MAXXMA ชูฟิล์มประหยัดพลังงาน ส่งสินค้าระดับพรีเมี่ยมบุกตลาดอสังหาฯ

“แม็กซ์ม่า” บุกตลาดอสังหาฯ ส่งฟิล์มประหยัดพลังงานสำหรับอาคารระดับพรีเมี่ยมลงตลาด โหนกระแสรักษ์โลกประหยัดพลังงาน ชูจุดเด่นช่วยลดอุณหภูมิในอาคารบ้านพักอาศัยให้ลดลง ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่าย พร้อมดันม่านประหยัดพลังงาน (ECO BLIND) นวัตกรรมใหม่จากอเมริกา คาดดันยอดขายโต 20% 

นายชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ    กรรมการผู้จัดการ  บริษัท วงศ์บราเดอร์  อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงานภายใต้แบรนด์ “MAXXMA” (แม็กซ์ม่า)  กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มสูบ เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางแนวโน้มที่จะเติบโตที่ดี ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มนิ่ง ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว และปัจจัยจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เริ่มลดลง โครงการคอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร ที่พักอาศัย ที่เปิดตัวใหม่ๆมากขึ้น ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจังในปี

โดยในปีนี้บริษัทจะส่งฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่า (Nano Ceramic, Metallized) ซึ่งเป็นฟิล์มสำหรับอาคารบ้านเรือนระดับพรีเมี่ยม ที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูง เคลือบด้วยผงเซรามิคโมเลกุลเล็ก ผสมสารป้องกันรังสียูวี และอินฟาเรด ปิดทับด้วยสารกันรอยที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยให้เนื้อฟิล์มใสไม่ขุ่นมัว เนื้อฟิล์มมีความเคลียร์สูงแสงสะท้อนต่ำ ให้ภาพคมชัด สบายตาทั้งเวลากลางวันและกลางคืน สีฟิล์มคงทนไม่ซีดจาง ไม่เป็นรอยขูดขีดและรักษาง่าย การใช้ฟิล์มติดอาคารนอกจากจะสามารถช่วยป้องกันความร้อน ป้องกันรังสีอันตราย ป้องกันรังสียูวี ได้มากกว่า 99% ยังลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ซึ่งสามารถช่วยลดอุณหภูมิได้ 2-3 องศาเซ็นเซียส  สามารถป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังได้ และใช้เป็นการตกแต่งได้ด้วย เพราะฟิล์มมีให้เลือกหลายสี และมีลวดลายด้วย

พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังมุ่งทำตลาดต่อเนื่อง กับม่านประหยัดพลังงาน(MAXXMA ECO BLIND)  ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตจากฟิล์มประหยัดพลังงาน“แม็กซ์ม่า”  มีคุณสมบัติหนากว่าฟิล์มทั่ว ๆ ไป มีความหนาขนาด .003 มิลลิเมตร และ .005 มิลลิเมตร มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบผิวเรียบ และแบบลายนูน ซึ่งจะเจาะกลุ่มเจ้าของอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงาน บ้านจัดสรร และร้านอาหาร เป็นต้น

ม่านประหยัดพลังงาน(MAXXMA ECO BLIND) สามารถป้องกันความร้อนได้สูงกว่าม่านม้วนทั่ว ๆ ไป โดยสามารถกันความร้อนได้มากถึง 90% และกัน UV ได้ถึง 99% ซึ่งจะช่วยสะท้อนความร้อนออกจากตัวอาคารได้ดี ทำให้ช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารบ้านเรือนด้วย สามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้ชัดเจนกว่า ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นที่สะสมของฝุ่นและเชื้อโรค ช่วยป้องกันสีซีดจางของเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ของใช้ภายในอาคารบ้านเรือนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การออกแบบยังมีความสวยงาม สามารถดีไซน์รางหรือสายดึงได้หลายสี มีความยืดหยุ่นเลื่อนขึ้น-ลง ได้ตามความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นของตกแต่งบ้านให้สวยงามได้อีกด้วย

ส่วนสภาพการแข่งขันนั้น ด้วยสภาวะของอากาศที่มีความร้อนสูงมากขึ้น จึงทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการวัสดุอุปกรณ์เพื่อลดความร้อนมีมากขึ้นด้วย ซึ่งทางบริษัท คาดว่าผู้จัดจำหน่ายฟิล์มรายอื่นน่าจะเตรียมบุกตลาดนี้ด้วย การแข่งขันก็จะมีความรุนแรง บริษัทในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายที่มีประสบการณ์มานานกว่า 15 ปี จึงบุกตลาดโดยชูจุดเด่นในความเป็นผู้เชี่ยวชาญ เเละฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง จากประเทศเกาหลี ที่ใช้เทคโนโลยี และกระบวนการผลิต ตลอดจนขั้นตอนการตรวจสอบจากประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าดีที่สุดแห่งหนึ่ง

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทจะดำเนินการในเชิงรุก ด้วยการสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น ผ่านการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ โซเชียลเน็ตเวิร์ก เวปไซต์  โดยตั้งงบการตลาดรวมโฆษณาประชาสัมพันธ์ไว้กว่า 10% ของยอดขาย พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย จัดกิจกรรมกับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง การฝึกอบรมช่างให้มีทักษะในการติดตั้งฟิล์มอย่างมีคุณภาพ  เน้นการออกบูธแนะนำสินค้า ซึ่งจะเจาะกลุ่มไปที่งานเกี่ยวกับวงการบ้าน สถาปนิก งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งด้วย สื่อสารตรงและสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย 
 

โดยปีนี้บริษัทจะไปร่วมออกบูธงานสถาปนิกวันที่ 29 เมษายน ถึง 4 พฤษภาคม 2557 บูธหมายเลข F103 ใกล้บริเวณทางเข้า Challenger 2 Entrance 1 พิกัดของบูธ I-20 เมืองทองธานี  โดยจะยกขบวนสินค้าดีมีคุณภาพไปแสดงในงาน อาทิ ฟิล์มประหยัดพลังงาน (Nano Ceramic, Metallized) ฟิล์มนิรภัย ฟิล์มตกแต่งภายใน ม่านประหยัดพลังงาน(MAXXMA ECO BLIND)  ฟิล์มกันรอยสำหรับเฟอร์นิเจอร์

นายชัยรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพของสินค้า การบริการหลังการขาย เพื่อให้ถูกใจผู้บริโภค รวมทั้งได้มีการคิดค้นนวัตกรรมและสินค้าใหม่ๆเพื่อครองใจผู้บริโภค และบริษัทก็จะพัฒนาและใส่ใจต่อสินค้าและผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้ง”