บริษัทมายด์แชร์ ประเทศไทย มีเดียเอเยนซี่ คาดการณ์ เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2557 ไว้ 5 ประการ โดยดูจากพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งในแง่ของไลฟ์สไตล์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่จะมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
1. สรรหาสิ่งที่ดีขึ้น : ความสะดวกสบายที่เทคโนโลยีต่างหยิบยื่นให้นั้นได้ส่งผลต่อไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่อย่างมาก เหมือนได้ทะลายกำแพงแห่งความเรียบง่ายโดยสิ้นเชิง อาจจะทำให้คนไทยมี “นิสัยเสีย” เพิ่มขึ้นก็เป็นได้ โดยผู้บริโภคจะมองหาแบรนด์สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตนเองให้ได้มากที่สุด ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ
2. พลังแห่งสัญลักณ์ : เราจะเห็นคนรุ่นใหม่ที่เริ่มตื่นตัวต่อสังคมไทยเพิ่มมากขึ้น โดยผู้ที่มีความสนใจเหมือนๆ กัน ทั้งความเชื่อ ทัศนคติ จะแสดงออกโดยวีการที่ง่ายที่สุดคือทางสัญลักษณ์ สี หรือรูปประจำตัวในโซเชียล มีเดีย การแชร์คอนเทนส์ในโซเชียลมีเดียก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ในสมัยนี้จะมีแฟนเพจเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ สำหรับคนที่มีความสนใจเดียวกัน แต่มีพลังมากกมายมหาศาลต่อการส่งต่อข้อมูล แบรนด์ต่างๆ ต้องรู้จักเชื่อมโยงกับความคิดของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ได้
3. การรับรู้ของผู้บริโภค : ผลวิจัยของยูเนสโก้บอกว่า ในปี 2555 คนไทยอ่านหนังสือโดยเฉลี่ย 8 บรรทัดต่อปี และในปี 2556 ลดลงไปเหลือเพียงแค่ 4 บรรทัดต่อปีเท่านั้น ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมการอ่านหนังสือที่เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเปลี่ยนแปลงไปสู่การอ่านข้อมูลประเภทรูปภาพ หรืออินโฟกราฟิก ดูวิดีโอคลิป ไปจนถึงการใช้สติ๊กเกอร์ไลน์ จะเห็นได้ว่าแอพพลิเคชั่นที่โดนใจกับไลฟ์สไตล์ประเภทนี้ก็คืออินสตาแกรม ส่งผลให้คนไทยนิยมใช้อินตสตาแกรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
4. ความเร็วที่เหมาะสม : ผู้บริโภคแบบ Nowism เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ส่งผลทำให้ความอดทนลดน้อยลงเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนก็ต้องการข้อมูลที่สะดวก รวดเร็ว ในขณะที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญกับข้อมูล โดยต้องรู้จักสื่อสารให้ตรงจุด รู้ระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย
5. คอนเทนส์สำคัญอันดับหนึ่ง : นอกจากผู้บริโภคจะมีตัวเลือกในการรับชมโทรทัศน์จากการมาของทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น โดยมีเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ ซึ่งคอนเทนส์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญอันดับหนึ่งในการผลิตสื่อใดๆ ออกมา รวมไปถึงยังต้องปรับให้เข้ากับหลายแพลตฟอร์มอีกด้วย แนวโน้มดังกล่าวข้างต้นไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวิธีการที่แต่ละแบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับทิศทางของผู้บริโภคอีกด้วย
เตรียมรับมือทีวีดิจิตอล
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมในปี 2557 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% ซึ่งสูงกว่าปี 2556 อยู่ 3% การใช้จ่ายไปกับสื่อโทรทัศน์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5% รวมทั้งฟรีทีวี ทีวีดิจิตอล และทีวีเคเบิล
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจะลดลงประมาณ 3% -5% สื่อดิจิตอลจะกลายเป็นสื่อที่ดีที่สุด นอกจาก การใช้สื่อแมสอย่างทีวี ยกเว้นสื่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT
แต่สถานการณ์เรื่องการเมืองที่ไม่ปกติก็ส่งผลโดยตรงต่อการใช้สื่อโฆษณาเช่นเดียวกัน คาดการณ์ว่าจะได้เห็นการใช้สื่อลดลงถึงสองหลัก ถ้าการชุมนุมยังคงยืดเยื้อไปถึงไตรมาสที่สอง
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ในวงการทีวีในปี 2557 นั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องทีวีดิจิตอล ที่จะเปิดตัวในวันที่ 1 เมษายน 2557 ซึ่ง จะมีผลกระทบอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ชม และเรตติ้งของช่องทีวีโดยรวม คาดการณ์ว่าประชากรไทยประมาณ 70 % จะสามารถดูทีวีดิจิตอลได้ในวันที่ 1 เมษายน ส่วนอีก 30% นั้นยังคงใช้ทีวีแบบเสาอากาศอยู่ ทั้งนี้จากผลสำรวจของ Nielsen โดยกลุ่มตัวอย่าง 70% ที่สามารถดูทีวีดิจิตอลได้ หรือ 1,270 ครัวเรือน ที่ใช้เคเบิลทีวี และระบบดาวเทียม ( 680 ครัวเรือน เป็นระบบดาวเทียม 190 ครัวเรือนดูเคเบิลทีวี และอีก 400 ครัวเรือนใช้ของ TrueVision )
แม้ว่า ณ เวลานี้อาจจะไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมผู้ชมหลังจากการเปิดตัวของทีวีดิจิตอลได้อย่างแม่นยำ เพราะทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหา และช่วงเวลาการออกอากาศด้วย เพียงแต่นักวางแผนต้องมีการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจกับสื่อใหม่ๆ ให้ดีที่สุด
