BIG + BIH 2010 ศูนย์กลางการค้าและดีไซน์แห่งอาเซียน

กรมส่งเสริมการส่งออกเดินหน้าหนุนผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ดันงาน BIG+BIH 2010 เป็นศูนย์กลางการค้าและดีไซน์แห่งอาเซียน เดินหน้าลงนามข้อตกลงกับสิงคโปร์ และมาเลเซียในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และดึงผู้ซื้อจากต่างประเทศ ตอบโจทย์ BIG+BIH คือสุดยอดงานแสดงสินค้าดีไซน์ที่ดีที่สุดของอาเซียน

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกเปิดเผยว่ากรมส่งเสริมการส่งออกโดยการสนับสนุนจากสมาพันธ์สมาคมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย จะจัดงานแสดงสินค้าของขวัญ และงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน 2010 (BIG+BIH 2010) ขึ้นระหว่างวันที่ 19-24 ตุลาคม ศกนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติกรุงเทพ หรือ BITEC ขึ้น ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นยอดขายของอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ โดยมูลค่าการส่งออกเดือน มกราคม – เดือนสิงหาคม 2553 คือ 1,168.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (37,799.45 ล้านบาท) และเป้าหมายการส่งออกของปี 2553 อยู่ที่ 1,736 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 56,142.24 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 10 ขณะที่มูลค่าการส่งออกปี 2552 อยู่ที่ 1,580.62 ล้านเหรียญสหรัฐ (53,902.72 ล้านบาท) โดยมีตลาดส่งออกหลักที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี เวียดนาม ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนเธอร์แลนด์ และอินเดีย

“งาน BIG + BIH” เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติประเภทไลฟ์สไตล์แนวดีไซน์ที่เทรนดี้ที่สุดในอาเซียน และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเวทีสร้างนักออกแบบและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในงานมีผู้ส่งออกชั้นนำจากไทย และต่างประเทศเข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้า 569 บริษัท 1,487 คูหา และคาดว่าจะมีเงินสะพัดจากงานนี้กว่า 300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 80,000 คน แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ 7,500 คน และวันจำหน่ายปลีกให้กับ ประชาชนทั่วไปประมาณ 72,500 คน และคาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมจากประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ จีนและกาน่า อาเซียน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นต้น นางนันทวัลย์กล่าว

“BIG+BIH ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมืออันสำคัญยิ่งระหว่างภาครัฐ และเอกชนในอันที่จะเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดโลกโดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยหันมาให้ความสำคัญกับดีไซน์ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของตน ปัจจุบันสินค้าไลฟ์สไตล์จากประเทศไทยได้ก้าวผ่านการแข่งขันด้านราคามาแล้ว และได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อทั่วโลกว่าเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์ในด้านรูปแบบ และดีไซน์ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันออก และตะวันตก อันเป็นที่มาของแนวคิดการจัดงานของปีนี้ “จิตวิญญาณและรูปแบบแห่งตะวันออก” นางนันทวัลย์กล่าว

นางนันทวัลย์กล่าวต่อไปว่า “เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อต่างประเทศนั้น ทางภาครัฐได้ผนึกกำลังกับสมาพันธ์สมาคมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และการส่งออกสินค้าในอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ให้มีการขยายช่องทางการตลาด และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศให้มีมูลค่าการส่งออกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่น และการตื่นตัวให้กับผู้ประกอบการให้ผลิตสินค้าแนวดีไซน์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดมากขึ้น”

นางนันทวัลย์กล่าวเพิ่มเติมว่าภายในงาน BIG+BIH 2010 มีกิจกรรมพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ คูหาพิเศษ (Talent Thai Matching + Designer Products ) ซึ่งเป็นการแสดง ผลงานการออกแบบของนักออกแบบผลิตภัณฑ์ไทยที่มีผลงานโดดเด่น จำนวน 50 ราย แบ่งเป็นกลุ่ม Talent Thai Next และ Talent Thai Now เพื่อประชาสัมพันธ์ นักออกแบบให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในสินค้าของขวัญ และของใช้ในบ้านทั้งระดับประเทศ และระดับนานาชาติ

นิทรรศการ Design Forum : Lifestyle Showcase เป็นการจัดแสดงตัวอย่างสินค้าในงาน BIG + BIH 2010 โดยกำหนดจัดเป็นกลุ่มสินค้าที่สอดคล้องกับแนวโน้มการออกแบบในตลาดโลก จำนวนสินค้าประมาณ 80-100 รายการ แบ่งออกเป็นประเภทของตกแต่งบ้าน ประเภทผ้าตกแต่งภายใน ประเภทสุขภาพและความงาม และประเภททั่วไป

นิทรรศการ DEmark จัดแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัล DEmark 2010 เพื่อประชาสัมพันธ์ และแสดงผลงานที่ได้รับรางวัล รวมทั้งผู้ออกแบบ/เจ้าของผลงาน โดยนำเสนอจุดเด่นของผลงานให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างมากขึ้น เพื่อประโยชน์ในทางการค้า และเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจต่อผู้ได้รับรางวัล เป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป
นิทรรศการ BIG TOY Design จัดแสดงต้นแบบสินค้าของเล่นที่เข้าประกวดในโครงการ BIG Toys Design Award 2010 ในหัวข้อ “MIX & MATCH” ของเล่นกับการผสมผสานวัสดุ และวิธีการเล่น”

“นอกจากนี้สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ได้จับมือกับประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซียในการลงนามเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ และการลงนามสัญญาร่วมกัน (MOU) เกี่ยวกับเรื่อง “การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการดึงผู้ซื้อจากต่างประเทศ” เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซียเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านการตลาด และโลจิสติกส์ที่ดี ส่วนประเทศไทยเป็นประเทศที่มีฐานการผลิต และการออกแบบที่ดี ซึ่งการจับมือกันในครั้งนี้เป็นการสร้างพันธมิตรทางการค้า เพิ่มกลยุทธ์ในการเชิญชวนผู้ซื้อจากประเทศต่างๆมาพบผู้ผลิต และผู้ส่งออกในงานแสดงสินค้า BIG + BIH ในครั้งนี้ และครั้งต่อๆไป”

“เพื่อเป็นการกระตุ้น และสร้างความยิ่งใหญ่กับให้ BIG + BIH นั้น สมาพันธ์สมาคมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยได้เชิญผู้ซื้อจากในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาร่วมงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้งานเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสที่ขยายตลาดไปสู่ตลาดโลก โดยในส่วนของ buyers ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศจะมีเจ้าหน้าที่บริการต้อนรับถึงสนามบิน ตั้งแต่ลงจากเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีบริการรถตู้-รับส่งให้ความรู้สึกเสมือนหนึ่งเป็นแขกคนสำคัญของงานทันทีที่เดินทางมาถึงประเทศไทย นอกจากนี้มีการให้ส่วนลดมากมายจากร้านอาหาร โรงแรม สปา รวมถึงการเข้ามาใช้บริการ VIP Lounge ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างไว้บริการ รวมถึงกิจกรรมคอนเสิร์ตต่างๆ เช่น คอนเสิร์ตจากสิงโต นำโชค เกมส์สนุกลุ้นรับของรางวัล กิจกรรมแจกของที่ระลึก และสิทธิพิเศษต่างๆอีกมากมาย นอกจากนี้ได้มีการทำบัตร VIP Domestics หรือแฟนพันธุ์แท้ BIG + BIH (ผู้ซื้อในประเทศ) ซึ่งสำหรับผู้ที่มีบัตร VIP Domestics จะมีเคาน์เตอร์ต้อนรับพิเศษสำหรับรับบัตร VIP Domestics, ผู้ถือบัตรสามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 19-24 ตุลาคม พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสำหรับการเลือกซื้อสินค้าภายในงานเพียงแสดงบัตร VIP Domestics และรับของที่ระลึกจากทางสมาพันธ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งนี้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตอบรับการเข้าร่วมเป็นแขก VIP Domestics เท่านั้น” นางนันทวัลย์กล่าว

BIG+BIH ได้รับการสนับสนุนโดยสมาพันธ์สมาคมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ประกอบด้วย 7 สมาคมหลักได้แก่ สมาคมของขวัญและของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมสินค้าของตกแต่งบ้าน สมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย สมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย

BIG+BIH เดือนตุลาคม 2553 เปิดให้นักธุรกิจเจรจาการค้าระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคม 2553 ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. และวันที่ 23-24 ตุลาคม 2553 เป็นวันจำหน่ายปลีกให้กับประชาชนทั่วไป ระหว่างเวลา 10.00 – 21.00 น. สอบถามข้อมูลการจัดงานเพิ่มเติมได้ที่

กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2507-8361, 0-2507-8364 ,
E-mail: [email protected] เว็บไซต์ www.bigandbih.com หรือ www.thaitradefair.com