เปิดโผ แบรนด์ในใจ “คนชั้นกลางยุคใหม่ (แมสทีจ)” (ตอน2 )

หลังจากทำความรู้จักกับ ลูกค้า “แมสทีจ” กลุ่มคนชั้นกลาง “พลังซื้อยุคใหม่” กันแล้ว คราวนี้มาดูกันบ้างว่า ส่วนแบรนด์ไหนจะอยู่ในใจ และกลยุทธตลาดแบบไหน จะเหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้

จากการวิจัยของนักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สอบถามการสนทนากลุ่ม และสัมภาษณ์เชิงลึก เป็นหญิงและชาย ที่รายได้ สองหมื่นถึงแปดหมื่น อยู่กรุงเทพฯ และปริมาณฑล ชอบความหรูหรา ซื้อสินค้าพรีเมียม ในราคาจับต้องได้ และการวิจัยเชิงปริมาณ 407 ชุด พบว่า

แบรนด์โดนใจหนุ่มแมสทีจ
แบรนด์เครื่องใช้ส่วนตัวที่โดนใจหนุ่มแมสทีจ นีเวียฟอร์เมน เป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ ARTISTRY MEN และ PROTEX,CLEAR FOR MEN

แบรนด์เครื่องสำอางที่โดนใจ หนุ่มแมสทีจ คือ ARTISTRY ของแอมเวย์มีสัดส่วนถึง 42% เพราะชอบที่ใช้แล้วไม่มีคนทักว่าใช้รองพื้น การเลือกใช้เครื่องสำอางของหนุ่มแมสทีจจะใช้เพื่อกลบรอยหรือหลุมสิว แต่ต้องดูเป็นธรรมชาติ โดยจะซื้อครั้งละ 1,500 บาท

แบรนด์เสื้อผ้า อันดับแรก คือ ARROW เพราะมองว่าใส่แล้วดูภูมิฐาน เหมือนกับหัวหน้างาน การซื้อเสื้อผ้าแต่ละครั้ง 1,000 -2,000 บาท ส่วนใหญ่จะซื้อทั้งมีแบรนด์ และไม่มีแบรนด์ในลักษณะ Mix & Match

แบรนด์รองเท้า ต้องไนกี้ มาเป็นอันดับ 1 มีแบรนด์ไทยอย่าง แดปเปอร์ ตามาเป็นอันดับ 2 ซื้อครั้งละ 1,000 -2,000 บาท

ถ้าเป็นนาฬิกา แบรนด์ระดับแมสอย่าง คาสิโอ และไซโก้ นิยมสูสี โดยมี โรเล็กซ์ ตามมาเป็นอันดับ 3 เพราะเป็นที่ใฝ่ฝันชาวแมสทีจ ที่บอกว่า นาฬิกาก็เหมือนความฝันบนข้อมูล ส่วนใหญ่จะซื้อครั้งละ 3,000 -10,000 บาท

ปัจจัยที่หนุ่มๆใช้เลือกสินค้า
ดีไซน์มาเป็นอันดับแรก หากจะขายสินค้าให้หนุ่มแล้ว รูปลักษณ์ต้องดี ดีไซน์ต้องโดน ราคาเป็นเรื่องรอง

แบรนด์โดนใจสาวแมสทีจ
แบรนด์ของใช้ส่วนตัวที่โดนใจสาวแมสทีจ อันดับแรก คือ ครีมล้างหน้า SHISEIDO ตามมาด้วยสบู่ลักส์ และแชมพูแพนทีน

ส่วนแบรนด์เครื่องสำอางที่โดนใจ สาวแมสทีจ อันดับแรกคือ MAC ส่วนอาทริสตี้ตามมาเป็นอันดับ 2 โดยสาวๆจะซื้อครั้งละ 1,500 บาทขึ้นไป

แบรนด์เสื้อผ้าโดนใจสาวแมสทีจ ZARA มาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย ESPRIT และ H&M

แบรนด์รองเท้า Fitflop เป็นอันดับ 1 เพราะเรียบหรูแต่มีสไตล์ โดยจะซื้อครั้งละ 1,000 -3,000 บาท

สำหรับแบรนด์กระเป๋าถือ ต้อง LONGCHAMP จากฝรั่งเศส เฉลี่ยซื้อครั้งละ 2,000 -5,000 บาท

ปัจจัยการเลือกซื้อของสาวแมสทีจ
ถ้าเป็นเสื้อผ้า คุณภาพ คุณสมบัติ ตามมาด้วยราคา ถ้าเป็นรองเท้ากระเป๋าแล้ว ดีไซน์ คุณภาพและราคา ดังนั้นถ้าจะขายของให้กับสาวแมสทีจแล้ว คุณภาพต้องดี ราคาต้องใช่ แต่ต้องไม่ลืมดีไซน์โดนใจ

ส่งเสริมการขายแบบไหนจะโดนใจ
กลุ่มแมสทีจ มองว่า สินค้าลดราคาบ่อยเกินไปจะดูว่าคุณภาพต่ำ หรือไม่มี แวลลู การส่งเสริมการขายคนกลุ่มนี้ ควรลดเป็นซีซั่น เพราะคนกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าเป็นอันดับแรก การลดราคา หรือผ่อนจะรองลงมา

ใครมีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้า
เนื่องจากคนกลุ่มนี้ คนชั้นกลางที่มีการศึกษา การตัดสินใจซื้อโดยมากจะ ตัดสินใจด้วยตัวเองเป็นอันดับแรก รองลงมาคือถามเพื่อน และถามคนในครอบครัว

สื่อพิชิตใจชาวแมสทีจ
สื่อที่จะพิชิตใจชาวแมสทีจได้นั้น “อินเทอร์เน็ต” เป็นอันดับต้นๆ เพราะคนรุ่นนี้ หาข้อมูลเวลาซื้อสินค้า ที่เว็บ pnatip โต๊ะเครื่องแป้ง รัชดา มาบุญครอง แชร์ภาพและข้อมูลผ่าน facebook, instagram, twitter อ่านหนังสืออนไลน์ ดูหนังฟังเพลงใน Youtube กันแล้ว จะทำตลาดคนกลุ่มนี้ ขาดไม่ได้คือออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง

ถ้าเป็นสื่อโทรทัศน์ช่อง 3 มาเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ ช่อง 7 และช่องโมเดิร์นไนน์ โดยรายการที่ชื่นชอบคือ ข่าว 3 มิติ รองลงมาละครแรงเงาและทูไนท์โชว์ เป็นเพราะเป็นเวลากลับถึงบ้านพอดีกับข่าว 3 มิติพอดี

หนังสือพิมพ์ 1.ไทยรัฐ 2.เดลินิวส์ และ 3.บางกอกโพสท์(ตามลำดับ) ส่วนวิทยุ 1.คลื่น met 107FM 2.กรีนเวฟ 3.COOL93