AP ปฎิวัติโมเดลการทำธุรกิจ รับการเติบโตอย่างยั่งยืน

AP เสริมเขี้ยวเล็บ “องค์กรเข้มแข็ง” ปฎิวัติโมเดลธุรกิจใหม่ จัดตั้งหน่วยธุรกิจแยกบริหารโครงการตามพอร์ตสินค้า พร้อมคลอดหน่วยพิเศษเตรียมผลิตสินค้าลุยเซ็กเม้นท์ใหม่ นอกเหนือเซ็กเม้นท์ที่ทำงานอยู่ ดึงมืออาชีพนอกวงการมาผสานความเก๋าของคนเก่ามากประสบการณ์ มุ่งเสริมรากฐานองค์กรแข็งเเกร่งรับการเติบโตระยะยาว ด้วยมูลค่าสินค้าในมือสูงเกือบ 6 หมื่นล้านบาท

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปี 2004-2009 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้โตจาก 5,740 ล้านบาทเป็น 12,424 ล้านบาท จำนวนโครงการที่ถืออยู่ในมือจาก 13 โครงการเพิ่มขึ้นเป็น 39 โครงการ ดังนั้น เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างมั่งคง พร้อมขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ในการที่จะไม่หยุดนิ่งสร้างสรรค์ความพึงพอใจในการอยู่อาศัย ด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงสุด (To be the dynamic creator who provides quality in living satisfaction) บริษัทฯ จึงได้ปรับแนวทางในการดำเนินงาน โดยทางด้านบริการ (Service) ได้แยกส่วนงานการตลาดและงานขายมาอยู่ส่วนกลาง และทางด้านสินค้า (Product) ได้แยกการดำเนินงานเป็น 4 หน่วยธุรกิจตามประเภทของสินค้า (Business Unit : BU) โดย 1. ธุรกิจบ้านเดี่ยว พัฒนาสินค้าแบรนด์ The City และ The Centro ราคาขาย 4-15 ล้านบาท 2. ธุรกิจทาวน์เฮ้าส์ พัฒนาสินค้าแบรนด์ บ้านกลางกรุง บ้านกลางเมือง และ BIZTOWN ราคาขาย 4-20 ล้านบาท 3. ธุรกิจคอนโดมิเนียม พัฒนาสินค้าแบรนด์ The Address RHYTHM และ Life ราคาขาย 3-19 ล้านบาท และ 4. ธุรกิจพัฒนาสินค้าประเภทอื่นๆ ในเซ็กเม้นท์ใหม่ที่ AP ไม่ได้ดำเนินการในปัจจุบัน เช่น บ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาท หรือทาวน์เฮ้าส์ ราคา ต่ำกว่า 3 ล้านบาท และเพื่อให้หน่วย 4 แข็งแรงบริษัทฯ จึงได้จัดตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างขึ้น เพื่อสนับสนุนงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ในหน่วย 4 โดยเน้นระบบงานก่อสร้างสำเร็จรูปเป็นสำคัญ

“เราต้องการให้ AP เป็นองค์กรสะสมความรู้ ซึ่งการจัดโมเดลการทำงานใหม่ในครั้งนี้ จะเป็นการแยกคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเดียวกันมาอยู่ร่วมกัน เพื่อนำความรู้เฉพาะทางที่มีอยู่นั้นช่วยกันพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องการพัฒนาโครงการเราก็จะมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละหน่วยธุรกิจดำเนินการ ส่วนด้านงานการตลาดและบริการลูกค้าก็จะแยกออกมาอย่างชัดเจน”

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้สรรหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาผสานผสานกับบุคลากรภายในองค์กร เพื่อมุ่งพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ด้าน Soft Side ที่สัมผัสกับลูกค้า บริษัทฯ ได้รับบุคลากรจากธุรกิจ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) เข้ามาเสริมทัพ 2 ท่าน โดยคุณวิทการ จันทวิมล มาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด และคุณมาโรจน์ วนานันท์ มาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานคอมเมอร์เชียล เซอร์วิส ส่วนทางด้าน BU ธุรกิจบ้านเดี่ยว บริษัทฯ ได้ให้คุณวิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ ขึ้นมาดูแลในส่วนธุรกิจนี้ นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้โปรโมทคุณวิษณุขึ้นมาร่วมทีมพัฒนาธุรกิจโดยโฟกัสในการสรรหาที่ดินเข้าบริษัทอีกด้วย

“ปัจจุบันด้านการสรรหาที่ดินจะมีคุณพิเชษฐ วิภวศุภกร เป็นผู้ดูแล และเมื่อองค์กรต้องก้าวไปในอนาคต เชื่อว่าคุณพิเชษฐไม่สามารถดูแลการสรรหาที่ดินเข้าบริษัทเพียงท่านเดียวไหว ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีงบประมาณในการซื้อที่ดินมูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งอนาคตต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างแน่นอน ดังนั้น คุณวิษณุจึงได้รับการโปรโมทขึ้นมาร่วมทีมในครั้งนี้ ซึ่งการซื้อที่ดินสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์และไว้ใจได้ ซึ่งคุณวิษณุถือว่าเหมาะสมที่สุด”

สำหรับในส่วนของ BU ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว บริษัทฯ อยู่ระหว่างการคัดสรรบุคลากรภายในองค์กรมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ และสำหรับหน่วยงาน 4 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญ ถือเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตในอนาค ซึ่งจะมี คุณศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ มาดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ ดูแลหน่วยงานธุรกิจ 4 นอกจากนั้น คุณศุภลักษณ์ ยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่จัดตั้งขึ้นใหม่อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการวางรากฐานให้มั่งคง เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ จากการปรับโมเดลในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้หน่วยธุรกิจทั้ง 4 หน่วย มีโครงการทั้งในปัจจุบันและในอนาคตถืออยู่ในมือรวมทั้งสิ้น 51 โครงการ คิดเป็นมูลค่าของโครงการทั้งสิ้นรวม 58,095 ล้านบาท