อควาเรียส เผยแผนธุรกิจที่ปรึกษาปั้นโครงการอสังหาฯ คุณภาพสู่ตลาด ด้วยบริการที่แตกต่าง

อควาเรียส ย้ำภาพนักปั้นโครงการอสังหาฯ มืออาชีพ ชูจุดขายบริการแบบ ‘Total Property Strategic Solutions’ ผู้วางกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร คู่คิดคุณภาพที่พร้อมมอบบริการแก่ลูกค้า หลังดันโปรเจคในมือสู่ดวงดาว สร้าง Portfolio รวมมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาทใน 5 ปี ตั้งเป้าเพิ่มยอดโครงการบริหารรวม 2 แห่งในครึ่งปีหลัง 53 หลังล่าสุดวางกลยุทธ์ขายคอนโด The Clover ทองหล่อ เฟส 2 มูลค่า 250 ล้านบาท หมดเกลี้ยงใน 1 สัปดาห์ พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดโครงการที่พัฒนาค้าง พร้อมส่งทีมปรับรูปแบบให้ขายได้ในตลาดปัจจุบัน

นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ Project Development Management เป็นอย่างมาก ณ ปัจจุบัน เรามีพอร์ทโครงการที่รับบริหารมาแล้วกว่า 15 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท เป็นโครงการหลากหลายประเภท อาทิ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว เป็นต้น ซึ่งแต่ละโครงการ บริษัทฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น วางรูปแบบ ดูแลด้านการออกแบบ จัดแบ่งฟังก์ชั่น วางแผนการโฆษณาและการขาย จนกระทั่งบริหารโครงการหลังการขาย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการบริการในรูปแบบ ‘Total Property Strategic Solutions’ ของเมืองไทยอย่างเป็นรูปธรรม สิ่งที่บริษัทฯ เน้นย้ำ และเชื่อถือมาตลอดคือ การพัฒนา Product ที่ดี เพราะ Product ที่ดีเป็นพื้นฐานในการส่งเสริมการบริหารงานในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การขาย และการอยู่อาศัย

“ณ ปัจจุบัน อควาเรียสนับว่าเป็นบริษัทเดียวที่ให้บริการด้าน Project Development Management แบบ ‘Total Property Strategic Solutions’ ในเมืองไทย และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราได้รับการยอมรับอย่างมากในฐานะบริษัทที่ปรึกษาในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร ทั้งแบบสร้างใหม่และแบบที่สร้างค้างไว้ โครงการที่ประสบความสำเร็จที่ผ่านมา อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม Ivy รัชดา ของ บมจ.พฤกษา โครงการคอนโดมิเนียม IDEO ของอนันดา, โครงการนวธานี บ้านหรูในสนามกอล์ฟ ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปดูแลบริหารโครงการอย่างครบวงจร และความสำเร็จล่าสุดกับโครงการคอนโดมิเนียม โครงการ The Clover ทองหล่อ เฟส2 ที่สามารถขายหมดได้หมดภายใน 1 สัปดาห์ กว่า 60 ยูนิต มูลค่า250 ล้านบาท โดยบริษัทได้เข้าไปวาง Positioning และปรับดีไซน์การออกแบบห้อง ให้ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมทั้งสร้างสรรค์แคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อผ่านสื่อแบบผสมผสาน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

เกี่ยวกับแผนในการดำเนินธุรกิจด้าน Project Development Management นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด กล่าวถึงทิศทางดังกล่าวว่า “ผ่านมาครึ่งปีแรก เรารับบริหารรวม 3 โครงการ มูลค่ากว่า 7,600 ล้านบาท มีโครงการต่างๆ ประกอบด้วย The Clover ทองหล่อ เฟส 2, นวธานี ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปดูแลบริหารโครงการอย่างครบวงจร และอีกหนึ่งโครงการคือ IDEO Morph สุขุมวิท 38 ที่เราเข้าไปดูแลในส่วนด้านงานขาย และเราตั้งเป้าว่าครึ่งปีหลัง 2553 เราจะสามารถบริหารโครงการเพิ่มได้ 2 โครงการ และหากเป็นไปตามเป้า จะทำให้ธุรกิจด้าน Project Development Management ของ อควาเรียส เติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์จลาจลในกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา กลับกลายเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาหาที่ปรึกษามืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะสามารถปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อลดอัตราเสี่ยงในการแบกรับดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งถือเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติที่บริษัทฯ ได้รับในปัจจุบัน” นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มตลาดโครงการที่สร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่สามารถขายหมดในเมืองไทยอยู่บางส่วนที่หันมาใช้บริการของบริษัทฯ เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการปรับจำนวนยูนิตที่เหลือขายในปัจจุบันให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและสามารถแข่งขันได้กับคู่แข่งในตลาดเพื่อปิดการขายโครงการแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ในส่วนนี้ อควาเรียสก็พร้อมที่จะเข้าไปให้บริการเช่นกัน ด้วยการเสนอมุมมอง และคำแนะนำ เพื่อจะปรับส่วนโครงการที่เหลือทั้งด้านดีไซน์ ด้านแคมเปญส่งเสริมการขาย เครื่องมือทางการตลาดและการเงิน ตลอดจนกลยุทธ์ด้านฐานข้อมูลลูกค้าให้ตอบโจทย์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก ในการให้บริการของอควาเรียส ด้านธุรกิจ Project Development Management ในปัจจุบัน