นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานก่อนสอบทานไตรมาสแรก ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 6,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 15.75% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 48.90%
งบการเงินในไตรมาสนี้ได้จัดประเภทรายการใหม่ตามข้อกำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ธนาคารยังได้นำรายการค่าใช้จ่ายในการ รับประกันภัยไปแสดงหักจากยอดรวมรายได้จากการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งการจัดประเภทรายการดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้อัตราส่วนทางการเงินบางรายการมีค่าเปลี่ยนแปลงไป จึงได้ปรับปรุงงบการเงินและอัตราส่วนทางการเงินที่นำมาแสดงเปรียบเทียบให้เป็นไปตามรูปแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกัน
ผลการดำเนินงานก่อนการสอบทานสำหรับไตรมาสแรก ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จำนวน 12,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 470 ล้านบาท หรือ 3.77% และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 2,053 ล้านบาท หรือ 18.85% โดยในไตรมาสนี้มีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin :NIM) อยู่ที่ระดับ 3.46 % รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 8,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 793 ล้านบาท หรือ 10.56% และเพิ่มขึ้น 1,706 ล้านบาท หรือ 25.87% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 48.39% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 เครือธนาคารกสิกรไทยมีสินทรัพย์รวม 1,677,862 ล้านบาท ขณะที่สิ้นปี 2553 มีจำนวน 1,551,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126,334 ล้านบาท หรือ 8.14% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน ซึ่งเป็นการบริหารสภาพคล่องของธนาคาร ขณะที่สินเชื่อมีจำนวน 1,083,094 ล้านบาท โดยมีเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL Gross) อยู่ที่ระดับ 2.73% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ระดับ 2.91%