หลังจากที่ ดีแทค เคยรีแบรนด์บริการเติมเงิน (พรีเพด) จากแบรนด์ “ดีพร้อมพ์” มาเป็น “แฮปปี้” เป็นเวลา 10 ปีเต็ม ก็ได้เวลา “รีเฟรช”แบรนด์แฮปปี้ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง และยังรับกับการเปิดบริการ ไทรเน็ท อย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กรกฎกาคมนี้
งานนี้ดีแทคควักเงินประมาณ 150 ล้านบาท ปรับโฉมแบรนด์ให้ดูทันสมัย โลโก้ใหม่ จะตัดทิ้งตัวอักษรแฮปปี้ ให้เหลือแค่รอยยิ้มสีแดง ที่ปรับใหม่ให้ดูมี “มิติ” ทันสมัย และเคลื่อนไหว เหมาะกับอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ท คงคาแรคเตอร์ ความใจดี ดูเป็นกันเอง ที่คนส่วนใหญ่จดจำได้
และยังรองรับยุค 3 จี ที่บริการ “ดาต้า”จะมีความต้องการมากขึ้น ซึ่งในปี 2556 จะมีลูกค้าแฮปปี้ที่ใช้บริการดาต้า 7,153,495 ล้านราย จากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่มีอยู่เพียงแค่ 5,914 ราย
การรีเฟรชแบรนด์แฮปปี้ ดีแทคยังได้เปิดตัว ซิมแฮปปี้ใหม่ 4 ซิม คือ ซิมแฮปปี้ โทรทุกเครือข่าย นาทีละ 35 สตางค์ (นาทีแรก 1.50 บาท),ซิมโทรเบอร์ดีแทค นาทีละ 24 สตางค์ (สองนาทีแรก 0.99 ต่อนาที, ซิมสมาร์โฟน เริ่มต้นวันละ 19 บาท รับค่าโทร 10 นาที เล่นอินเทอร์เน็ต 15MB และใช้เฟซบุ้ค วอทสแอป ไลน์ไม่อั้น และซิมม่วนชื่นใหม่ สำหรับชาวอีสาน โทรอัตราเดียวทุกเครือข่าย 73 สตางค์
ลูกค้าที่เปิดใช้ซิมแฮปปี้ใหม่ จะได้ใช้อินทอร์เน็ตฟรี บนโครงข่ายดีแทค ไทรเน็ต
นอกจากนี้ ดีแทคยังได้เตรียมเปิดตัวบริการ เฟซบุ้ค แมสเซนเจอร์ ที่เป็นความร่วมมือบริษัทเทเลนอร์ บริษัทแม่ ให้ลูกค้าใช้บริการเฟซบุ้คแมสเซนเจอร์ฟรี 3 เดือน โดยจะมีการออกสติกเกอร์ เหมือนกับที่ออกในบริการไลน์ แต่บนเฟซบุ้ค แมสเซนเจอร์จะเคลื่อนไหวได้
ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด บอกว่า บอกว่า การแข่งขันของตลาดมือถือรุนแรงและมาเร็ว กว่าคาดหมายไว้ เพราะคู่แข่ง เอไอเอส และทรูมูฟเอช ที่เปิดตัวบริการ 3 จี ไปก่อนหน้านี้ ได้เปิดเกมรุกเต็มที่ เพื่อกวาดต้อนลูกค้า 3 จี มาอยู่ในมือให้มากที่สุด
“งานนี้ สงครามราคาดุเดือดขึ้นแน่นอน ซึ่งเวลานี้ ตัวเลขการลดราคาแพคเกจ ลดต่ำกว่า20% แล้ว”
หากเลือกเล่นเกมเดียวกับคู่แข่งอีก 2 ราย นั่นหมายความว่า ดีแทค ต้องเปิดเข้าสู่สงครามราคา ควักเงินอัดฉีดทำตลาด เพื่อแย่งชิงลูกค้าจากคู่แข่งมาอยู่ในมือให้ได้มากที่สุด
แต่นั่น ไม่ใช่ทางเลือกของ “ดีแทค” ในยุคภายใต้การบริหารของ เทเลนอร์ ที่บอกชัดว่า งานนี้ขอเล่นเกม “ตั้งรับ” เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ให้ได้มากที่สุด โดยออกอาวุธพอที่จะแข่งขันได้ ทั้งอัตราค่าโทร และแพคเกจราคา เพื่อกันไม่ให้ลูกค้าไหลออก งบการตลาดในปีนี้ ของดีแทคจึงอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เท่ากับปีที่แล้ว
ปกรณ์ บอกว่า เทียบไม่ได้กับสมัยสงครามราคาในอดีต ที่ต้องใช้งบการตลาดไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
เมื่อเลือกเดินเกมตั้งรับ แทนที่จะต้องควักงบอัดฉีด แย่งชิงลูกค้าในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ กับคู่แข่งอีก 2 ราย ดีแทคเลือกไปทำตลาดลูกค้ารากหญ้าในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นฐานลูกค้า และแบรนด์แฮปปี้ดีอยู่แล้ว โดยผลักดันให้ลูกค้าเหล่านี้ได้ใช้บริการดาต้ามากขึ้น ด้วยแพคเกจราคา ตัวบริการ และเครื่องลูกข่าย
และนั่นก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ ดีแทค ที่เลือก รักษาแบรนด์ “แฮปปี้”ไว้ ในขณะที่คู่แข่งอีก 2 ราย เริ่มยุบแบรนด์พรีเพด และโพสท์เพดให้เหลือเพียงแบรนด์เดียว ในการไปสู่ 3 จี
ไทรเน็ท ลูกค้าย้ายไปไทรเน็ทครบ 10 ล้าน ลูกค้าแฮปปี้ 7 ล้าน กลุ่มนี้ถ้าเราทำเรื่องดาต้ามากขึ้น การจะดับเบิลเป็น 14 ล้าน ไม่ใช่เรื่องยาก ลูกค้าแฮปปี้ ใช้สองจี เขาสามารถใช้งานได้
Timeline
9 พฤษภาคม | เปิดตัว โครงข่ายดีแทค Trinet เน็ทเวิร์ค 3 จี |
7 มิถุนายน | วางตลาดมือถือเฮาส์แบรนด์ “ดีแทค ไทรเน็ต โฟน” |
17 กรากฎาคม | รีเฟรชแบรนด์แฮปปี้ |
23 กรกฎาคม | เปิดตัวบริการ 3 จี ภายใต้โครงข่ายดีแทค Trinet อย่างเป็นทางการ |
3,000 ล้านบาท คือ งบการตลาดและเซลส์ในปี 2556
400 ล้านบาท งบสร้างแบรนด์
50,000 – 60,000 คน ลูกค้าจากย้ายจากพรีเพด ไปโพสท์เพด
70 : 30 คือ อัตราส่วนระหว่างลูกค้าพรีเพท และโพสท์เพด