบย์เริ่มจากการซื้อโมเดลญี่ปุ่นจากมาบุญครองมาแปะขาย เพื่อสร้างรายได้เสริมระหว่างที่กำลังเรียนปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หลายปีต่อมา เรย์จึงได้ทดลองเปิดตลาดใหม่บนอีเบย์ ด้วยสินค้าที่แตกต่างออกไปจากเดิม โดยมุ่งทำตลาดสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับและรองเท้า (Clothing, Shoes, and Accessories) และเขาก็ได้พบว่า เสื้อผ้าแฟชั่นสตรีเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล และยังมีโอกาสอีกมากมายให้ไขว่คว้า
ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา เรย์จึงตัดสินใจดำเนินธุรกิจค้าขายเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีผ่านทางอีเบย์อย่างเต็มตัว โดยมีภรรยาคนสวย “ซินลา” ผู้มีสายตาเฉียบคมรับหน้าที่เป็นคนคิดแบบ โดยนำประสบการณ์และสไตล์ต่างๆ ที่ชอบและคาดว่าน่าจะทำตลาดได้ มาออกแบบให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของประเทศนั้นๆ ซึ่งร้านค้าอีเบย์ของเรย์ก็เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ด้วยมีลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเลือกซื้อ เลือกประมูลสินค้าดีไซน์เยี่ยม คุณภาพสูงด้วยฝีมือการตัดเย็บที่ปราณีต และยังจ่ายได้ในราคาประหยัด โดยเฉพาะสาวๆ แฟชั่นนิสต้าในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และรัสเซีย ล้วนเป็นลูกค้าประจำของเรย์
“ผมเริ่มจับธุรกิจอีเบย์ครั้งแรกในฐานะงานอดิเรกที่ช่วยสร้างรายได้เสริมระหว่างเรียน เพราะตอนนั้นผมทำงานพาร์ทไทม์เป็นเซลส์ขายกาวอุตสาหกรรมไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่เรียนจบ ผมก็ได้สะสมประสบการณ์ ทั้งทางด้านระบบและเทคนิคการขายบนอีเบย์มามากพอสมควรจนได้เป็นนักขายมือทอง (Power Seller) หลังจากนั้น ผมจึงเริ่มทดลองขายสินค้าที่มีสัดส่วนกำไรสูงขึ้น เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง เพราะเห็นว่ายังมีสินค้าอีกหลายประเภทที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูงๆ บนตลาดออนไลน์อีเบย์” เรย์เปิดใจถึงที่มาที่ไปในการทำธุรกิจอีเบย์ด้วยความภาคภูมิใจ
และเมื่อการค้าขายผ่านอีเบย์เริ่มสร้างฐานรายได้ที่สม่ำเสมอ เรย์จึงตัดสินใจเดินหน้าเต็มสูบเพื่อขยายตลาด ด้วยกลยุทธ์ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” โดยก่อตั้ง บริษัท อัศวสุวรรณกูล อินดรัสเตรียล จำกัด ขึ้น เพื่อรองรับธุรกิจที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งการดำเนินธุรกิจอีเบย์ในรูปของบริษัทนั้นเอื้อต่อการจัดหาทีมงานเสริม ทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการกระจายหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ซึ่งช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“แต่เดิม ผมจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการตลาดบนอีเบย์ทั้งหมด ขณะที่ภรรยาของผมช่วยได้มากในเรื่องการออกแบบสินค้าที่สวยงามในสไตล์ต่างๆ ที่ดึงดูดใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่วนทีมช่างตัดเย็บที่ผลิตสินค้าให้กับผมก็เป็นช่างฝีมือชั้นสูง แม้ว่าผมจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ลำพังผมเพียงคนเดียวนั้นก็ไม่สามารถรองรับตลาดที่กำลังเฟื่องสุดๆ ได้ ผมจึงตัดสินใจตั้งบริษัทขึ้น จ้างทีมงานเพิ่มเติม และดำเนินธุรกิจอีเบย์ในรูปของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานจะไม่สะดุดและเราจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งทุกวันนี้ เรามียอดขายสูงถึงเดือนละประมาณ 400 ชิ้น โดยมีทีมงานคอยดูแลสินค้าที่แปะขายอยู่บนเว็บไซต์อีเบย์ประเทศต่างๆ เฉลี่ยวันละราว 200 ชิ้น เพื่อให้ครอบคลุมตลาดใหญ่ๆ ได้ครบ” เรย์ เล่า
ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัศวสุวรรณกูล อินดรัสเตรียล จำกัด หน้าที่หลักของคุณเรย์คือการดูแลภาพรวมของการดำเนินธุรกิจทั้งหมด นับตั้งแต่การผลิต เรื่อยไปจนถึงการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งเขาให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นอย่างมาก ด้วยเชื่อว่าเป็นจุดเด่นที่ “มัดใจ” ลูกค้าให้กลับมาซื้ออีกในคราวต่อๆ ไป
เรย์เชื่อว่าการให้บริการด้วยความเต็มใจ และ “เต็มที่” ให้กับลูกค้า จะสร้างความประทับใจได้ดีที่สุด และดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้ากับเขาอีก ด้วยความที่สินค้าของเรย์คือเดรสทั้งแบบยาวและแบบสั้นซึ่งเป็นงานฝีมือแฮนด์เมด ตัดเย็บกันทีละชิ้น จึงมีลูกค้าหลายคนที่ต้องการให้แก้ไขชุดให้พอดีตัว หรือสั่งตัดพิเศษ ซึ่งเรย์ก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถในการตอบสนองความต้องการ
ต่างๆ นี้
“หลายครั้ง เคยมีลูกค้าที่ต้องการให้เราตัดชุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาวให้ ซึ่งจะใช้เนื้อผ้าที่มีโทนสีและลวดลายเดียวกัน แต่อาจจะตัดเย็บออกมาเป็นหลายๆ แบบ ซึ่งก็ต้องเป็นคนละไซส์กัน บางทีลูกค้าก็ต้องการคำปรึกษาว่าแบบไหน สไตล์ไหน ที่จะเข้ากับรูปร่างของเขามากที่สุด ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว การรับงานทำนองนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ช่วยให้เรามีลูกค้าเพิ่มพร้อมกันหลายๆ คนในคราวเดียว เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าเหล่านี้ก็จะกลับมาสั่งซื้อสินค้ากับเราใหม่ เมื่อเขาต้องการเดรสเก๋ๆ สำหรับใส่ไปงานสำคัญ”
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการให้บริการลูกค้า คือความใส่ใจในรายละเอียด โดยเรย์ เผยว่า “เนื่องจากลูกค้าของเรากว่าครึ่งนั้นเป็นลูกค้าประจำที่นิยมสั่งซื้อสินค้าเมื่อเข้าใกล้ช่วงเทศกาล หรือช่วงที่จะมีงานสำคัญต่างๆ เราจึงเก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าไว้ทั้งหมด เพื่อช่วยให้เราสามารถตัดเย็บเสื้อผ้าทุกชิ้นออกมาได้อย่างเหมาะเจาะพอดีกับตัวลูกค้ามากขึ้น ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจอย่างมากในบริการที่เราตั้งใจมอบให้อย่างสุดฝีมือ”
“นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทในปี 2549 เรายังคงมุ่งเน้นที่การจำหน่ายสินค้าเฉพาะบนเว็บไซต์อีเบย์ในประเทศต่างๆ เท่านั้น ซึ่งนับว่าอีเบย์เป็นช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงมากสำหรับธุรกิจ SME ไทย โดยกลยุทธ์สำคัญ 2 ประการ ที่จะช่วยผลักดันการขยายฐานลูกค้าบนอีเบย์ให้กว้างขึ้น ก็คือ การจัดทำประกาศขายสินค้า (Listing) ที่สวยงาม ดึงดูดใจผู้พบเห็นให้เข้ามาเยี่ยมชมร้านค้าอีเบย์ของคุณ และความสามารถในการปิดการขายให้สำเร็จเมื่อลูกค้าส่งเมล์มาสอบถามเกี่ยวกับสินค้า เพราะนั่นแสดงว่าลูกค้าเริ่มมีความสนใจในสินค้าของเราแล้ว” เรย์ สรุปทิ้งท้าย
“การเดินทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก” ก้าวแรกของเรย์ที่ย่างเข้าสู่ตลาดออนไลน์อีเบย์ เริ่มต้นจากงานอดิเรกที่เขาทำเพื่อสร้างรายได้เสริมระหว่างเรียน แต่ด้วยพลังความคิด ผนวกกับสปิริตของใจที่แสวงหาโอกาสให้ตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง เรย์ได้เดินหน้าอย่างไม่ลดละในการสานต่อ “งานอดิเรก” ให้กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตบนเส้นทางแฟชั่นในตลาดอีเบย์อย่างมั่นคงเต็มความภาคภูมิ จนนับได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ค้ารายใหญ่ (Top Seller) ของอีเบย์ในเมืองไทยเลยทีเดียว