บลจ. กสิกรไทย ดันกองทุน “K-GEMO” รุกหุ้น “ตลาดเกิดใหม่”

บลจ. กสิกรไทย เชื่อ “ตลาดเกิดใหม่” เศรษฐกิจแกร่ง หนุนผลตอบแทนหุ้นฉลุย ได้ฤกษ์ส่งกองทุนน้องใหม่ K-GEMO ลงตลาด เผยกลยุทธ์บริหารพอร์ตเด็ด เอื้อโอกาสทำเงินทั้งตลาดหุ้นขาขึ้น-ขาลง พร้อมผนึกกำลัง “ซิตี้แบงก์” เสริมทัพการขาย IPO 9-21 ก.ย. 53 นี้

นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ออพพอร์ทูนนิตี้ (K-Global Emerging Market Opportunities Fund : K-GEMO) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) พร้อมโอกาสรับเงินปันผลสูงสุด 4 ครั้งต่อปี ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศ คือ กองทุน Global Emerging Market Opportunities ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่มุ่งลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในประเทศตลาดเกิดใหม่ อาทิ ประเทศจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน รัสเซีย อินโดนีเซีย ตุรกี บริหารจัดการโดย Schroder Investment Management (Luxemburg) S.A. บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลกที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 8 ล้านล้านบาท พร้อมประสบการณ์ในการจัดการกองทุน และวิเคราะห์หลักทรัพย์มากว่า 200 ปี

“K-GEMO มีความโดดเด่นที่ความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตการลงทุนจึงให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดี โดยกองทุนนี้สามารถลงทุนในหุ้นได้เต็ม 100% เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากตลาดหุ้นขาขึ้น ในทางกลับกันก็สามารถปรับพอร์ตหุ้นลง เพื่อถือตราสารหนี้หรือเงินสด ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนจากตลาดหุ้นขาลงได้ โดยสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอาจลดลงต่ำสุดได้ถึง 40% ในขณะที่กองทุนหุ้นอื่นๆ มักมีการลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่สูงกว่า นอกจากนี้กองทุน K-GEMO ยังแตกต่างไปจากกองทุนอื่นๆที่ลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่ โดยใช้โมเดลพิเศษในการวิเคราะห์เพื่อคัดเลือกประเทศที่มีความน่าลงทุนสูงสุด 6 ประเทศแรก แล้วจึงคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนจาก 6 ประเทศดังกล่าวโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแบบ bottom-up เพื่อประกอบเป็นการลงทุนส่วนใหญ่ของกองทุน K-GEMO ซึ่งนโยบายการลงทุนดังกล่าวทำให้กองทุนอาจมีการกระจายการลงทุนที่จำกัดกว่ากองทุนอื่นๆ แต่คาดว่ากองทุน K-GEMO จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่ดีกว่าจากการเลือกประเทศที่เหมาะสมและหลักทรัพย์ที่มีความน่าลงทุนสูงสุด จากความน่าสนใจข้างต้นเมื่อผนวกกับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง มีนโยบายการเงินของภาครัฐที่แข็งแกร่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพรวมของตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่สามารถเอาชนะตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วถึงกว่า 40%

ในปีที่มาผ่านมา* บลจ.กสิกรไทย เชื่อว่ากองทุน K-GEMO จะเป็นทางเลือกใหม่ที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุนได้อย่างดี” นายรพีกล่าว

สำหรับช่องทางการขายกองทุนดังกล่าว นายรพีเปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย ยังได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารซิตี้แบงก์ในการเป็นผู้สนับสนุนการขายกองทุน K-GEMO เนื่องด้วยบริษัทได้เล็งเห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นในการเป็นผู้สนับสนุนการขายที่มีมาตรฐานสูงและมีกระบวนการพิจารณา คัดสรร ประเมินกองทุนอย่างเป็นระบบ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ ทางบลจ.กสิกรไทยและธนาคารซิตี้แบงก์จะเพิ่มความร่วมมือในการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนให้ดียิ่งขึ้น

ด้านนายปราดีพ แพนท์ ผู้จัดการใหญ่สายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า ซิตี้แบงก์มีความได้เปรียบด้านข้อมูลจากการที่ธนาคารประกอบธุรกิจอยู่ทั่วโลก ธนาคารรวบรวมความเชี่ยวชาญของ นักกลยุทธ์ นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ของซิตี้แบงก์ เพื่อมองหาแนวทางการลงทุนที่ธนาคารเชื่อว่านักลงทุนควรให้ความสนใจ โดยธนาคารจะให้ความสนใจกับแนวทางการลงทุนในระยะยาวที่น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และพบว่าอิทธิพลของ “กระแสบริโภคนิยมในตลาดเกิดใหม่” เป็นแนวทางหลักของการลงทุนที่น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีและเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการมีส่วนร่วมและได้รับผลจากการเติบโตของกระแสบริโภคนิยม ควรจะลงทุนและให้ความสำคัญต่อกลุ่มประเทศเกิดใหม่

ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน K-GEMO ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กสิกรไทย ธนาคารซิตี้แบงก์ และตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือติดต่อ KAsset Call Center 0-2673-3888