นอกจากสมาร์ทโฟน ที่ “ซัมซุง” เปิดเกมรุก ด้วยการทำตลาดตั้งแต่รุ่นไฮเอ็นท์ จนถึงรุ่นราคาถูกอย่าง ซัมซุง “ฮีโร่” เช่นเดียวกับในตลาดแท็บเล็ต ที่ซัมซุง มีสินค้าครอบคลุมทั้งตลาดแมส ระดับกลางและระดับพรีเมี่ยม
แต่สำหรับปีนี้ ซัมซุง หันให้น้ำหนักกับรุ่น “พรีเมียม” ด้วยการออกแท็บเล็ตระดับพรีเมี่ยมรุ่น “GALAXY TabSซึ่งซัมซุงตั้งใจให้เป็น “แฟล็กชิพโมเดล” ในการทำแท็บเล็ทระดับพรีเมียม
จุดเด่น ของเครื่องรุ่นนี้ อยู่ที่หน้าจอ Super AMOLED เน้นสีสดและ คมชัด เพราะจากอินไซท์พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย นิยมซื้อแท็บเล็ทเพื่อดูสื่อบันเทิงเป็นอันดับแรก ทั้งคลิปวิดีโอ เข้าอินเทอร์เน็ตดูสื่อบันเทิง ทั้งทีวี หนัง และซีรีส์ต่างๆ (ดูตารางประกอบ) ทำให้ซัมซุง จึงหันมาให้น้ำหนักกับจอภาพ เพื่อตอบโจทย์การหาความบันเทิงเป็นหลัก และยังรับกับกระแสของการเปิดยูทิวบ์ ในไทยและทีวีดิจิตอลทีวี
นอกจากนี้ การวางตลาด 2 รุ่น คือ รุ่นหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว ราคา 16,900 บาท และหน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว ราคา 19,900 บาท ก็เพื่อต้องการตอบโจทย์คนไทยยังนิยมจอขนาด 8 นิ้ว
แม้ว่า แท็บเล็ตระดับพรีเมี่ยม จะมีสัดส่วนประมาณ 20% จากมูลค่าตลาดรวม 13,900 ล้านบาท ในปี 2013 หรือคิดเป็นมูลค่า 2,780 ล้านบาท และมีจำนวน 344,000 เทียบไม่ได้กับตลาดระดับกลาง ที่คิดเป็นสัดส่วนถึง 70% (ข้อมูล จีเอฟเค)
แต่ซัมซุง ก็มองด้วยว่าในตลาด แท็บเล็ตในระดับพรีเมี่ยมนั้นคู่แข่งยังมีไม่มาก คู่แข่งหลักมีแอปเปิ้ลรายเดียว ซึ่งซัมซุงแข่งมาตั้งแต่สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ที่ผ่านมาซัมซุงก็มักจะออกโฆษณา จิกกัดคู่แข่งตลอดเวลา รวมถึงในการทำตลาด กาแล็คซี่ แท็บ เอส กับโฆษณาชุดล่าสุด ที่ซัมซุงตั้งใจเปรียบเทียบถึงคุณสมบัติหน้าจอ Super AMOLED ของ GALAXY Tab S และหน้าจอ LCD ของ iPad Air
ต้องดูว่าความพยายามในการตอบโจทย์ ลูกค้าคนไทยของซัมซุงครั้งนี้ จะเอาชนะเหนือคู่แข่งอย่างไอแพดได้แค่ไหน