เอปสันเผยทิศทางรุกตลาดโปรเจ็คเตอร์ครึ่งปีหลัง

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเอปสันประสบ ความสำเร็จในตลาดโปรเจ็คเตอร์ของเมืองไทย ครองตำแหน่งเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่งรวม 30% และยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทฯ (เมษายน – มิถุนายน 2557) มีอัตราเติบโตจากปีที่แล้ว 20% และหากมองตลาดโปรเจ็คเตอร์ในแต่ละประเภทแล้ว เอปสันครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องที่มีความสว่างไม่เกิน 4,000 ลูเมนส์ ถึง 40% ในขณะที่ตลาดเครื่องความสว่างสูงเกิน 4,000 ลูเมนส์ เอปสันติดอยู่ในท็อป 3 ส่วนเครื่อง รุ่นใหญ่ หรือรุ่น High Performance ความสว่างเกิน 8,000 ลูเมนส์ เป็นตลาดที่เอปสันกำลังบุกหนักอยู่ในขณะนี้

“ความสำเร็จของเอปสันมาจากกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทุกมิติ เรามุ่งศึกษาความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มอย่าง ละเอียดและมองเห็นถึงความต้องการที่แตกต่างกัน เอปสันจึงออกสินค้าให้สามารรองรับตลาดได้ทุกเซ็กเม้นท์ ซึ่งปัจจุบัน เอปสันเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มีสินค้าโปรเจ็คเตอร์มากที่สุด คือมากกว่า 60 รุ่นในตลาดเมืองไทย สินค้าทุกรุ่นได้รับการพัฒนาและเสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยีชั้นนำที่เป็นเอกสิทธิ์ของเอปสัน เพื่อให้มีความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลายได้”

“ในขณะเดียวกัน เราก็ได้พัฒนาทีมผู้เชี่ยวชาญในหลายๆ ด้านที่คอยศึกษาความต้องการของลูกค้าและเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ ในก้าวนำหน้าตลาดอยู่เสมอ และสุดท้ายก็ คือการพัฒนาด้านบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้า และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ” นายยรรยง กล่าวต่อ

ปัจจุบัน ฐานลูกค้าหลักของเอปสันคือกลุ่มสถาบันการศึกษา คิดเป็น 55% รองลงมาคือกลุ่มเอสเอ็มอีและโซโห 25% กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ 15% ตามด้วยตลาดโฮมเธียร์เตอร์ 3% และกลุ่มโปรเฟสชันแนล 2%

นายยรรยง กล่าวถึงทิศทางในช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทฯ (ตุลาคม 2557 – มีนาคม 2558) ว่า “สำหรับตลาดสถาบัน การศึกษานั้น เอปสันจะบุกขยายตลาดโดยชูจุดเด่นทางด้านความคุ้มค่าในการลงทุน เนื่องด้วยเครื่องในรุ่นนี้จะมี ราคาที่ถูกลงขณะที่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น เช่น ด้านการเชื่อมต่อผ่าน WIFI ส่วนตลาดเอสเอ็มอีและโซโห เอปสัน จะเน้นที่ฟังก์ชั่นครบครัน ช่วยให้การนำเสนองานน่าประทับใจ ง่ายต่อการติดตั้งและควบคุม ซึ่งจะมีตั้งแต่รุ่นที่บาง พกพาสะดวก เหมาะกับเอเจนซี่ต่างๆ ไปจนถึงรุ่นที่ใช้กับสถานที่ขนาดใหญ่”

“ในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ เอปสันจะตอกย้ำในเรื่องของคุณภาพ เป็นโซลูชั่นสำหรับการนำเสนองานที่ครบถ้วน และไว้ใจได้ ซึ่งจะมีสินค้าออกมาให้เลือกมากมาย ให้เหมาะกับประเภทการใช้งานของลูกค้า และสำหรับกลุ่ม โปรเฟสชันแนล ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการเครื่องที่มีความสว่างสูงพิเศษและใช้กับประเภทงานพรีเซนเตชั่นที่มีความ เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เอปสันกำลังเร่งขยายฐานลูกค้าในตลาดนี้อยู่ โดยจะชูเรื่องความล้ำสมัย ความสมบูรณ์ แบบในการใช้งาน ไร้ข้อจำกัดสำหรับงานสร้างสรรค์ ซึ่งจะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นออร์แกไนเซอร์ และธุรกิจให้ บริการเช่าอุปกรณ์สำหรับจัดงานอีเว้นท์”

“การที่เอปสันได้สนับสนุนกิจกรรมประเภทงานแฟชั่น อย่าง งาน dVIS Autumn-Winter 2014 AEC Fashion Show presented by Epson ที่ได้ทำการโร้ดโชว์แสดงผลงานการดีไซน์เสื้อผ้าของคนไทยไปทั่วเออีซี ก็เพื่อแสดง ศักยภาพของโปรเจ็คเตอร์เอปสันว่าสามารถตอบโจทย์ของงานแฟชั่นโชว์ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นงานประเภทที่ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก ในวงการแฟชั่นหรือธุรกิจด้านการดีไซน์ การนำเสนองานให้ลูกค้าประทับใจ มีความสำคัญมากพอๆ กับความคิดริเริ่ม ความคิดสร้างสรรค์ ของดีไซเนอร์ ดังนั้น เอปสันจึงต้องการแสดงให้เห็น ว่า เทคโนโลยีของเอปสันจะสามารถพาธุรกิจของลูกค้าก้าวไปได้ไกลตามที่ลูกค้าจะจินตนาการได้ ไม่ว่าลูกค้าจะ อยู่ในวงการหรือธุรกิจใด” นายยรรยง กล่าวต่อ

สำหรับสินค้าใหม่ที่ออกสู่ตลาดในวันนี้ ประกอบด้วยเครื่องจาก 3 ซีรี่ส์ ได้แก่ EB-W28 เป็นเครื่องรุ่น Smart Series ที่มีความสว่าง 3,000 ลูเมนส์ มีจุดเด่นด้านความสามารถในการเชื่อมต่อโปรเจ็คเตอร์กับสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยการอ่าน ค่า QR Code ผ่านแอพพลิเคชั่น iProjection ของเอปสัน ทั้งยังมีฟังก์ชั่น Multi PC ที่สามารถรับสัญญาณจาก อุปกรณ์ต่างๆ ได้ถึง 50 เครื่อง ผ่านWIFI และพอร์ตเชื่อมต่อ และแสดงผลพร้อมกันได้ 4 จอในเวลาเดียว

เครื่องในกลุ่ม Professional Series ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ได้แก่ EB-1975W โปรเจ็คเตอร์ความสว่าง 5,000 ลูเมนส์ ให้การแสดงผลแบบ WXGA และ EB-1985WU ความสว่าง 4,800 ลูเมนส์ แสดงผลแบบ WUXGA มีจุดเด่นด้าน การเชื่อมต่อที่หลากหลาย รวมไปถึงการทำ Screen Mirroring ผ่านเทคโนโลยี Miracast กับอุปกรณ์ที่มี WiDi หรือ การเชื่อมหน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น มือถือ แท็ปเล็ท กับเครื่องโปรเจ็คเตอร์ ในแบบ peer-to-peer ไร้สาย

EB-Z Series เครื่องในกลุ่ม High Performance โปรเจ็คเตอร์ที่ให้ความสว่างสูงและให้ประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับ งานในพื้นที่กว้าง เช่น ห้องประชุม พิพิธภัณฑ์ และงานกลางแจ้ง พร้อมคุณสมบัติพิเศษเพื่องานพรีเซนเตชั่นที่ ต้องการความสร้างสรรค์ เช่น Portrait Projection การฉายภาพมุมตั้ง หรือ Edge Blending การเชื่อมภาพฉาย จากเครื่องโปรเจ็คเตอร์มากกว่า 1เครื่อง

นายยรรยง กล่าวถึงสินค้าที่เปิดตัวในครั้งนี้ว่า สำหรับ EB-W28, EB-1975U และ EB-1985WU เป็นการตอกย้ำ ความเป็นผู้นำเทคโนโลยีและผู้นำตลาดของเอปสันที่ช่วยให้ลูกค้าในธุรกิจระดับกลางสามารถมีโปรเจ็คเตอร์ ประสิทธิภาพสูง มีฟังก์ชั่นและคุณสมบัติพิเศษที่ทันสมัย มีความหลากหลายใกล้เคียงกับเครื่องรุ่นใหญ่ได้ในราคา ไม่แพง ในขณะที่ EB-Z Series เครื่องที่มีระดับความสว่างถึง 11,000 ลูเมนส์ ถือเป็นการเปิดฉากรุกตลาดเครื่อง รุ่นใหญ่อย่างจริงจัง ซึ่งถึงแม้จะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่ แต่มีมูลค่าทางการตลาดค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีแบรนด์คู่แข่ง ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสอีกมาก เพราะลูกค้าในกลุ่มนี้ต้องการเทคโนโลยีที่สามารถตอบ สนองได้ทั้งความจำเป็นในการพรีเซนต์งานพื้นฐานและงานสร้างสรรค์ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพแวดล้อมและพื้นที่ การใช้งาน ทำให้มองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มารองรับการทำงานอยู่เสมอ โปรเจ็คเตอร์ของเอปสันที่มีทั้งเทคโนโลยี 3LCD ที่ให้สีที่สดใสและแม่นยำ สามารถเห็นรายละเอียดของภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งยังให้ภาพที่คมชัดสมจริง เพราะมีค่าแสงสี หรือ Color Brightness สมดุลกับแสงสีขาว จึงน่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าในกลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว”

“ตลาดโปรเจ็คเตอร์ในช่วงเวลานี้ถือว่าเริ่มมีความเคลื่อนไหวในทางบวก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีความ ชัดเจนมากขึ้น องค์กรธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ กลับมามีความมั่นใจในการลงทุนด้านไอที รวมไปถึงการใช้ งบประมาณด้านการตลาด เพื่อส่งเสริมการขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้งานอีเว้นท์ต่างๆ กลับมาคึกคักยิ่งขึ้น เอปสันจึงสนใจที่จะบุกตลาดเครื่อง High Performance ในตลาดโปรเฟสชั่นนัลอย่างจริงจัง ซึ่งคาดว่าหลังจาก ออก EB-Z Series ในวันนี้แล้วจะมีเครื่องความสว่างสูงกว่าหมื่นลูเมนส์ เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น และช่วยเอปสันเพิ่มมาร์เก็ตแชร์และยึดตำแหน่งผู้นำตลาด ต่อไป” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย